| เผยแพร่ |
|---|
จากเดือนกรกฎาคมมายังเดือนพฤศจิกายน ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจาก”เยาวชนปลดแอก”เข้าสู่”คณะราษฎร 2563” เท่านั้น
หากแต่ยังทำให้ “ภาพ” แห่งการเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นในกทม. ไม่ว่าจะเป็นในจุดอื่นมีความเด่นชัด
เด่นชัดว่าเป็นการเคลื่อนไหวอันหลายหลาก มากด้วยสีสัน
นี่ย่อมมิได้เป็นการเคลื่อนไหวที่เคร่งเครียดจริงจังในแบบของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือในแบบของมวลมหาประ ชาชนกปปส.
หากเป็นการเคลื่อนไหวที่ดำเนินไปอย่างยืดหยุ่น แรกที่ปรากฏเมื่อเดือนกรกฎาคมอาจดูคล้ายกับการเคลื่อนไหวในอดีต เช่นเดียวกับเมื่อเข้าสู่เดือนสิงหาคมที่ลานพญานาค รังสิต
แต่พลันที่”ม็อบตุ้งติ้ง”ปรากฏตัว และพลันที่”ม็อบเฟส”ปรากฏตัว ไม่ว่าในย่านสีลม ไม่ว่าบนถนนราชดำเนิน เริ่มมีกลิ่นใหม่
เป็นกลิ่นอันเป็น”เงาสะท้อน”ของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
การชุมนุมแยกลาดพร้าวที่ไม่ปรากฏตัว”คนนำ”ในแบบเก่าได้ให้รูปแห่งการรวมตัวกันอย่างน่าตื่นตัวตื่นใจ ไม่น่าเชื่อว่าคนหลายหมื่นจะ สามารถสร้างเอกภาพในทางความคิด การเคลื่อนไหวได้ระดับนั้น
กระนั้น จุดเด่นเป็นอย่างมากน่าจะเป็นประสิทธิภาพในการติด ต่อและนัดหมายอย่างรวดเร็ว ฉับไว
เพียงนัดหมายกันล่วงหน้าไม่กี่ชั่วโมง คนเรือนหมื่นก็ไหลไปรวมกัน ณ จุดนัดหมายอย่างพร้อมเพรียง ทั้งเป็นความพร้อมเพรียง บนเป้าหมายเดียวกัน
ลักษณะยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพทางการเมืองเช่นนี้เองจึงสามารถเปลี่ยนจุดนัดหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น”นักเรียนเลว” ไม่ว่าจะเป็น”ราษฎร”
ตัวอย่างล่าสุดคือการเปลี่ยนจุดจาก”ทรัพย์สิน”ย่านสี่เสาไปยัง”ธนาคารไทยพาณิชย์”ย่านรัชโยธิน
สร้างความปั่นป่วน ก่อสภาวะงุนงงให้กับตำรวจ ทหารและเหล่ามินเนี่ยนไปตามๆกัน
พัฒนาการของ”เยาวชนปลดแอก”มายัง”คณะราษฎร 2563” จึงเป็นพัฒนาการทั้งในทางความคิด และทั้งในทางการเมืองที่ดำเนินไปในแบบคิดใหม่ ทำใหม่อยู่ตลอดเวลา
ภาพแห่งการเคลื่อนไหวจึงเป็นภาพแห่ง”จรยุทธ์”เด่นชัด
