คนของโลก : “แบรนเจลินา” คู่รักทรงอิทธิพลแห่งฮอลลีวู้ด

AFP PHOTO / MARK RALSTON

ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับ แองเจลินา โจลี กับ แบรด พิตต์ ตั้งแต่ความมีเสน่ห์ที่ไม่มีใครเทียบ ไปจนถึงการมีลูก 6 คน ทำให้ทั้งคู่โดดเด่นในฮอลลีวู้ดมานานนับทศวรรษ และทุกย่างก้าวของพวกเขาถูกเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั่วโลก

องค์ประกอบที่มีส่วนทำให้ทั้งคู่มีสถานะเป็นซูเปอร์สตาร์คือเหตุการณ์ที่ทั้งคู่พบกัน ความหน้าตาดี วิถีชีวิตที่ผิดธรรมดา การประสบความสำเร็จในอาชีพ และการอุทิศตนช่วยเหลืองานด้านมนุษยธรรม

ที่จริงแล้วเหตุการณ์ที่ทั้งคู่ได้พบกันถือเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่เป็นตำนานของฮอลลีวู้ด และถือเป็นฝันที่เป็นจริงของสื่อแนวซุบซิบกอสซิปทั้งหลาย

เมื่อปี 2004 โจลี ซึ่งขณะนั้นอายุ 28 ปี ได้พบกับ พิตต์ วัย 40 ปี ที่ตอนนั้นแต่งงานแล้วกับ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ในขณะที่ทั้งคู่แสดงภาพยนตร์เรื่อง “มิสเตอร์แอนด์มิสซิสสมิธ” ด้วยกัน

หลังจากนั้นข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็แพร่สะพัดไปทั่ว และในเดือนมีนาคม 2005 พิตต์กับอนิสตันก็หย่ากัน

โจลี ที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดของวงการ ได้จับคู่กับพิตต์ เป็นคู่รักระดับแถวหน้าของฮอลลีวู้ดคู่ใหม่

ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น ทั้งคู่ปรากฏตัวร่วมกันในการถ่ายแบบที่มีธีมเป็นชีวิตการแต่งงานในยุคทศวรรษที่ 1950 ให้กับนิตยสารดับเบิลยู จากนั้นตำนานเรื่องนี้ก็ถือกำเนิดขึ้น

เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา มีการเปิดเผยว่าโจลียื่นฟ้องขอหย่ากับพิตต์ นับเป็นการปิดฉากคู่รักที่มีชื่อเรียกเป็นที่รู้จักกันว่า “แบรนเจลินา”

ในช่วงเวลาที่ทั้งคู่ครองความโด่งดังร่วมกัน พิตต์และโจลีรักษาความสัมพันธ์กับฮอลลีวู้ดและสื่ออย่างระมัดระวัง โดยให้ข่าวเท่าที่จำเป็นแต่ก็รักษาระยะห่างไว้บ้าง

ในทางหนึ่งพวกเขายังคงเดินพรมแดงในงานประกาศผลรางวัลอย่างออสการ์เป็นอาทิ แสดงหนังระดับบล็อกบัสเตอร์และให้สัมภาษณ์เป็นบางโอกาส

แต่ทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอิสระเดินทางไปยังที่ต่างๆ ซึ่งห่างไกลจากฮอลลีวู้ด และสร้างหนังอาร์ตบ้างแบบไม่จริงจังนัก

000_ge3y7ตัวอย่างที่ดีของความสัมพันธ์แบบเฉพาะตัวของคู่รัก “แบรนเจลินา” คือทั้ง 2 ขายภาพถ่ายในตอนแรกเกิดของลูกแท้ๆ 3 คนให้กับสื่อหลายสำนัก หลังจากนั้นก็นำเงินที่ได้ไปบริจาคเพื่อการกุศล และทำแบบเดิมอีกครั้งเมื่อตอนที่ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2014

ทั้งนี้ โจลีกับพิตต์ยังมีลูกที่รับมาเลี้ยงอีก 3 คนด้วย

รัศมีบารมีของทั้ง 2 ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีกเมื่อพวกเขามีส่วนร่วมกับงานอื่นๆ นอกเหนือจากการแสดง ไม่ว่าจะเป็นผลงานเดี่ยวหรือคู่

พิตต์ได้รับรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเมื่อปี 2014 จากเรื่อง “12 เยียร์ส อะ สเลฟ” ในบทบาทผู้อำนวยการสร้าง ที่เขายังมีส่วนร่วมในการแต่งหน้า ทำผม ในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

โจลี เริ่มต้นกำกับภาพยนตร์เช่นกัน โดยได้รับคำชื่นชมเป็นวงกว้างจากนักวิจารณ์ไม่น้อยหน้าไปกว่าพิตต์ ผลงานที่เป็นที่รู้จักดีที่สุดของเธอคือเรื่อง “อันโบรกเคน” ที่ออกฉายเมื่อปี 2014

UNHCR
UNHCR

นอกจากนี้ โจลียังอุทิศตนเพื่องานด้านมนุษยธรรม โดยทำหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรีของข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) อยู่หลายปี ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนพิเศษด้านผู้ลี้ภัยของยูเอ็นเมื่อปี 2012 และกลายเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านความรุนแรงทางเพศในพื้นที่ขัดแย้งและทำงานเพื่อปกป้องสัตว์ที่ถูกคุกคามจนใกล้สูญพันธุ์ ขณะที่พิตต์ดูจะเก็บเนื้อเก็บตัวมากกว่า

1 ในสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับมะเร็งครั้งสำคัญที่สุดของโลกคือ การที่โจลีได้ผ่าตัดเอาเต้านมออกทั้ง 2 ข้างเมื่อปี 2013 และภายหลังยังได้ผ่าตัดรังไข่และท่อนำไข่ออกเพื่อเป็นการป้องกันโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ที่คร่าชีวิตแม่ ยาย และป้าของเธอ

2 ปีถัดมาเธอเขียนบทความแสดงความคิดเห็นลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส เล่าถึงการตัดสินใจดังกล่าวของเธอ และเรียกร้องให้ผู้หญิงใช้วิธีการดังกล่าวในการต่อสู้ป้องกันโรคมะเร็งเหมือนอย่างที่เธอทำ โดยเธอบอกว่า “ความรู้คือพลัง”

และบทสรุปสุดท้ายของคู่รัก “แบรนเจลินา” เป็นโจลีที่มีภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำมากกว่า ที่เป็นฝ่ายฟ้องหย่าพิตต์ และเรียกร้องขอสิทธิในการเลี้ยงดูลูกเพียงฝ่ายเดียว

000_ge3wx

000_75589