E-DUANG : ปรากฏการณ์ อนาคตใหม่ กับ คุณภาพใหม่ การเมือง

นับแต่ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมปรากฏออกมาลักษณะโดยพื้นฐานของสังคมไทยก็เริ่มเปลี่ยน และยืนยันการก้าวไปสู่อีกคุณภาพหนึ่ง

แม้คะแนนรวมของพรรคพลังประชารัฐจะอยู่ที่ 8.4 ล้าน

อันเท่ากับยืนยันความนิยมต่อคสช. ความนิยมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเป็นรูปธรรม

แต่จำนวน ส.ส. 137 มากที่สุดก็ยังเป็นของพรรคเพื่อไทย

เท่ากับยืนยันว่า ประชาชนจำนวนมากยังเชื่อมั่นต่อพรรคเพื่อไทยเหมือนกับที่เคยเชื่อมั่นต่อพรรคพลังประชาชน ต่อพรรค ไทยรักไทย

ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นคะแนนรวม 6.2 ล้านเสียงอันพรรคอนาคต ใหม่ได้มากอีกด้วย

 

ปมเงื่อนสำคัญมิได้อยู่ที่ว่าเมื่อนำคะแนนรวม 7.9 ล้านของพรรค เพื่อไทยผนวกเข้ากับคะแนนรวม 6.2 ล้านของพรรคเพื่อไทยจะเป็น 14.1 ล้านมากกว่า 8.4 ล้านของพรรคพลังประชารัฐ

หากจำนวน ส.ส. 137 ของพรรคเพื่อไทย เมื่อรวมกับ 80 ของพรรคอนาคตใหม่เป็น 217

ยังมากกว่า 116 ของพรรคพลังประชารัฐ

การที่คสช.และกกต.เร่งเครื่องในการเข้าจัดการกับ นายธนา ธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และพรรคอนาคตใหม่ ในห้วงหลังวันที่ 24 มีนาคม

1 จึงสะท้อนความหวาดกลัวต่อปรากฏการณ์และการเติบใหญ่อย่างก้าวกระโดดของพรรคอนาคตใหม่

ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งสำคัญ ยังสะท้อนถึงการไม่รับรู้และไม่ตระหนักในสภาพความเป็นจริงที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์อันสะท้อนผ่านชัยชนะของพรรคอนาคตใหม่

เท่ากับคสช.และกกต.ยังติดอยู่กับคุณภาพทางการเมืองเดิมก่อนวันที่ 24 มีนาคม

 

การปรากฏของพรรคอนาคตใหม่ทำให้การเมืองไทยได้พัฒนาไปอีกก้าวอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้การเมืองไม่เหมือนกับการเลือกตั้ง 2 ครั้งหลังรัฐประหาร

ทำให้ผลของรัฐประหารไม่เหมือนเดิมอย่างยิ่ง

ไม่ว่าจะเป็นหลังรัฐประหาร 2549 ไม่ว่าจะหลังรัฐประหาร 2557

หากไม่ทำความเข้าใจก็อาจจะนำไปสู่การตัดสินใจที่พลาด