มีการเคลื่อนไหวภายในพรรคอนาคตใหม่อย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นการไปสมัครเป็น”จิตอาสา” ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางของทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล

ทาง 1 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เดินทางไปยังสำนักงานข้า หลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่นครเจนีวา

แล้วเลยไปพบกับนักเรียนไทยในเนเธอร์แลนด์

ทาง 1 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เดินทางไปขอบคุณประชา ชนในพื้นที่ภาคเหนือ

เริ่มจากเชียงใหม่ ตามด้วยเชียงราย

คล้ายกับว่าเป็นวาระอันตระเตรียมเอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะต้องเดินทางไปสน.ปทุมวัน ไม่ว่าจะต้องเดินทางไปบก.ปอท.หรือไม่

นั่นคือ บทบาทที่ไม่หยุดนิ่งของ”พรรคการเมือง”

 

พรรคการเมืองตามปกติไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิ ใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา หรือแม้กระทั่งพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย

ให้ความสนใจอันดับ 1 อยู่ที่การเลือกตั้ง และโอกาสที่จะได้เป็นรัฐบาล

ในทางรัฐศาสตร์จึงเรียกว่าเป็น “พรรคสภา”

แต่พรรคอนาคตใหม่ให้ความสนใจในเรื่องการเลือกตั้ง แต่ยังให้ความสนใจมากยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวในต่างประเทศ

โดยพื้นฐานแล้วก็คือ ยืนยันที่จะ”ปักธงความคิด”

แต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ เส้นทางที่จะทำให้บทบาทในทางความคิด บทบาทในทางการเมือง มีความหนักแน่นและปรากฏออกมาอย่างเป็นรูปธรรม

นั่นก็เห็นได้จากลักษณะ”การจัดตั้ง” สร้างรากฐานให้กับพรรคอนาคตใหม่

นั่นก็คือ การขยายสมาชิกใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ

 

บทบาทของพรรคอนาคตใหม่จึงมิได้ยุติอยู่ที่การเลือกตั้ง การที่จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นรัฐบาล ตรงกันข้าม กลับเดินหน้าสร้าง ความแข็งแกร่งให้กับพรรคมากยิ่งกว่านั้น

ปมเงื่อนอยู่ที่การทำให้พรรคเป็นพรรคการเมืองที่มี “ชีวิต”

ปมเงื่อนอยู่ที่การทำให้บทบาทของพรรคการเมืองมิได้อยู่ที่ การเลือกตั้งอย่างเดียว หากแต่อยู่ที่การสร้างประเด็นการเมือง

ให้การเมืองกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของประชาชน