E-DUANG : ฝันร้าย จาก มอเตอร์ไซค์ ม็อบ ฝันร้าย ต่อประยุทธ์ จันทร์โอชา

การปรากฏขึ้นของ”มอเตอร์ไซค์ ม็อบ”กำลังก่อให้เกิดอาการ”ฝันร้าย”ขึ้นในความทรงจำของ “ตำรวจ”

ยิ่งเห็นภาพการไหลมาดุจ”ลาวา”บนทางด่วนแยกสุทธสารฯ

ยิ่งก่อให้เกิดจินตนาการกว้างไกลย้อนกลับไปยังสถานการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 เมื่อมอเตอร์ไซค์ทั่วกรุงได้ก่อการเคลื่อน ไหวอย่างคึกคักภายหลังการล้อมปราบจากทหาร

หน่วยควบคุมฝูงชน(คฝ.)จึงมองไปยังภายใน”กลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย”อย่างเป็นพิเศษ เพราะไม่เพียงแต่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของเดือนพฤษภาคม 2535

ปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ แกนนำหลักอันจัดวางมาโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยังเป็นแกนนำที่สัมพันธ์กับสถานการณ์เดือน เมษายน พฤษภาคม 2553 อย่างถึงเลือดถึงเนื้อ

เมื่อจูนกับชุดสีแดง”ไพร่”ของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ยิ่งร้อนแรง

เมื่อพลังของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ประสานเข้ากับพลังของ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ก็ร้อนฉ่าอยู่แล้ว

ยิ่งมีพลังจาก นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ เติมเข้าไปยิ่งแตกกระจาย

 

หากมองจากความจัดเจนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา บทเรียนจากอดีตก็เรียงแถวกันขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

ไม่ว่าบทเรียนเดือนพฤษภาคม 2535 ไม่ว่าบทเรียนเดือนเมษา ยน พฤษภาคม 2553 โลดแล่นราวกับมีชีวิต

สถานการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 อาจล่วงเลยมานานเหมือน กับสถานการณ์เดือนตุลาคม 2516 และสถานการณ์เดือนตุลาคม 2519 อันกลายเป็นอดีต

แต่สถานการณ์เดือนเมษายน 2552 สถานการณ์เดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 ยังไม่ยาวนานนักและอยู่ในวงจรที่มีบทบาทร่วม

จึงสดๆร้อนๆเหมือนที่เคยเผชิญกับ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์

ความรุนแรงแข็งกร้าวจากเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม จึงเป็นความรุนแรงแข็งกร้าวที่สะท้อนความต้องการลึกๆในทางการเมืองเพื่อตัดไม้ข่มนามและสยบผลและความต่อเนื่อง

หวังจะสร้าง”ความกลัว”ให้ครอบคลุมไปตลอดเดือนสิงหาคม

คำถามก็คือ นับจากมาตรการเข้มต่อ”เยาวชนปลดแอก”ตลอดปี 2563 ก่อให้เกิดความหวาดพรั่นสยบยอมอย่างศิโรราบหรือไม่

ตรงนี้ต่างหากจึงทำให้สถานการณ์วันที่ 7 สิงหาคมสำคัญ