E-DUANG : ​บทบาท ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ​​แบบอย่าง สู่เทพไท เสนพงศ์

คำประกาศที่จะเล่นบท “ส.ส.นอกสภา” ของ นายเทพไท เสนพงศ์ เกิดขึ้นทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากสมาชิกภาพแห่งส.ส.และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี

หากเป็นคำประกาศในยุคก่อน สังคมก็อาจไม่แน่ใจและมองไม่ออกว่าวิถีของ นายเทพไท เสนพงศ์ จะเป็นอย่างไร

แต่เมื่อเป็นคำประกาศในเดือนมกราคม 2564 ก็กลายเป็นเรื่อง ธรรมดาอย่างสามัญยิ่งในทางการเมือง เพราะมิได้มีแต่ นายเทพไท เสนพงศ์ เท่านั้นที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองแล้วต้องการแสดงบทบาท

อดีต ส.ส.อย่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่าง นายปิยบุตร แสงกนกกุล อย่าง น.ส.พรรณิการ์ วานิช ถามว่าถูกตัดสิทธิทางการ เมืองหรือไม่

คำตอบแน่ชัดยิ่งภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนา คตใหม่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พร้อมกับตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี

ถามว่า ณ วันนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนก กุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช มีบทบาทในทางการเมืองหรือไม่

 

มองในแง่ตัวหนังสือพรรคอนาคตใหม่อาจมิได้ดำรงอยู่แล้วในทางกฎหมาย เนื่องจากถูกยุบ แต่กระบวนการของพรรคอนาคตใหม่ก็อวตารไปเป็น 1 พรรค 1 กลุ่มทางการเมือง

นั่นก็คือ พรรคก้าวไกลที่มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้า มี นายชัยธวัช ตุลาธน เป็นเลขาธิการ

นั่นก็คือ คณะก้าวหน้าที่มี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธาน มี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการ และ น.ส.พรรณิ การ์ วานิช ทำหน้าที่สื่อสารกับสังคม

มองไปยังรัฐสภา พรรคก้าวไกลก็มีบทบาทเป็นอย่างสูง ไม่ว่าในทางส่วนตัว ไม่ว่าเคลื่อนไหวร่วมกับพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ มองไปยังคณะก้าวหน้าก็เพิ่งส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งในขั้นอบจ.

และกำลังวางแผนที่จะส่งคนลงในระดับ”เทศบาล”ทั่วประเทศ

จากเดือนกุมภาพันธ์ 2563 กระทั่งเดือนมกราคม 2564 บทบาทของพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้ายิ่งคึกคัก

 

ไม่ว่าบทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าบทบาทของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่าบทบาทของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช คือบท บาทของคนที่ไม่ยอมจำนน

ตรงนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ น่าจะเป็นแบบอย่างให้ นายเทพไท เสนพงศ์ ได้ศึกษาและวิเคราะห์ว่าจะทำอย่างไรต่อไป