การเดินทางไปสมัครเป็นสมาชิก”ตลอดชีพ”พรรคก้าวไกลของ นาย ถวิล ไพรสณฑ์ สร้างความตื่นตลึงทางการเมืองเป็นอย่างสูง

ไม่เพียงเพราะ นายถวิล ไพรสณฑ์ อยู่ในวัย 84 ปีแล้ว

ไม่เพียงเพราะ นายถวิล ไพรสณฑ์ เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ เคยอยู่พรรคพลังธรรม เคยอยู่พรรคประชาชน แล้วก็หวนกลับพรรค ประชาธิปัตย์

ไม่เพียงเพราะในห้วงที่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ นายถวิล ไ พรสณฑ์ ยังเคยร่วมเคลื่อนไหวเป่านกหวีดไปกับมวลมหาประชาชนของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

หากแต่ใครที่รู้จัก นายถวิล ไพรสณฑ์ อย่างถึงแก่นแท้ก็จะเข้าใจในเหตุผลของ นายถวิล ไพรสณฑ์ ไม่ว่าจะเข้าร่วมเป่านกหวีด

ไม่ว่าจะตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล

นั่นก็มาจากเหตุผลเดียว คือ เหตุผล”กระจายอำนาจ”

นายถวิล ไพรสณฑ์ ผูกพันอยู่กับแนวทาง”กระจายอำนาจ”ตั้งแต่เป็นข้าราชการกระทั่งเป็น ส.ส.เป็นรองประธานสภา

 

เมื่อจบรัฐศาสตร์ นายถวิล ไพรสณฑ์ เริ่มต้นรับราชการในระดับท้องถิ่น ไม่ว่าจะที่สุไหงโกล๊ก ไม่ว่าจะที่กรุงเทพมหานคร

ยิ่งเมื่อเป็นผู้อำนวยการกองนโยบายและแผน กรุงเทพมหานคร ความคิดในเรื่องเลือกตั้ง”ผู้ว่าฯกทม.”ยิ่งกระฉูด

ความคิดในเรื่องกระจายอำนาจ เรื่องเลือกตั้ง”ผู้ว่าฯกทม.”จึงจำหลักอย่างหนักแน่นในความคิดของ นายถวิล ไพรสณฑ์ เสมอมา

 

ความคิดเรื่องเลือกตั้ง”ผู้ว่าราชการ”คือเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจ

 

อย่าได้แปลกใจหากจะเห็นภาพ นายถวิล ไพรสณฑ์ ไปร่วมเป่านกหวีด เพราะว่าข้อเสนอหนึ่งของกปปส.เมื่อเดือนมกราคม 2557 คือ จะจัดให้มีการเลือกตั้ง”ผู้ว่าราชการจังหวัด”ทั่วประเทศ

อย่าได้แปลกใจหากจะเห็นภาพ นายถวิล ไพรสณฑ์ เดินทางไป สมัครเป็นสมาชิก”ตลอดชีพ”พรรคก้าวไกล

และหากติดตามเฟซบุ๊ค นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็จะเข้าใจ

เพราะว่าคณะก้าวหน้ามีแนวทางจะเคลื่อนไหวในเรื่องกระจาย อำนาจอย่างจริงจังร่วมกับพรรคก้าวไกลในปี 2565 และได้เข้าหารือกับ นายถวิล ไพรสณฑ์ อย่างต่อเนื่อง

กลายเป็นความประทับใจ กลายเป็นความผูกพันลึกซึ้ง กระทั่งในที่สุดตัดสินใจเป็นสมาชิก”ตลอดชีพ”พรรคก้าวไกล

ทำให้พรรคก้าวไกลได้”มันสมอง”อันทรงความหมายเข้าไป