ขอแสดงความนับถือ/ฉบับประจำวันที่ 8-14 มกราคม 2564

ขอแสดงความนับถือ

 

ในท่ามกลางข่าวร้าย ไวรัสโควิด-19 ระบาดรอบใหม่

หนักนั้นหนักแน่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะหนักขนาดไหน

คอลัมน์ “วิรัตน์ แสงทองคำ” ได้จับความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมารายงาน

อาจเป็นข่าวดี (บ้าง) สำหรับคนไทย

โดยโฟกัสไปที่ “สยามไบโอไซเอนซ์”

แล้วเชื่อมโยงกับข่าวต้อนรับปีใหม่ 2564 ที่คงผ่านตาหลายๆ คนมาแล้ว

“กระทรวงสาธารณสุขเผยไทยเริ่มผลิตวัคซีนโควิด-19 ในประเทศแล้ว โดยเป็นวัคซีนที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และบริษัทแอสตราเซเนก้า กำลังการผลิตได้ปีละ 200 ล้านโด๊ส จะทยอยส่งมอบล็อตแรกในเดือนพฤษภาคม 2564…”

ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ว่านั้น

ก็คือ “บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์” นั่นเอง

“วิรัตน์ แสงทองคำ” จึงพาเราไปรู้จักสยามไบโอไซเอนซ์

ซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่ง พลิกอ่านรายละเอียดที่หน้า 26

ว่าถึงวัคซีนแล้ว มีอีเมลจากผู้อ่าน มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย

โปรดพิจารณา

 

เรียนบรรณาธิการมติชนสุดสัปดาห์ที่เคารพ

ในรายงานพิเศษ “วัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกในอเมริกา” ของ “มงคล วัชรางค์กุล” นั้น

มีความคลาดเคลื่อนหลายจุด

ขอชี้แจงดังนี้

  1. วัคซีนของ Pfizer ไม่ได้ผ่านการ “รับรอง” จาก FDA

สิ่งที่ Pfizer ได้จาก FDA คือ Emergency Use Authorization (EUA)

แปลเป็นไทยคร่าวๆ คือ การอนุญาตให้ใช้ (ยา/เครื่องมือ/วัคซีน) เป็นการเร่งด่วนฉุกเฉิน

ไม่ใช่การ “รับรอง” แบบปกติซึ่งต้องใช้เวลาในการดูผลการทดลอง การตรวจเช็กซ้ำไปซ้ำมาแบบเข้มข้นเหมือนที่ FDA ทำปกติ

และในขณะนี้วัคซีนของ Pfizer (รวมถึงวัคซีนอื่นๆ เช่นของ Moderna ที่ได้ EUA เช่นกัน) ยังมีสถานะในการทดลองยาแบบ “Active” อยู่เช่นเดิม

ตามคำอธิบายในหน้าของ ClinicalTrials.gov นั้น ระบุการออกแบบการศึกษาเอาไว้ คาดว่าจะสิ้นสุดการเก็บผลเบื้องต้นในปี 2021 และคาดว่าจะสิ้นสุดการศึกษาในปี 2023

ซึ่งแปลว่าในระหว่างการใช้วัคซีน เมื่อให้กับคนทั่วไปแล้วพบว่าไม่ได้ผลแบบที่เคยประกาศ

หรือก่อให้เกิดโรคอื่นหรือการเสียชีวิตแบบที่อธิบายไม่ได้ในระดับที่สูงเกินอัตราปกติ

FDA สามารถถอน EUA และระงับการใช้ได้ทันที

โปรดดูข้อมูลการทดลองของวัคซีนของ Pfizer ได้ที่ ClinicalTrials.gov และเปิดหา ID “NCT04368728”

หรือ ใช้ keyword search ว่า “covid19 pfizer vaccine”

 

2.Pfizer ไม่ได้รับเงินอุดหนุนทุนวิจัยจากโครงการ Operation Warp Speed จากรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด

