ถามว่าสโลแกน“ปิดสวิตช์ ส.ว.” กำเนิดขึ้นอย่างไรในทางการเมืองยุคก่อนและหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562

ยอมรับเถิดว่าเป็นการเสนอจาก”พรรคอนาคตใหม่”

ยอมรับเถิดว่าไม่เพียงเป็นสโลแกนสำคัญที่ใช้ในห้วงก่อนการ เลือกตั้ง หากแม้กระทั่งภายหลังผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ปรากฏออกมาแล้ว

ในการประชุมร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านอันประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคพลังปวงชนไทย

เพื่อร่วมกันจัดทำ”ปฏิญญานิวคาสเซิล”ขึ้นเพื่อต่อสู้กับพรรคพลังประชารัฐ สโลแกน”ปิดสวิตช์ ส.ว.”ก็ได้รับการชูขึ้นสูงเด่น เพื่อดึงพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทย เป็นพันธมิตร

เพียงแต่เมื่อเกิดการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่จึงเกิดการรวนเรเพราะที่งอกมา 10 กว่าคนคืออภินิหารในทางกฎหมาย

สโลแกน”ปิดสวิตช์ ส.ว.”จึงค่อยอ่อนแรงลงเป็นลำดับ

 

พลานุภาพแห่ง 250 ส.ว.ตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 อาจดึงให้พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ตีจากพันธมิตรฝ่ายค้านที่มีพรรคเพื่อไทยนำ

กระนั้น เป้าหมายสำคัญที่พรรคอนาคตใหม่รณรงค์อย่างต่อเนื่องก็คือการเสนอแนวทางแก้ไขรัฐธรรมอย่างเป็นระบบ

โดยมีแก้ไขมาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว.เป็นส่วนหนึ่ง

ความพยายามนี้ของพรรคอนาคตใหม่จึงดำเนินมาแม้ว่าพรรค อนาคตใหม่จะถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 แต่ก็ได้รับการสืบทอดโดยพรรคก้าวไกล

ขณะเดียวกัน ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากก็คือ คำว่า”ปิดสวิตช์ ส.ว.”ได้กลายเป็นคำขวัญหนึ่งซึ่งไม่ว่าพรรคฝ่ายค้าน ไม่ว่าพรรคร่วม รัฐบาลต่างตั้งเป็นความหวัง

พลันที่เอ่ยถึงมาตรา 272 ก็ต้องตามมาด้วยคำ”ปิดสวิตช์ ส.ว.”

สะท้อนให้เห็นบทบาทและความหมายในการปักธงในทางความคิดว่าสำคัญมากน้อยเพียงใดในทางการเมือง

 

พรรคการเมืองหนึ่งจะมีความหมายจะมีบทบาทหรือไม่มิได้อยู่ที่การเสนอคำขวัญผ่านแถลงการณ์เพียงอย่างเดียว หากที่สำคัญต้องอยู่ที่ การยึดกุมหลักการมั่นแน่วเพียงใด

การที่พรรคอนาคตใหม่สามารถสถาปนาถ้อยคำ”ปิดสวิตช์ส.ว.”ได้อย่างทรงพลังจึงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งในทางการเมือง