อภิญญ ตะวันออก : “งาน-ความรัก” ฉบับพิสดารของทายาทตระกูลฮุน ตอนจบ

ความจริงข้อหนึ่งของชาวฮุน ไม่ว่าผลลัพธ์ “ชีวิต-งาน” ในทางใดของพวกเขาจะถูกคุกคามจนย่ำแย่ แต่กระนั้น ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวที่มีต่อกันอย่างแน่นแฟ้น จะถูกแสดงออกมาราวกับเป็นทฤษฎีหนึ่งเดียว

เช่นนี้ เมื่อฮุน มานี เพลี่ยงพล้ำ ฮุน เซน สมเด็จพ่อจะยื่นมือออกไปและส่งมอบตำแหน่งใหม่ที่มีความหมายทางการเมืองต่อเขาโดยทันที

ครั้งนี้ก็เช่นกัน คำประกาศแต่งตั้งตำแหน่งทางทหารด้านความมั่นคงแก่ฮุน มานี และส่งเขาเดินสายรับรางวัลสาขาทางสังคมอันทรงเกียรติ

ตอกย้ำถึงความเป็นชนผู้ไม่อาจแตะต้องได้ เช่นเดียวกับฮุน มานา ฮุน มาเนต หรือแม้แต่ฮุน โต

สำหรับความเป็นฮุนแล้ว นี่คือการคงไว้ซึ่งความลึกลับ คลุมเครือ และเพิกเฉยในบางกรณีคือสิ่งอันเป็นเลิศ และไม่ใช่กงการของฝ่ายใดที่จะยื่นจมูกมาขุดคุ้ย แม้ว่าข้อเท็จจริงจะพวกนอกรีตในสื่อโซเซียลทำหน้าที่นี้อย่างชนิดที่ไม่เคยหาย ตัวตายตัวแทน

และเรื่องแบบนั้น บางครั้งก็สามารถจำกัดวงได้เช่นกรณีแจว สุวัฒนา ในสัมพันธ์ลับกับบุคคลแห่งศูนย์กลางอำนาจในอดีต เว้นเสียแต่กรณีที่เกิดกับฮุน มานา และพบว่า นี่คือการทำงานเยี่ยงนักจารกรรม แลมันทำให้ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา สมาชิกตระกูลฮุนต้องต่อสู้กับช่วงเวลาแห่งการคุกคามจากศัตรูที่ยากต่อการจำแนก

ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง มันก็มาจากที่พวกเขาประพฤติตนคล้ายคนนอกรีตทั้งฮุน มานี และฮุน มานา

 

เริ่มจาก 8 กันยายน 2017 วันที่ฮุน มานา (37) ให้กำเนิดดี เสนวิทู บุตรชายคนแรกของเธอกับสามี และเป็นหลานลำดับที่ 19 ของสมเด็จตาฮุน เซน

ขณะที่อีกหนึ่งเดือนเต็มถัดมา คือวันที่ 8 ตุลาคม โลกจุมเตียวเพชร จันมุนี ภรรยาพลโทฮุน มาเนต ก็คลอดบุตรชายซึ่งเป็นทายาทรุ่นหลานลำดับที่ 20 ของสมเด็จฮุน เซน เช่นกัน

แต่มีข้อสังเกตว่า การตั้งครรภ์ของฮุน มานา ถูกปิดบังอำพราง กระทั่งเธอและดี วิเจีย ออกงานมงคลสมรสบุตรชายสก อาน เป็นครั้งแรก

ไม่เพียงเท่านั้น ตลอดการตั้งครรภ์ ฮุน มานา ได้หยุดกิจกรรมแจกบ้านเทวดาในมูลนิธิบายน อีกกิจกรรมสงเคราะห์เด็กและคนชราผู้ยากไร้นี้ ถูกถ่ายโอนให้เป็นหน้าที่ของฮก จันดาวี-สะใภ้/น้องสามี ผู้มีชื่อใหม่ว่า “ดี สุขีฑีฆายุโก” (สุขีฑีเฆียยุเกา)

ทั้งหมดนี้ มีเคลื่อนไหวอยู่ในเฟซบุ๊กของเธอ-Mana Hun ที่เผยให้เห็นฮุน มานิต และครอบครัว ที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้อย่างเรียบง่าย

นั่นเองที่ตัวตนของดี สุขีฑีฆายุโก กลายเป็นที่รับทราบทางสังคม หลังจากที่เธอใช้ชีวิตแม่บ้าน มีลูกหลายคนกับฮุน มานิต จนลูกๆ เติบโตเป็นวัยรุ่น

