ยานยนต์/สันติ จิรพรพนิต/’ฮอนด้า ซีอาร์-วี’ ดีเซล แรงสะใจ-ประหยัดได้อีก

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์
สันติ จิรพรพนิต
[email protected]

‘ฮอนด้า ซีอาร์-วี’ ดีเซล

แรงสะใจ-ประหยัดได้อีก

‘1,000’ กิโลเมตร??
ระยะทางคร่าวๆ ที่ผมขับ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี” เครื่องยนต์ดีเซล และน่าจะเป็นสถิติการทดสอบที่ยาวนานที่สุดของผมครั้งหนึ่ง
เพราะปกติแล้วการทดสอบรถในกรณีที่ยืมมาแบบเดี่ยว รัศมีการขับไป-กลับอยู่ราวๆ 300-500 กิโลเมตร เพราะเงื่อนไขในเรื่องเวลาการทำงาน และวันหยุดที่ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเขา
แต่ในทริปล่าสุดผมต้องเดินทางไป จ.บุรีรัมย์ และวิ่งวนไปมาหลายอำเภอ ทำให้การทดสอบรถฮอนด้า ซีอาร์-วี นั้นยาวนานอย่างยิ่ง
ก่อนการเดินทางคิดอยู่ว่าจะหาโอกาสทดสอบรถไปด้วยในตัว เงื่อนไขหลักๆ คือต้องเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันระดับหนึ่ง วิ่งทางไกลได้ไม่เครียดเกินไป อัตราเร่งตีนต้น-กลาง ต้องพอตัว เพราะเส้นทางมีหลายช่วงที่เป็นถนน 2 เลนสวน และที่สำคัญทัศนวิสัยระหว่างขับขี่ต้องดี เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ผมไม่คุ้นเคย การมีทัศนวิสัยที่ดีทำให้ตัดสินใจระหว่างขับขี่ได้ง่าย
หวยจึงมาออกที่ฮอนด้า ซีอาร์-วี เครื่องยนต์ดีเซล ตามที่ “กิตติพงศ์ ศรีเจริญ” นักข่าวและนักทดสอบรถใน “โต๊ะรถยนต์ ข่าวสด” เสนอแนะ เพราะเคยลองขับแบบกลุ่มมาแล้วตามคำเชิญของฮอนด้า
ซึ่งก็ตรงกับความคิดของผม เนื่องจากเงื่อนไขต่างๆ ที่ผมต้องการนั้นมีอยู่ครบ
ได้ตัวท็อปสีเทา เห็นรูปลักษณ์ภายนอกแล้วถือว่า “โดน” พอสมควร เพราะออกแบบได้หรูหราแต่มีความสปอร์ตในที
ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่แบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light กระจังหน้าแบบพรีเมียมได้รับการออกแบบด้วยเส้นสายที่เฉียบคม และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตใหม่ ลายดูสวยมาก

ด้วยความที่เป็นคนทำงานตอนดึก กว่าจะนอนก็ข้ามเที่ยงคืนไปนานแล้ว การเดินทางของผมจึงออกในช่วงสายๆ เพราะไม่อยากฝืนตื่นเช้าแล้วง่วงๆ ขับระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร
ยิ่งเส้นทางที่ไปมีกล้องตรวจจับความเร็วเยอะเหลือเกิน จึงไม่อยากใช้ความเร็วเกินไป (แต่ก็จัดหนักอยู่หลายเพลา…??)
พูดถึงเรื่องจำกัดความเร็วบอกเลยว่า กฎหมายบ้านเราในเรื่องนี้น่าจะจับมาตีก้นจริงๆ เพราะถนนใหญ่หลายๆ สาย จำกัดความเร็วที่ 80-90 กิโลเมตร หรือถ้าอนุโลมก็ราวๆ 100-110 กิโลเมตร แม้จะมีเหตุผลในเรื่องความปลอดภัย แต่มันไม่เข้ากับข้อเท็จจริงเลย
อย่างถนนมิตรภาพ หรือถนนสายเอเชีย บางทีจำกัดความเร็วแค่ 80-90 กิโลเมตรเท่านั้น แม้บางครั้งจะอนุโลมให้ถึง 100-110 กิโลเมตร แต่ก็ต้องแล้วแต่อารมณ์ด้วยนะ เพราะคำว่าอนุโลม คือบังคับก็ได้ ไม่บังคับก็ได้
แต่ถึงจะอนุโลมก็เถอะ ถนนใหญ่ขนาดนั้นให้ขับความเร็วเท่านี้ อาจจะอันตรายกว่าด้วยซ้ำ เพราะคนขับมีโอกาสง่วงหรือหลับในได้ง่ายๆ
พี่ใช้อะไรคิด…ถามจริง ถนนไป-กลับ 8-10 เลน จำกัดความเร็วแค่นี้อ่ะนะ
ที่สำคัญกฎหมายเรื่องจำกัดความเร็ว เหมือนจะบังคับเฉพาะคนทั่วไปเท่านั้น แต่หากเป็นรถขบวนของท่านผู้มีอำนาจทั้งหลาย เหยียบเกินกำหนดทั้งนั้น
แล้วพวกคุณไม่กลัวอันตรายหรือยังไง??
นอกจากนี้ ระหว่างทางไป-กลับ ผมเจอพวกขับช้าชิดขวาไม่ถึงร้อยคัน ก็เฉียดๆ ล่ะครับ คือมีคนขับรถจำนวนไม่น้อยที่ขับตามความเร็วสูงสุดที่กฎหมายกำหนด เลยแช่ขวาไว้ซะอย่างนั้น เพราะถือว่าทำความเร็วสูงสุดตามกฎหมายแล้ว จะบีบแตร หรือตบไฟขอทาง ข้าก็ไม่สน
คันหลังที่ตามมาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตัดเข้าเลนกลางแล้วแซงขึ้น ผมว่าอันตรายกว่าอีก
ส่วนคนขับมารยาทดีที่ชิดขวาแต่เมื่อเห็นรถคันหลังมาเร็วแล้วหลบทางให้ ตลอดการเดินทางไป-กลับของผม นับไปนับมามีไม่ถึง 10 คัน
มันเกิดอะไรขึ้นกับมารยาทการขับรถของคนไทย พ.ศ. นี้??

