การที่คะแนนและความนิยมของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทะยานไปอยู่อันดับ 1 ภายใต้คำถาม”บุคคลที่กทม.จะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้”ของนิด้าโพล

ทั้งเป็นคะแนนที่อยู่เหนือความคาดหมาย และแทบมิได้อยู่นอกความคาดหมาย

นั่นก็คือ เป็นการสำรวจในพื้นที่”กรุงเทพมหานคร”

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งรับไม้ทางการเมืองต่อจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ย่อมได้รับอานิสงส์จากพรรคอนาคตใหม่และจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่างแน่นอน

เป็นคะแนนนิยมที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับมากถึงร้อยละ 20.40 ขณะที่คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ร้อยละ 15.30

ยิ่งหากนำเอาคะแนนของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 20.40 มาประสานเข้ากับคะแนนของ นส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 14.20 ก็ยิ่งมองเห็นถึงแนวโน้มที่ต้องสนใจ

จุดร่วมที่คะแนนและความนิยมของทั้ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ นส.แพทองธาร ชินวัตร อยู่ในความสนใจ

นั่นก็คือ จุดร่วมแห่งความเป็นตัวแทน”คนรุ่นใหม่”

 

หากมองผ่านคะแนนของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประสานเข้ากับคะแนนของ นส.แพทองธาร ชินวัตร ก็มิได้แปลกใจที่เมื่อรวมกันแล้วก็เหนือกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ไม่ว่าจะมองผ่านคะแนนการเลือกส.ส.แบบเขต ไม่ว่าจะมองผ่านการเลือกส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

ความเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ความคิดใหม่จึงสำคัญ

เมื่อเปรียบเทียบกับการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศืษฎ์ ที่ร่วมกันมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562

นี่มิได้เป็นการต่อสู้ระหว่างตัวแทนแห่งยุคสมัย ซึ่งฝ่ายหนึ่งเป็นตัวแทนแห่งยุคใหม่ ยุคแห่งดิจิทัล ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเป็นตัวแทนแห่งยุคเก่า ยุคดิจิทัล

การสำรวจความเห็นของคนกรุ่งเทพมหานครจึงเด่นชัด

 

ยิ่งมีการสำรวจในลักษณะแบ่งภาคก็จะยิ่งสัมผัสได้ในความแตกต่างอันเป็นความหลากหลายในทางความคิดและในทางการเมือง

แต่คะแนนโดยรวมก็ยังเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล

ขณะที่คะแนนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยนำโด่งในปี 2564 เมื่อเข้าสู่ปี 2565 ดัชนีก็ชี้ชัดเป็นลำดับถึงแนวโน้มที่ลดลง

“แพทองธาร” กับ”ทิม พิธา”ต่างหากที่เป็น”ความหวัง”