เหมือนกับว่ากรณี”ทวงคืนพื้นที่บ้านป่าแหว่ง” ณ ดอยสุเทพ เชียงใหม่ จะหายไปจากแวดวงข่าวสาร

เพราะเงียบจากหน้า”หนังสือพิมพ์”

เพราะไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวใดๆผ่านจอ”โทรทัศน์” ราวกับว่าผลการประชุมร่วมที่เชียงใหม่ระหว่างรัฐบาลกับชาวบ้านอันมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เรียบร้อยไปแล้วนับแต่เดือนมิถุนายน เป็นต้นมา

คำว่า “เรียบร้อย”ในที่นี้หมายถึงการก่อสร้างตามโครงการเดิมได้ยุติไปโดยสิ้นเชิง การฟื้นฟู”ป่าแหว่ง”ให้สมบูรณ์ตามเป้าหมายน่าจะได้เริ่มขึ้นอย่างคึกคัก

เป็นเช่นนั้นจริงหรือ นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ

 

ทั้งๆที่คำมั่นสัญญาจากที่ประชุมร่วมเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมอันมี นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ เป็นประธาน

เป็นไปอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ไว้

กระนั้น จากเดือนพฤษภาคมกระทั่งมาถึงปลายเดือนกรกฎา

คม กลับไม่มีอะไรคืบหน้าแม้แต่น้อย

ไม่เพียงแต่ไม่คืบหน้าหากยังมิได้เป็นตาม”คำมั่น”

เพราะว่าได้ปรากฏภาพและการเคลื่อนไหวอย่างเด่นชัดว่ามีการจัดส่งคนเข้าไปอยู่อาศัยมากกว่า 30 ครัวเรือน

เห็นทั้ง”รถ” เห็นทั้งเสื้อผ้าที่ตากไว้

นั่นเท่ากับสะท้อนให้เห็นว่า มติที่ว่าจะยุติการก่อสร้างและคืนผืนป่าให้กับดอยสุเทพ และให้มีการร่วมกันฟื้นฟูอนุรักษ์ระหว่างรัฐกับชาวบ้าน

ไม่ได้รับการปฏิบัติในทางเป็นจริง

ทั้งหมดนี้คนในอีก 70 กว่าจังหวัดอาจไม่รู้เห็น แต่คนเชียงใหม่รับรู้และเห็นด้วยความเจ็บปวด

 

ปัญหาอันเกี่ยวกับ“บ้านป่าแหว่ง”เป็นรูปธรรมอันเด่นชัดยิ่งซึ่งสะท้อนทิศทางการบริหารจัดการของคสช.และของรัฐบาล

เรื่องนี้เป็นงานของ”รัฐบาล”แท้-แท้

มีหน่วยงานทั้งศาล ทหาร และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย เข้ามาเกี่ยวข้องและสัมพันธ์อยู่โดยมีรัฐบาลและคสช.กำกับอยู่เบื้องบน

แต่จากพฤษภาคม-กรกฎาคม ก็ไม่สามารถบริหารจัดการได้