เซ็นทรัล รีเทล เดินเกมรุกชัยภูมิ ทุ่มงบ 500 ลบ. เปิด ไทวัสดุ สาขาที่ 61 ใหม่ล่าสุด พื้นที่กว่า 19,000 ตรม. รองรับการเติบโตตลาดอสังหาฯ ภาคอีสาน ชี้กำลังซื้อกลุ่มฮาร์ดไลน์วัสดุก่อสร้างเริ่มกลับ รับการฟื้นตัวธุรกิจโดยรวม

กรุงเทพฯ 16 มีนาคม 2565 – บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ซีอาร์ซี เดินหน้าขยายธุรกิจ ประเดิมต้นปี 65 ทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ “ไทวัสดุ สาขาชัยภูมิ” ศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย ดำเนินธุรกิจโดย บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ปักธงทำเลยุทธศาสตร์ศักยภาพสูงบนพื้นที่กว่า 19,000 ตารางเมตร รองรับความต้องการการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชี้กำลังซื้อกลุ่มฮาร์ดไลน์วัสดุก่อสร้างเริ่มกลับ รับการฟื้นตัวธุรกิจโดยรวม คาดสร้างยอดขายเติบโต 15% พร้อมตั้งเป้าขยาย 10 สาขาในปี 2565

            นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของบริษัทฯ ที่ได้เดินหน้าการขยายธุรกิจ ไทวัสดุ อย่างต่อเนื่องกว่า 60 สาขา ในระยะเวลา 12 ปี ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดสาขาที่ 61 สาขาชัยภูมิ ด้วยเล็งเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดชัยภูมิที่เป็นจังหวัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญและเข้มแข็งแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยใช้งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เจาะกลุ่มเป้าหมายฐานลูกค้าเก่าซึ่งเป็นลูกค้าทั่วไปที่ต้องการปรับปรุง ซ่อมแซม บ้านเก่าและสร้างใหม่ รวมถึงกลุ่มผู้รับเหมา ด้วยแนวคิดศูนย์รวมสินค้าบ้านของคนไทย “ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี” และสานต่อกลยุทธ์ออมนิชาแนลผ่านช่องทางการเข้าถึงสินค้าและบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมรองรับการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจก่อสร้างภายในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง  

            สำหรับ ไทวัสดุ สาขาชัยภูมิ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ มีขนาดพื้นที่ 19,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนถนนหลักทางหลวงหมายเลข 201 มีบ้านเรือนมากกว่า 170,000 ครัวเรือน ในรัศมี 30 กิโลเมตร ที่รายได้ครัวเรือนเฉลี่ยค่อนข้างสูง ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญและมีศักยภาพ ใกล้กับใจกลางเมือง แหล่งชุมชนและแหล่งช้อปปิ้ง โดยไทวัสดุ สาขาชัยภูมินั้นยังคงส่งมอบความคุ้มค่าและความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งให้กับลูกค้า รวมถึงความครบครันของสินค้าเรื่องบ้าน ทั้งวัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เครื่องมือช่าง กระเบื้องและห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์ครัวและอุปกรณ์ครัว และของตกแต่งบ้าน จากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ นอกจากนี้ ยังเสริมโซลูชันบริการเกี่ยวกับเรื่องบ้าน วีฟิกซ์ (vFix) โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญตอบโจทย์ครบทุกเรื่องของบ้าน ทั้งซ่อมแซม ติดตั้ง ต่อเติม รีโนเวท พร้อมด้วยช่องทางที่หลากหลายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตอกย้ำแนวคิด ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี ที่ไทวัสดุ สะดวกทุกที่ ทุกเวลา  

            “การขยายสาขาไทวัสดุในครั้งนี้ นอกจากเป็นการส่งมอบสินค้าคุณภาพและบริการเกี่ยวกับบ้านที่มีคุณภาพให้กับชาวชัยภูมิแล้ว ยังคงเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับชาวชัยภูมิ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจฮาร์ดไลน์ไทย โดยคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้ตามเป้า”  

            “สถานการณ์ภาพรวมของธุรกิจฮาร์ดไลน์สินค้าวัสดุก่อสร้างของประเทศ ในช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา อยู่ในช่วงการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ สืบเนื่องมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และมาตรการผ่อนคลายเปิดประเทศรับการท่องเที่ยว รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนโดยรวมของคนทั้งประเทศที่ส่งผลให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น แม้สถานการณ์โดยรวมในปี 2565 ยังคงมีความท้าทายแต่ก็นับเป็นสัญญาณที่ดี ของธุรกิจฮาร์ดไลน์สินค้าวัสดุก่อสร้างที่จะมีการฟื้นตัวประมาณ 15% ตามเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยคาดว่าธุรกิจจะฟื้นตัวมากขึ้นภายในครึ่งปีหลังของปี 2565 นี้ ด้วยเหตุนี้ ซีอาร์ซี ไทวัสดุ พร้อมตอบรับการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างที่กำลังขยายตัวสวนกระแสเศรษฐกิจ เสริมศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจอย่างมั่นคง ตั้งเป้าการขยาย 10 สาขา ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั่วประเทศในปี 2565 ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจฮาร์ดไลน์เบอร์หนึ่งของประเทศไทย” นายสุทธิสาร กล่าวปิดท้าย

            ติดตามข้อมูลข่าวสาร พร้อมรายละเอียดโปรโมชัน เพิ่มเติม ได้ที่ www.thaiwatsadu.com Facebook Fanpage: Thai Watsadu และ ไลน์ไอดี @Thaiwatsadu หรือ โทร 1308

 

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,599 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 57 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 40 จังหวัด, และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564)