ทั้งๆที่การเปิดประเด็นว่าที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐไปร่วม แจกของที่จังหวังอุบลราชธานีโดย นายสมคิด เชื้อคง จากพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง

​ละเอียดอ่อนถึงขั้นระบุ “พรรคพลังประชารัฐ”

​ละเอียดอ่อนถึงขั้นระบุว่าเป็นการร่วมไปกับคณะของผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33

​อาจมีเสียงแย้งจาก นายชวน ชูจันทร์

​แต่ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 กลับเงียบกริบ

​เงียบอย่างชนิดที่ชาวบ้านระบุว่า “มิดอิมซิม”

​ทั้งๆที่เป็นเรื่องใหญ่กระเทือนไม่เพียง”ประชารัฐ”หากกระทบไปยัง “ไทยนิยม”

 

เพียง 1 วันผ่านไปคนซึ่งติดตามข่าวนี้ก็พอมองออกว่าเหตุใดกระบวนท่าเปิดโปงอันมาจาก นายสมคิด เชื้อคง แห่งพรรคเพื่อไทยจึงดำเนินไปในท่วงทำนอง”กั๊ก”

​มิใช่เพราะว่าไม่มี “ข้อมูล”

​ตรงกันข้าม ปรากฏว่ามีทั้ง “ภาพ” และ “เสียง” ผ่านคลิปวิดิโอครบครัน

​ระบุชัดแจ้งว่า ไผเป็นไผ

​ไม่เพียงแต่เสียงแย้งจาก นายชวน ชูจันทร์ แทบไม่มีความ หมาย หากแต่ยังกลายเป็นเรื่องสะท้อนให้เห็นว่า นายชวน ชูจันทร์ ไม่รู้อะไรเลย

​ทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ไปจดแจ้งชื่อพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น

​ตรงกันข้าม เมื่อมีทั้งภาพทั้งเสียงและการเคลื่อนไหวครบครันจากม่วงสามสิบ จากเขื่องในจำเป็นที่ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”จะต้องเงียบ

​จำเป็นที่ “ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33” ณ วารินชำราบ พูดไม่ออก บอกไม่ถูก กระดูกเสือพากษ์ไทยสถานเดียว

​เป็นการ”กั๊ก”จริงๆ แต่กั๊กอย่างเปี่ยมด้วย”กลยุทธ์”

 

เหมือนกับว่าการเกิดขึ้นของพรรคพลังประชารัฐซึ่งประสานระหว่างไทยนิยมกับประชารัฐจะเป็นความได้เปรียบ

​แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถหยิบชิ้นปลามันได้สบายๆ

​อย่างน้อยจะขยับไปไหนก็ลำบาก เพราะว่าหูตาอันถ่ายทอดทางโซเชียล มีเดีย ยุบยิบ หยุมหยิมไปหมด

​การต่อสู้ผ่าน”โซเชียล มีเดีย”จะยิ่งเข้มข้น คึกคัก