การเดินทางใช้เส้นวิภาวดี ถึงสระบุรีก็เลี้ยวขวา แล้วยิงยาวไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหมาย
ห้องโดยสารของซีอาร์-วี ถือว่าออกแบบได้ดีทีเดียว ดูกว้างขวางแม้จะใช้โทนดำก็ตาม แผงคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยเส้นสายลายไม้และวัสดุสี Piano Black ดูหรูหราไม่เบา
เบาะหนังและมีปีกโอบกระชับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง
พวงมาลัยขนาดเหมาะมือพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และปุ่มควบคุมความเร็วที่ใช้งานได้ง่ายมาก มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ i-Dual Zone มีระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay
จุดที่แตกต่างจากรถรุ่นนี้คงอยู่ที่เกียร์ ซึ่งเป็นแบบปุ่มการ “เชนจ์” เพื่อลดความเร็วตอนเข้าโค้ง ช่วยเบรก หรือเพิ่มอัตราเร่ง มีแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่หลังพวงมาลัย (Paddle Shift) ให้กดเล่นด้วย
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ DOHC i-DTEC ขนาด 1,597 ซีซี กำลังสูงสุด 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเรียลไทม์ ทำงานได้ดี ในช่วงความเร็วกลางและปลาย ระดับ 140-150 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาค่อนข้างเร็ว
ส่วนความเร็วต้นต้องทำใจนิดหนึ่งเพราะไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด

บุคลิกของตีนต้นที่ไม่จี๊ดเท่าไหร่นี่เอง ทำให้การเร่งแซงในความเร็วต่ำต้องเผื่อระยะไว้นิดๆ โดยเฉพาะการขับบนถนน 2 เลนสวน แต่หากขับจนชินมือ การกะระยะคงไม่มีปัญหาอะไร
แม้ตัวรถจะสูงแต่ก็ไม่ได้มากเกินไป ทำให้การทรงตัวทำได้ดี ช่วงล่างเสถียรไม่กระเด้งกระดอน โดยด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังอิสระมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง
และด้วยความสูงของรถบวกกับกระจกหน้าบานใหญ่ ช่วยให้มองเห็นได้ทั้งกว้างทั้งไกล ประเมินสถานการณ์ข้างหน้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ เวลาเปิดไฟเลี้ยวซ้าย กล้องที่ติดไว้ใต้กระจกมองข้างซ้ายจะโชว์ภาพมาที่หน้าจอในรถ เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
ภาพดังกล่าวเราสามารถเรียกขึ้นมาดูได้เวลาจอดรถขนานขอบทางด้านซ้าย หรือเข้าไปในที่แคบๆ ด้วยการกดปุ่มที่ก้านไฟเลี้ยวด้านขวา
เวลานั่งในห้องโดยสาร เสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างเงียบ จนแทบไม่สัมผัสถึงความแตกต่างว่าเป็นเครื่องยนต์ดีเซล
ทริปนี้ได้แวะไปเยือนสนามช้างอารีน่า สนามเหย้าของทีมฟุตบอล “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีที่ว่างมากๆ ให้ลองระบบเบรกและขับแบบสลาลอม ส่ายไปมา ทุกอย่างผ่านหมด
ส่วนตอนกลางคืน ไฟหน้าส่องสว่างสะใจ เพิ่มความปลอดภัยแม้ขับบนเส้นที่ไม่มีไฟทางเลยก็ตาม
“ฮอนด้า ซีอาร์-วี” เครื่องยนต์ดีเซล ถือว่าเป็นรถเอสยูวีที่คล่องตัวทั้งในเมือง วิ่งต่างจังหวัดไกลๆ ก็มั่นใจสุดๆ
สนนราคาจัดไปที่ 1,699,000 บาท