ก่อนหน้านี้ ฮก จันดาวี มีตัวตนอยู่เฉพาะความเป็นสะใภ้ของบุรุษเถื่อนก้าวร้าวอย่างสมเด็จฮุน เซน และคุณพ่อของเธอเอง ซึ่งทำให้ฮก จันดาวี หรือดี สุขีฑีฆายุโก รวมทั้งดี วิเจีย กลายเป็นตัวแทนแห่งความเกลียดชังของสังคม

แต่นับ 10 ปีที่ฮก ลองดี ตายไปจากสังคมกัมพูชาและทิ้งไว้แต่ทายาท ทั้งดี วิเจีย กับดี สุขีฑีฆายุโก กลับแสดงให้เห็นถึงบุคลิกอันสันโดษ สุภาพอันเป็นขนมอ่อนหวานในแบบเขมรดั้งเดิม และดูเหมือนว่าสองศรีพี่น้องจะไม่เคยสร้างภาพลักษณ์อันเสื่อมเสียมาสู่ครอบครัวตระกูลฮุน

ไม่เพียงเท่านั้น ยามใดที่สมาชิกตระกูลต้องเผชิญหน้ากับความยุ่งยาก พวกเขาจะแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวที่จะปกป้องและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลทั้งสองอย่างซื่อสัตย์และมั่นคง

โดยเฉพาะฮุน มานา กับดี วิเจีย ซึ่งครองคู่กันมาถึง 9 ปี กระนั้น ดี วิเจีย ก็ยังเป็น “อาเวก” คนว่างเปล่า ที่ไม่มีลูกกับภรรยา

 

ทว่า จู่ๆ ฮุน มานา ก็ตั้งครรภ์ และพบว่า การตั้งครรภ์ของเธอเป็นไปอย่างลับๆ กระทั่งการเล็ดลือนาม “บุรุษกำนัล” คนใหม่ของลูกสาวหมายเลขหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขานในสังคมโซเซียล เขาคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น คือ เนต ซาเวือน ที่ใกล้ชิดทั้งดี วิเจีย และครอบครัวทุกฝ่ายของสมเด็จฮุน เซน

ทันทีที่ภาพลับของมานาและซาเวือนถูกเปิดเผยในโซเซียล การค้นหาที่มาของเนต ซาเวือน ก็ถูกเปิดโปงตามมา และพบว่า แท้จริงแล้วเขาเป็นเสมือนเงาแทรกระหว่างดี วิเจีย และฮุน มานา กึ่งสถานะญาติฝ่ายดองจากการสมรส หนึ่งในเงื่อนไขสำคัญของการเป็นสมาชิกตระกูลฮุน

ชัดเจนว่า การได้มาซึ่งบุตรชายดี เสนวิทู ทำให้ดี วิเจีย รับการเลื่อนขั้นเป็น “รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” และเป็นแบบแผนเดิมๆ ที่สมเด็จฮุน เซน มักใช้ปลอบขวัญทางใดทางหนึ่งต่อสมาชิกคนสำคัญทันทีที่มีการขุดคุ้ยหรือโจมตีจากสังคม

เช่นกรณีฮุน มานีและสรัยนา

 

แตกต่างกันอย่างมากกับพี่ชายฮุน มาเนต ที่แสดงออกอย่างหลงใหลในความเป็นคุณพ่อมือใหม่ของบุตรชายคนที่ 3 ซึ่งเขารอคอยมานานนัก ไม่เพียงเท่านั้น ในระยะหลังยังแสดงออกถึงความรักที่มีต่อมารดา-คุณหญิงบุน รานีฮุนเซน ผู้คล้ายจะถูกโดดเดี่ยว กลายเป็นหญิงชราผู้ว้าเหว่ต่อปรากฏการณ์ที่เฝ้ามอง “ความสัมพันธ์ฉันท์อำนาจที่ทับซ้อนของคนในครอบครัว” และของสตรีหมายเลข 1

ต่อต้นทุนธุรกิจการเมืองซึ่งนับวันมีแต่จะหนักอึ้งต่อจิตใจของสมเด็จจุมเตียว ผู้ที่ครั้งหนึ่งได้ชื่อว่ามีอำนาจล้นฟ้า แม้ระทั่งใบสั่ง “ความตาย” ของสรัยกำนัลบางคนในสมเด็จฮุน เซน เช่นกรณีให้หลัง 19 ปีก่อนของนักแสดงนางรำพิสิต พิลิกา

