เผยแพร่ |
---|
การเมืองหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มีความต่าง และความเหมือนไม่เพียงแต่กับการเมืองหลังรัฐประหารเมื่อเดือน
กุมภาพันธ์ 2534
หากต่างและเหมือนแม้กระทั่งหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยา ยน 2549
จุดต่างอาจมาจาก รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540
แต่ความเหมือนอย่างยิ่งอยู่ที่การเคลื่อนไหวของนักการเมือง และพรรคการเมือง
นักการเมืองที่น่าจะสูญพันธุ์ แต่ไม่ยอมหมดสิ้นไป
เราจึงสัมผัสได้ถึงความพยายามประกอบส่วนแบบ”พรรคสามัคคีธรรม” แต่ด้วยองค์ประกอบที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ตรงนี้แหละที่จะสร้าง”ผลต่าง”ที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
เส้นแบ่งอย่างสำคัญในทางการเมืองที่ยากจะปฏิเสธบทบาทและผลสะเทือนจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540
คือ การเลือกตั้งในเดือนมกราคม 2544
เป็นครั้งแรกที่มีการนำ”นโยบาย”ของพรรคมาเป็นปัจจัยเพื่อสร้างชัยชนะ
นั่นก็คือ นโยบายของ”พรรคไทยรักไทย”
ตามปกติแล้วแม้จะประกาศนโยบาย แม้จะเป็นรัฐบาล พรรคการเมืองก็ไม่มีโอกาสได้นำนโยบายไปปฏิบัติเพราะส่วนใหญ่เป็นรัฐบาลผสม
แต่พรรคไทยรักไทยได้รับเลือกอย่างเป็นกอบเป็นกำและที่สำคัญได้นำนโยบายไปลงมือ”ปฏิบัติ”อย่างจริงจัง
นี่แหละคือฐานอันแข็งแกร่งในทางการเมือง
ทำให้ไม่ว่าจะยุบพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะยุบพรรคพลังประ ชาชน เมื่อมาเป็นพรรคเพื่อไทยก็ยังได้ชัยชนะ
นี่คือ เส้นแบ่งอันสร้าง”จุดต่าง”อย่างสำคัญทางการเมือง
มีความพยายามจะฟื้นกระบวนการสร้างพรรคในแบบพรรคสามัคคีธรรมหลังรัฐประหารเดือนกุมภาพันธ์ 2534 ขึ้นมาอีก
เห็นได้จาก “พรรคพลังประชารัฐ”
นี่คือการผสมผสานระหว่างพรรคสามัคคีธรรมเมื่อปี 2534 เข้ากับพรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคมัชฌิมาธิปไตย เมื่อปี 2550 หวังว่าจะสามารถสร้างชัยชนะขึ้น
ทั้งๆที่ผลสะเทือนจากเมื่อเดือนมกราคม 2544 ยังคงอยู่