E-DUANG : ผลสะเทือน จาก”ปีชง” กับบทบาท ของ “แพรรี่”

พลันที่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร หยิบประเด็นว่าด้วยความเชื่อในเรื่องปีชงมาวิพากษ์ ไลฟ์จากจันทบุรีของ”น้องแพรรี่”ก็ทะยานสู่ความสนใจของสังคม

และกลายเป็น”ไวรัล”ขึ้นมาในฐานะ”กระแส”ร้อนแรง

ต้องยอมรับว่าผลสะเทือนอันเนื่องแต่การแตะเข้าไปยังรายละเอียดและรากฐานการเกิขึ้นของ”ปีชง”ดำเนินไปอย่างลึกซึ้ง และกว้างไกล

เนื่องจากคนที่ได้ประโยชน์จากกระบวนการ”ปีชง”มีตั้งแต่พระภิกษุ ไปยังคนในหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาโหราพยากรณ์

การตอบโต้ย่อมเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ และก็มีนักโหราพยากรณ์บางคนคว้าเอาคำว่า”ลักเพศ”สอดสวมเข้าไปกับเพศวิถีแห่ง ไพรวัลย์ วรรณบุตร ก็เป็นเรื่อง

ที่เป็นเรื่องก็เนื่องจากลักษณะอันแปลกแยกอย่างยิ่งในการบูลลี่ด้วยศัพท์สำนวนและความคิด”โบราณ” และสะท้อนให้เห็นถึง”กรรมวิธี”ในการต่อสู้ที่ล้าหลัง ผุพังเป็นอย่างสูง

ในเมื่อ ไพรวัลย์ วรรณบุตร แอบอิงอยู่กับหลัก”ศาสนา” แต่อีกฝ่ายกลับด้อยค่าและใช้หลัก”บูลลี่”มาเป็นเครื่องมือ

 

ต้องยอมรับว่ากรรมวิธีในการตอบโต้ความเห็นแย้ง ความเห็นต่าง ในทางความคิดในลักษณะการด้อยค่าผ่านคำว่า”ลักเพศ”เข้าใส่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร เป็นกรรมวิธีล้าหลัง

คิดว่าเมื่อโยนข้อหาในแบบสาดน้ำร้อนเข้าใส่เช่นนี้จะทำให้ อีกฝ่ายท้อแท้ ได้รับความอับอายและวางมือ

อย่าว่าสภาพการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นในแวดวง”ปีชง”

หากแต่ลองเดินเข้าไปสำรวจในพื้นที่ทาง”การเมือง”ก็จะเห็นคนจำนวนไม่น้อย”ด้อยค่า”อีกฝ่ายด้วยคำหยาบ ด้วยคำด่าอย่าง ชนิดสาดเสียเทเสีย

แทนที่จะนำเอาข้อมูล แทนที่จะนำเอาเหตุผลมาเป็นพื้นฐานในการอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องชอบธรรมมากกว่า กลับงัดเอาความหยาบ ด้อยค่ามาเป็นเครื่องมือ

ถามว่า”กรรมวิธี”ที่เสื่อมทราม ผุโทรม เช่นนี้ยังจะมีประสิทธิภาพก่อให้เกิดประสิทธิผลได้ละหรือ

 

แท้จริงแล้ว เส้นทางของ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ก็เป็นเส้นทางเดียวกันกับที่ พุทธทาสภิกขุ ปัญญานันทภิกขุ ได้เคยปฏิบัติการมาแล้วเมื่อหลายสิบปีก่อน

เพียงแต่เป้าในอดีตเป็น”ศาลพระภูมิ”

วันนี้ ศาลพระภูมิอันเป็นความเชื่อมิใช่พุทธก็ยังดำรงอยู่ เช่นเดียวกับการแสวงหาประโยชน์จาก”ปีชง”

แต่บทบาทของ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ก็โดดเด่น