สิ่งที่ Pfizer ได้คือค่าดำเนินการในการผลิตเป็นจำนวนมากและการกระจายวัคซีนไปทั่วประเทศสหรัฐ (“large-scale manufacturing and nation-wide distribution”)

ซึ่งแปลเป็นไทยว่าค่าผลิตและกระจายสินค้า

โดยมีเงื่อนไขว่าต้องผ่านการตรวจสอบและได้รับ EUA จาก FDA ก่อน

จำนวนเงินที่ได้คือ 1.95 พันล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัทที่ได้รับเงินอุดหนุนในการวิจัยโดยตรงจากรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาคือ Johnson & Johnson (Janssen), Moderna, AstraZeneca, Merck, Novavax และ Sanofi-GSK

โปรดดูรายละเอียด Operation Warp Speed ที่บอกรายละเอียดเหล่านี้จากเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐ https://www.hhs.gov/coronavirus/explaining-operation-warp-speed/index.html และหน้า wikipedia https://en.wikipedia.org/wiki/Operation_Warp_Speed

 

  1. Pfizer ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อวิจัยจากรัฐบาลกลางสหพันธรัฐเยอรมนี ผ่านบริษัท BioNTech SE ที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี

โปรดดูข่าวจาก Bloomberg ที่ https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-11-09/pfizer-vaccine-s-funding-came-from-berlin-not-washington

ด้วยความเคารพ

ยสวัต ป้อมเย็น

 

ขอบคุณ ยสวัต ป้อมเย็น

ที่ให้ข้อมูลเสริม มงคล วัชรางค์กุล

และมงคล วัชรางค์กุล ได้รับทราบและขอชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้

  1. ผมรวบรวมข้อมูลการเขียนเรื่องวัคซีนเข็มแรกในอเมริกาจากหลายแหล่งข่าวใน น.ส.พ. The Wall Street Journal, The Reading Regal และ Boomberg Business Week ที่ทุกฉบับต่างทำสกู๊ปเรื่องวัคซีนโควิด

รวมทั้งติดตามข่าวเรื่องวัคซีนจากทีวีช่อง Fow News, CNN, CNBC

ทุกแหล่งข่าวล้วนรายงานว่า วัคซีนของทั้ง Pfizer และ Moderns ผ่านการรับรองจาก FDA แล้ว

ไม่มีแหล่งข่าวไหนใช้คำว่า “FDA รับรองอย่างมีเงื่อนไข”

เพราะถ้าข่าวออกว่า FDA รับรองอย่างมีเงื่อนไข คนบางส่วนอาจจะไม่กล้าฉีดวัคซีน

ผมยอมรับว่า ผู้คัดค้านทำงานใน NIH อาจจะมีข้อมูลที่ลึกกว่าข่าวที่แพร่ตามสื่อปกติ แต่ผมถือว่าการรายงานของผมในข้อนี้ไม่มีความผิดพลาด

  1. เป็นข่าวที่แพร่หลายทั่วไปว่า Pfizer ได้รับเงินจากโครงการ Operation Warph Speed 1.95 พันล้านเหรียญ

ข่าวบอกแค่นี้ ไม่ได้ลงในรายละเอียดว่าให้เป็นค่าอะไร

ผู้คัดค้านอาจมีข้อมูลที่ลึกกว่า แต่แหล่งข่าวทุกสื่อไม่ได้ให้รายละเอียดขนาดนั้นว่าเป็นค่าอะไร

  1. การตำหนิว่าทรัมป์มีความผิดพลาดในการป้องกันโควิดในช่วงเดือนมีนาคมนั้น

ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลานั้น ทุกคนยังหาหนทางสู้กับไวรัส ไม่มีใครรู้ว่าจะทำอย่างไรดีที่สุด อาจมีการลองผิดลองถูกบ้างเป็นธรรมดา

แต่ต้องยอมรับว่า ทรัมป์กล้าตัดสินใจสร้างโครงการ Operation Warp Speed ผลิตวัคซีนได้สำเร็จภายในสิ้นปีตามเป้าหมาย

จึงเรียนชี้แจงมา

ขอแสดงความนับถือ

มงคล วัชรางค์กุล