E-DUANG : 500 เสียง หลัง “การเลือกตั้ง” “เด็ดล็อก” ทุกกลุ่ม “การเมือง”

อุบัติแห่ง“พรรคประชาชาติ”สะท้อนผลสะเทือนจากอิทธิพลของรัฐ ธรรมนูญ พ.ศ.2560 อย่างเด่นชัด

จังหวะก้าวนี้ “คสช.”น่าจะมองออก

เพราะเพียงแต่คนของ”พรรคประชาธิปัตย์”ออกมาระบุว่าเป็น แขนขา 1 ของพรรคเพื่อไทย

ก็ไม่น่าจะมี “ความเร้นลับ”อะไรเหลืออยู่

ยิ่ง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ออกมาคาดหมายว่ารัฐบาลหลังการเลือกตั้งไม่น่าจะอยู่ได้ยาว ยิ่งสะท้อนมุมมองและความเห็นเด่นชัด

นั่นก็คือ แม้จะยอมรับในการสืบทอดอำนาจของคสช. แต่ก็ไม่น่าจะเป็นอำนาจที่ยาวนาน

เหตุผลก็มาจาก “รัฐธรรมนูญ” อีกเช่นกัน

 

ความหมายของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็คือ รัฐบาลที่จะมีแข็งแกร่งและมั่นคงจะต้องมีเสียงมากกว่า 500 เสียง

คสช.อาจมี 250 ส.ว.อยู่ในมือ

กระนั้น รัฐบาลคสช.ก็จะต้องหาเสียงของ ส.ส.มาให้ได้ไม่ต่ำกว่า 250 จึงจะมั่นใจได้

ในอีกด้าน พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง

ไม่เพียงแต่จะต้องมีเสียงมากกว่า 250 อยู่ในมือ หากแต่ยังจะต้องหาเสียงสนับสนุนมาอีก 250 จึงจะดำรงสถานะรัฐบาลที่มั่นคง

นั่นก็คือเป็นรัฐบาลที่สามารถทั้ง “ปกครอง” และ “บริหาร”ได้ในทางเป็นจริง

ความเป็นจริงนี้มีรากฐานมาจาก”รัฐธรรมนูญ”

เป้าหมายพื้นฐาน คือ แยกสลายพรรคการเมือง เพื่อเป็นหลักประกันในการสืบทอดอำนาจของตน

แต่คำถามก็คือ จะสืบทอดอำนาจได้อย่างไร

 

บทสรุปของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เช่นนี้มิได้เป็นเรื่องใหม่ ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยล้วนเห็นตรงกัน

เพียงแต่ “คสช.”ยังมากด้วยความมั่นใจ

จึงได้เกิดพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย และพรรคประชาชนปฏิรูป เพื่อสร้างรากฐาน 250 เสียงในทางเป็นจริง

คำถามก็คือ จะสามารถทำได้หรือไม่