ทว่า วันนี้ เรื่องพิสดารของสรัยกำนัลดูจะกลายเป็นเรื่องสามัญในหมู่ชายชาตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ ทั้งสมเด็จ ออกญาและเอกอุดม

ทว่า “ความคลุมเครือ” นั้นเองที่ยังเป็นเหตุ “ไจดล/บังเอิญ” ไม่ต่างอะไรกับเรื่องบางตอนของแจว สุวัฒนา ที่เป็นแม่ม่ายลูกติดแลแท้ที่จริงแล้วเธอยังเป็นสมบัติอันคลุมเครือของตัวแทนแห่งอำนาจส่วนกลาง ซึ่งอาจเป็นทั้งสมเด็จ ออกญา อุดมเสนีย์ บุคคลผู้มีตัวตน

ความคลุมเครือดังกล่าวนี้ ยังเล่าขานถึงหญิงแม่ร้างคนหนึ่งคือ ลึม ชนธิดา ว่าเธอคือสรัยกำนัลของออกญามง ฤทธี ผู้ใกล้ชิดสมเด็จฮุน เซน โดยนอกจากการเป็นตัวแทนครอบครองที่ดินเกษตรกรรมจำนวนมากให้แก่สมเด็จและส่วนของตนแล้ว

ในนามเจ้าของผู้มีอำนาจเต็มคนหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยนาม ออกญาผู้นี้ ยังเป็นนอมินี ถือครองสรัยกำนัลและลูกชายของเธอให้แก่เจ้าของตัวจริงอีกด้วย

 

นับเป็นความซับซ้อนมากไปอีกของระบบฮุน เซน แต่มันเป็นสิ่งที่สมเด็จบุน รานี ได้รับรู้ พร้อมๆ ไปกับเรื่องราวใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่ลูกๆ ของเธอ เช่น กรณีสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างอดีตสะใภ้ลิม ฌายลิน กับฮุน โต หลานชายของสามี

ทุกอย่างล้วนเป็นไปเพื่อผดุงไว้ซึ่งอำนาจและการถือครองความมั่งคั่งทางธุรกิจอันสุดจะประเมินได้ เช่นเดียวกับที่ฮุน โต เวลานี้ได้กลายเป็นตัวแทนการครอบครองธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการโรงแรม ที่ฮุน เซน ได้ผ่องถ่ายมาจากออกญาอาวุโสบางคน ผู้สวมบทครอบครองแทนแต่ก่อนมา

และขณะนี้ มันจำเป็นที่จะถ่ายโอนไปมาในหมู่ลูกหลานตระกูลฮุน แม้แต่อดีตสะใภ้หรือเขยที่เคยเลิกร้าง ล้วนแต่เป็นตัวแทนหรือนอมินีแห่งทรัพย์สินอันอุดมตลอดช่วง 2 ทศวรรษ ดังที่เกิดขึ้นกับอดีตภรรยาของฮุน มานี

เช่นเดียวกับดี วิเจีย และฮุน มานา ในขนบแห่งความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา บนแพร่งแห่งความพยายามรักษาไว้ซึ่งอำนาจและหุ้นส่วนทางการเมือง และเรื่องลับๆ ที่วิวัฒนาการไปตามพลวัตแห่งอำนาจอันไพบูลย์นี้ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร

เมื่อเป็นสมาชิกตระกูลฮุน ทั้งญาติ เขย สะใภ้และทุกฝ่าย พวกเขาจำต้องยอมรับต่อภารกิจนี้ไว้ ไม่ว่าจะปีติ เต็มใจหรือขันขื่นเพียงใด

มิฉะนั้นแล้ว สถานะของการปิดบังอำพราง กรณีอันพัวพันในผลประโยชน์จนเป็นเหตุให้ทอง สารัต ออกญาหนุ่มถูกจับกุมข้อหาบงการฆ่าอือ เมงจือ ออกญาเฒ่า หรือกรณีคดีแจว สุวัฒนา ล้วนแต่มีฉากหลังอันคลุมเครือแห่งตรวนอาญาและคำพิพากษา

ตลอดจนกรณีพัวพันทั้งการเมืองและส่วนตัวเหล่านั้น

ไม่มีใครเลยจะเข้าถึงชุดหลักฐานแห่งความจริง โดยเฉพาะเหล่าสมาชิกสกุลฮุน

ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความมืด ในอุโมงค์ประภาคารที่พวกเขาสร้างมันด้วยมือของตนเอง