เผยแพร่ |
---|
ความคึกคักของสังคมที่จะเข้าร่วมในการเลือกสรร”สมาชิกวุฒิสภา”กำลังจะกลายเป็น”กระแส” ก่อให้เกิดสถานการณ์เขย่าโยกในทางการเมือง
ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่ยึดโยงอยู่กับคนอายุ 40 ขึ้น ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่จะต้องใช้ค่าสมัคร 2,500 บาทเข้าไปมีส่วนในการปฏิสัมพันธ์
นี่ย่อมมิได้เป็นเรื่องของ”ชาวบ้าน” หากเป็นเรื่อง”เฉพาะ”
ความเชื่อโดยพื้นฐานของผู้ทรงอำนาจก็คือ การกำหนดกฎกติกาในการเลือกสรร”สมาชิกวุฒิสภา”อย่างที่บัญญัติในรัฐธรรม นูญคือการสร้างกรอบเพื่อสร้างความมั่นใจ
มั่นใจว่าถึงไม่ดำเนินไปอย่างที่กันกับ”สมาชิกวุฒิสภา”ชุดแรกได้อย่างค่อนข้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ด้วยข้อกำหนดที่วางเอาไว้ก็สามารถเข้าไปควบคุมและจัดการได้
แต่แล้วด้วยความตื่นตัวในทางสังคมบรรยากาศอันเกิดขึ้น และดำรงอยู่อย่างเห็นเด่นชัดในระยะนี้เริ่มก่อให้เกิดความหวั่นไหวสร้างความไม่แน่ใจขึ้นมาเป็นลำดับ
เป็นความไม่แน่ใจว่าอาจไม่สามารถควบคุม กำกับให้เป็นไปตามเป้าหมาย”เดิม”ที่ต้องการ
ดำเนินไปเหมือนกับกรณีของ#บอร์ดประกันสังคม
แท้จริงแล้ว สภาพที่กลุ่มกุมอำนาจไม่สามารถควบคุมอำนาจของตนให้อยู่ในกำมือได้อย่างเบ็ดเสร็จ สะท้อนและแสดงออกให้เห็นเด่นชัดขึ้นเป็นลำดับ
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 และโดยเฉพาะ อย่างยิ่งในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566
แม้จะมีการงัด”กลยุทธ์”เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 มาสกัด
กระนั้น ระยะเวลานับจาก นายทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน นับจากบาทก้าวแรกที่พรรคเพื่อไทยร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย จัดตั้งรัฐบาล
ถามว่าสามารถควบคุมพรรคเพื่อไทยได้จริงละหรือ สามารถจัดการกับ นายทักษิณ ชินวัตร ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้มากน้อยเพียงใด
แล้วสถานการณ์ที่ยากมากกว่าอย่างเช่นการคัดสรร”สมาชิก วุฒิสภา”จะสามารถควบคุมได้ตามปรารถนาหรือไม่ น่าสงสัย
ตัวอย่างที่เห็นตัวอย่างหนึ่ง คือ ตัวอย่างในกรณีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
ความปั่นป่วน รวนเรนี้โยกคลอนระบบตำรวจทั้งระบบ
เนื่องจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ก็มากด้วยเครือข่ายและสายสัมพันธ์ เนื่องจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยิ่งมีความเชี่ยว ชาญอย่างเป็นพิเศษในการรับมือ
สถาบันตำรวจสั่นคลอนอย่างนี้ สถานบันการเมืองจึงยิ่งยากที่จะควบคุมและบงการไปตามความต้องการได้อย่างเบ็ดเสร็จ