E-DUANG : บทเรียน กดดัน “กลุ่ม 4 กุมาร” ยุทธการ แทงหลัง “2 รัฐมนตรี”

ยากเป็นอย่างยิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อประวิตร วงษ์สุวรรณ จะหลีกเลี่ยงการปรับครม.ออกไปได้

แม้ว่าทั้ง 10 รัฐมนตรีจะได้รับความไว้วางใจสูงกว่าไม่ไว้วางใจ

กระนั้น หากติดตาม”ปฏิกิริยา”อันเกิดขึ้นภายในของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นพรรค ภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์

ก็จะสัมผัสได้ใน”ความหงุดหงิด” และปะทุแห่ง”อารมณ์”ที่สำแดงออกมา

ไม่เพียงแต่เป็นความหงุดหงิดของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เมื่อปรากฏอย่างเด่นชัดว่ามีอย่างน้อย 3 ส.ส.ที่แสดงความไม่ไว้วางใจต่อตน

หากแต่เสียงคำรามจากพรรคภูมิใจไทยก็ยืนยันความไม่พอใจต่อ ส.ส.อย่างน้อย 6 คนของพรรคพลังประชารัฐที่ประกาศความเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย

ยังคะแนนของ 2 รัฐมนตรีแห่งพรรคพลังประชารัฐที่ยิ่งสืบสาวยิ่งพบเบาะแสของปฏิบัติการ”แทงข้างหลัง”กันเองอย่างเห็นๆกันอยู่

 

ต้องยอมรับว่า บรรดา”มือปืนรับจ้าง”ที่อยู่ในเครือข่ายปฏิบัติการ IO ยังเน้นอยู่ที่คดีความที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและเครือญาติต้องประสบอย่างต่อเนื่อง

กระนั้น ความอื้อฉาวจากอภิปรายทั่วไปของฝ่ายค้านและการลงคะแนนของ”คนกันเอง”ในรัฐบาลก็อึกทึกครึกโครม

อึกทึกครึกโครมถึงขั้นระบุออกมาว่ามีอย่างน้อย 3 “รัฐมนตรีช่วยว่าการ”ของพรรคพลังประชารัฐเปิดปฏิบัติการ”แทงข้างหลัง”ต่ออย่างน้อย 2 รัฐมนตรีว่าการอย่างไม่ปิดบังอำพราง

ตรวจสอบจากคะแนนไว้วางใจของ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ที่ได้มาเพียง 258 ตรวจสอบจากคะแนนไว้วางใจของ นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่ได้มาเพียง 263 ก็ต้องร้องอ๋อ

เพราะทั้งหมดนี้เป็น”ปฏิกิริยา”จาก”คนกันเอง”ในรัฐบาลทั้งสิ้น

และคนกันเองทั้งหมดนั้นก็มิได้อื่นไกลหากแต่เป็น”รัฐมนตรีช่วยว่าการ”ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ

 

ตอนที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อกดดัน “กลุ่ม 4 กุมาร” ก็มิได้มาจากภายนอก ตรงกันข้าม เป็นการเคลื่อนไหวจากบรรดา ส.ส.ที่เคยอยู่รอบข้าง”กลุ่ม 4 กุมาร”มาก่อน

ปฏิบัติการ “แทงข้างหลัง” ต่อ”กลุ่ม 4 กุมาร”เป็นอย่างไร ปฏิบัติการ “แทงข้างหลัง” ต่อ “2 รัฐมนตรีว่าการ”ก็เป็นอย่างนั้น