E-DUANG : ปรากฎการณ์ “แดงสามถุยส์” อาวุธ การเมือง จาก”เพื่อไทย”

เสียงสะท้อนจากวิวาทะระหว่าง “แดงจตุพร” กับ”แดงสามถุยส์” ผ่านรายการ”โหนกระแส”แตกแยก สร้างประเด็นใหม่ ในทางการ เมืองตามมาอย่างคึกคัก

จากมุมของ”แดงสามถุยส์”ก็เป็นอย่างหนึ่ง จากมุม”แดงจตุพร” ก็เป็นอย่างหนึ่ง ดำเนินไปตามกฎแห่ง”สองคนยลตามช่อง”เป็นอย่างดี

นั่นก็คือ คนหนึ่งมองเห็น”โคลนตม” นั่นก็คือ คนหนึ่งตาแหลมคมมองเห็น”ดาวอยู่พราวพราย” สะท้อนและยืนยันบทเรียนความจัดเจนของท่าน ฟ.ฮีแลร์

มีคนจำนวนไม่น้อยประเมินว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่น่าจะเปลืองตัว เพราะหากเทียบมูลค่าทางการเมืองที่อยู่ในฐานะ ประธานนปช.นับว่าแตกต่างกันไกล

กระนั้น ก็มีคนจำนวนไม่น้อยยอมรับว่า การยอมเปลืองตัวของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็มีบทบาทในการดึงเอา”ความจริง”ที่ดำรงอยู่ของ”แดง”ในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เห็นว่าการสวม”เสื้อแดง”ในวันนี้เสมอ เป็นเพียง”รูปแบบ”ซึ่งเนื้อหามิได้เหมือนกับ”วันวาน”

เกิด”แดงจตุพร” เกิด”แดงณัฐวุฒิ” เกิด”แดงสามถุยส์”

 

ความจริง ปรากฏการณ์ในแบบที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ได้แสดงตัวออกมา ปรากฏการณ์ในแบบที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้แสดง ตัวออกมา ก็นำไปสู่คำถาม

เป็นคำถามว่าเหตุใดจึงต้องเลือกอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคำถามว่าเหตุใดจึงปฏิเสธ นายทักษิณ ชินวัตร

ทั้งๆที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เคยครวญเพลง”กตัญญูทักษิณ”ด้วยความซาบซึ้ง ดื่มด่ำ และร่วมปฏิบัติการกับคนเสื้อแดงอย่างดุเดือดเข้มข้นถึงขั้นพยายามจัดตั้ง”กองกำลัง”

แต่พลันที่เผชิญกับรัฐประหาร นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ก็แปร เปลี่ยนกลับกลาย แต่พลันที่การต่อสู้ทางการเมืองทวีความเข้มข้น แหลมคมข้อมูลที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เสนอก็เป็นอีกด้าน

การมีคนอย่าง”แดงสามถุยส์”ออกมาจึงยืนยัน”ความต่าง”

 

ต้องยอมรับว่าแต่ละลีลาท่วงทำนองอันออกมาจาก “แดงสามถุยส์” ไม่เหมือนกับลีลาท่วงทำนองในแบบของ”แดงแรมโบ้” และไม่เหมือนกับลีลาท่วงทำนองในแบบ”แดงจตุพร” มีแต่การนำมาเทียบเคียงเท่านั้นภาพจึงแจ่มชัด

ยิ่งบทบาทของ”แดงสามถุยส์”ดำเนินไปเพื่อพิทักษ์ เพื่อปกป้องแนวทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยยุค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ยิ่งฉายภาพของพรรคเพื่อไทยออกมา

เพียงแต่ว่าจะตอบโต้”แดงจตุพร” ได้หรือไม่เพียงใด และเป็นคุณต่อจังหวะก้าวการเมืองของ”เพื่อไทย”เพียงใด ยังเป็นคำถาม