บรรยากาศแห่ง “เย็นฉ่ำทั่วหล้า มหาสงกรานต์”ได้สะท้อนให้เห็นการสร้าง”จุดต่าง”ในสังคมขึ้นมาอย่างเห็นรูปธรรม

ไม่เพียงแต่จะวัดได้จาก”ปริมาณ” การเข้าร่วม

หากยังวัดได้อีกด้วยว่าห้วงเวลาใดที่เหมาะสมกับคนในช่วงชั้นใดในสังคมโดยสะท้อนผ่านลักษณะแห่ง”ดนตรี”

หากยังวัดได้อีกด้วยใน”กระบวนท่า” และ”อาการ”

จึงถูกต้องแล้วที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเปิดห้องพิเศษในสโมสรใดสโมสรหนึ่งเพื่อให้ผู้ที่เคารพนับถือเรียงแถวกันเข้ารดน้ำ

จึงถูกต้องแล้วที่ประธานพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะนั่งรถจากหมอชิต 2 ไปเล่นสงกรานต์ที่ลำพูนต่อเนื่องไปยังลำปาง เชียงใหม่

เท่านั้นไม่พอยังบินไปรับการสาดน้ำที่หนองคาย มุกดาหาร อุดรธานี แล้วร่วมในการสร้างคลื่นแห่งผู้คนบนถนนข้าวเหนียวของขอนแก่นท่ามกลางคนเรือนแสน

แม้กระทั่งดนตรีในตอนเย็นย้ำอาจเป็นเพลงแช่มช้อย แต่ยิ่งดึกท่วงทำนองในแบบอีดีเอ็มยิ่งชวนให้ออกไปเต้น

มองผ่าน”วัฒนธรรม” ยิ่งเห็นภาพในทาง”การเมือง”

 

ถูกต้องแล้วที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะตรึงตัวเองอยู่ในที่ตั้ง ถูกต้องแล้วที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะอยู่ในแวดล้อมของ เพื่อนนายทหารที่เรียนและรับราชการมาด้วยกัน

การออกไปหยั่งเชิงวัดกระแสในแบบของ โทนี่ วูดซั่ม ในบรรยากาศแบบ”หินเหล็กไฟ”อาจสร้างความตื่นตาตื่นใจ

แต่ที่เหมาะสมอย่างที่สุดคือการนั่งอยู่และรอคอยให้เพื่อนมิตรนักการเมืองและมวลชน ตั้งแถวกันไปรดน้ำอำนวยอวยพรให้กันและกัน

บนท้องถนนก็ปล่อยให้ นส.ศิริกัญญา ตันสกุล เปิดระบำรำฟ้อนไปตามสะดวก ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ก็ไม่เหน็ดหน่ายในการร่วมฉีดน้ำกับ นายชัยธวัช ตุลาธน

อย่าไปอิจฉา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เลย เพราะไม่เพียงแต่เดือนเมษายน 2567 เท่านั้นเดือนเมษายน 2566 ก็เป็นอย่างนี้

การเต้นอย่างชนิด”ซอดแจ้ง”เป็นเรื่องของหนุ่มสาว มิใช่หรือ

 

ความจริง เย็นฉ่ำทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ได้จำแนกท่วงท่าอาการในการเข้าร่วมในทางวัฒนธรรมอย่างเด่นชัดมายาวนานอย่างยิ่ง

เพียงแต่ ณ วันนี้อยู่ในโลกแห่ง”โซเชียล มีเดีย”จึงยิ่งชัดเจน

เป็นความชัดเจนว่าโลกกำลังอยู่ในการขับเคลื่อนโดยพลังและพลานุภาพของคนรุ่นใด ไม่ว่าในทางวัฒนธรรม ไม่ว่าในทาง การเมือง

เยาว์ โลกนี้แม้จะเป็นของ”ผู้มาก่อน” แต่ในที่สุดก็จะถูกยึดครองโดย”ผู้มาทีหลัง”อย่างไม่อาจปฏิเสธได้