E-DUANG : ก้านบัว บอกลึกตื้น ชลธาร แห่ง ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ในที่สุด สำนวนโบราณที่ว่า”สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล”ก็ดำเนินไปอย่างสอดรับกับบทสรุปแห่งโคลงโลกนิติที่ว่า “ก้านบัวลอกลึกตื้น ชลธาร”

เมื่อได้เห็นการออกมาแสดงความรู้สึกต่อคำว่า”ธุรกิจ”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น้ำเสียงต่อคำว่า”ธุรกิจ” ต่อคำว่า”นักธุรกิจ”มีความเด่นชัด

เป็นน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรต่อคำว่า”ธุรกิจ” เป็นน้ำเสียงที่ทะลักทะลายออกมาอย่างเป็นกระบวนเมื่อได้ยินชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ปรากฏขึ้น

อาจเพราะเห็นว่าได้รับแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อาจเพราะรับรู้ว่าหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเป็นใครและมีบทบาทอย่างไร

ตะกอนนอนก้นในทางความคิดต่อคนซึ่งอยู่เบื้องหน้า เบื้อง หลังของพรรคเพื่อไทย ของครอบครัวเพื่อไทย จึงโยงเข้ามาเป็นก้อนเดียวกันกับ 2 คำ 1 ชื่อ

คำหนึ่งก็คือ คำว่า “ธุรกิจ” คำหนึ่งก็คือ คำว่า”นักธุรกิจ”ผนวกรวมกับอีก 1 ชื่อคือ นายเศรษฐา ทวีสิน

เท่านั้นแหละแต่ละ”คำพูด”ก็เหมือนกับ”ก้านบัว”บ่งบอก

 

ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าคนที่เอ่ยคำว่า”ธุรกิจ” เอ่ยคำว่า”นักธุรกิจ”เป็นใคร หากประเมินผ่าน”น้ำเสียง”ก็จะสะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในลักษณะอันเป็น”อคติ”อย่างเด่นชัด

และเมื่อโยงจากแต่ละคำพูดไปยังแต่ละน้ำเสียงและรับรู้ว่าเป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เข้าใจยิ่งรู้ถึงฐานที่มาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งเข้าใจ

เข้าใจและเห็นใจในแต่ละก้าวย่างบนเส้นทางการรับราชการ การเป็นทหาร การได้รับความช่วยเหลือและอุ้มชูจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเส้นทางการศึกษา เส้นทางการทำงานของ นายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ว่าเมื่อเป็น”ลูกจ้าง”หรือเมื่อออกมาทำ”ธุรกิจ”อสังหาริมทรัพย์

คนหนึ่งเป็น”ทหาร”มาทั้งชีวิต คนหนึ่งเป็น”นักธุรกิจ”

 

ไม่มีใครสงสัยว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องแสดง”กิริยา”อาการเช่นนั้น หลุด”คำพูด”อย่างนั้นออกมาจากสองเรียวปาก นั่นเป็นตัวตน นั่นเป็นธรรมชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นั่นเป็นสิ่งที่ตลอดสองรายทางนับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 กระทั่งเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 ล้วนอยู่ในคลังแห่งความรับรู้ของสังคม

กลายเป็นฐานแห่งการตัดสินใจในเดือนพฤษภาคม 2566