ผลสะเทือนจาก “มติชน เดลินิวส์ โพล” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 8-14 เมษายน จากจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 84,076 ราย มีต่อภายในพรรค เพื่อไทยอย่างเป็นพิเศษ

แม้คะแนนจากพรรคที่ชอบจะเป็นพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 38.89 แต่คะแนน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 29.42

มากด้วยความละเอียดอ่อนและอ่อนไหว

เนื่องจากเป็นคะแนนอันตรงกันอย่างมิได้นัดหมายเมื่อนำไป เปรียบเทียบกับผลการสำรวจของ”นิด้า โพล”ในพื้นที่กรุงเทพมหา นคร

ความน่าสนใจมิได้อยู่ที่เป็นคะแนนซึ่ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เหนือกว่า นส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งได้ร้อยละ 23.23 หากแต่ อยู่ที่เป็นการแสดงมติในโลกแห่งโซเชียลมีเดียโดยตรง

จำนวน 84,076 อาจไม่มากนักเมื่อเทียบกับประชากรประจำเฟซบุ๊คไทย 51 ล้านแอค ประชากรประจำทวิตเตอร์ไทย 11.2 ล้านแอค แต่โดยพื้นฐานก็ยืนยันแนวโน้มได้เป็นอย่างดี

ยิ่งเมื่อลงลึกไปในรายละเอียดในพื้นที่ของติกต่อกซึ่งกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ยิ่งน่าตระหนก

เพราะที่ยึดครอง”พื้นที่”กลับเป็นพรรคก้าวไกลและ”พี่ทิม”

ความเป็นจริงเบื้องต้นอันทำให้เกิดคำถามตามมาอย่างร้อนรนเป็นคะแนนเชิงเปรียบเทียบระหว่าง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย

เมื่อรวม 3 คนเข้าด้วยกันก็จะได้ร้อยละ 40.34

นั่นก็คือ คะแนนร้อยละ 23.23 ของ นส.แพทองธาร ชินวัตร กับคะแนนร้อยละ 16.69 ของ นายเศรษฐา ทวีสิน และคะแนนร้อยละ 0.42 ก็จะเหนือกว่า 39.42 ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

จุดอ่อนก็คือ เมื่อมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คนก็ทำให้คะ แนนโหวตต้องแข่งขันและต่อสู้กัน ปรากฏขึ้นอย่างกระจักกระจาย ตรงกันข้ามของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล

คำถามก็คือทำอย่างไรคะแนนจึงจะรวมศูนย์ไปยังแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง

นี่ย่อมเป็นประเด็นอันสัมพันธ์ต่อการโหวตในเชิงยุทธศาสตร์

 

รูปธรรมจากคะแนนที่กระจัดกระจายและแย่งชิงกันเองระหว่างแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คนของพรรคเพื่อไทย

และก่อให้เกิดอุปสรรคต่อเป้าหมาย”แลนด์สไลด์”

ไม่ว่าบทสรุปเบื้องต้นจาก”นิด้า โพล” ไม่ว่าบทสรุปเบื้องต้นจาก”สวนดุสิตโพล” ไม่ว่าบทสรุปเบื้องต้นจาก”ซูเปอร์โพล”เด่นชัด

คะแนนของพรรคก้าวไกลทะลวงผ่านจังหวะ”แลนด์สไลด์”ได้