ทำไมในโลกแห่ง”โซเชียล มีเดีย” จึงมีแต่การเคลื่อนไหวของนักการเมืองจากพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย

มีแต่ภาพของ”พิธา” มีแต่ภาพของ”ทักษิณ”

ทำไมไม่เห็นภาพของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย ทำไมไม่เห็นภาพของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จากพรรครวมไทยสร้างชาติ

หรือแม้กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ปรากฏการเข้าร่วมสาดน้ำหรืออยู่ในท่ามกลางประชาชน

เห็นเพียงภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เปิดห้องให้เพื่อนฝูงที่เป็นนายทหารร่วมรุ่นเข้าร่วมในการรดน้ำ ไม่มีภาพของรัฐมน ตรี ไม่มีภาพของสส.

หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องของ”วัยรุ่น”เป็นเรื่องของ”คนหนุ่มสาว รุ่นใหม่” แต่ถามว่า  นายทักษิณ ชินวัตร รุ่นใหม่หรือไม่ยังอุตส่าห์ไปเดินตลาดเมญ่า กลางเมืองเชียงใหม่

ทั้งนี้แทบไม่ต้องถามถึง พี่ต๋อม ชัยธวัช แทบไม่ต้องถามถึง พี่ไหม ศิริกัญญา

ส่วนนายก”ว่าว” ทิม พิธา นั้นกลายเป็น”ว่าวลอยลม”ไปแล้ว

 

ถามว่าเทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ มิได้เป็นพื้นที่ในการหาแสงเพื่อสร้างคะแนนและความนิยมในทางการเมืองอย่างนั้นหรือ

หากมองไปยัง”มวลชน”ที่หลั่งไหลเข้าร่วมก็ต้องยอมรับว่าใช่

ไม่ว่าจะมองไปยังท้องสนามหลวง ไม่ว่าจะมองไปยังสีลม ไม่ว่าจะมองไปยังลาดพร้าว

ไม่ว่าจะมองไปยัง”ถนนข้าวสาร” ไม่ว่าจะมองไปยัง”ถนนข้าวเหนียว” ไม่ว่าจะมองไปยัง”ตลาดเมญ่า” ไม่ว่าจะมองไปบนท้องถนนแห่ง”หาดใหญ่”

คึกคัก หนักแน่น ด้วยใบหน้าร่าเริง ดวงตาเป็นประกายอย่าง เปี่ยมด้วยความสุข อยู่ในวัยที่พร้อมจะเดินเข้าคูหากาเบอร์ของนักการเมืองในเป้าหมายของตน

แล้วเหตุใดจึงมีแต่เพียงนักการเมืองจากพรรคก้าวไกล แล้วเหตุใดจึงมีแต่เพียงนักการเมืองจากพรรคเพื่อไทย

ไม่มีรวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย

 

พื้นที่ของเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จึงเป็นพื้นที่อันเป็นเงาสะท้อนภาพจริงในทางการเมืองอย่างเด่นชัด

นั่นคือ การเมืองของพรรคก้าวไกล ของพรรคเพื่อไทย

แม้ว่าคนรุ่นใหม่จะเป็นเป้าหมาย แม้ว่าความสดใสอันสำแดงออกของคนหนุ่มสาวจะเป็นที่ต้องการ แต่เงื่อนไขในการเข้าถึงและร่วมชีวิตอยู่ยังมีกำแพงขวางกั้น

เมื่อมองอนาคตของเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ก็เท่ากับมองอนาคตของการเมืองไทย