กาละแมร์ พัชรศรี : ไปพุกามงดงามตระการตา

ไม่รู้มีใครชอบอย่างฉันบ้างหรือเปล่า…

ประเทศที่ชอบไปจริงๆ คือประเทศแถบเอเชีย และฉันก็พยายามหาคำตอบว่าทำไม

มาหาคำตอบได้คือ “พุทธศาสนา”

ฉันจึงชอบประเทศอินเดีย ภูฏาน ลาว ญี่ปุ่น และพม่า เป็นพิเศษ

ในบรรยากาศ วิถีชีวิต เห็นวัด ใส่บาตร บูชา กราบไหว้ ให้ทาน มันมีความคุ้นเคย หรือเมื่อเห็นแล้วมันสบายใจ และยิ่งได้เห็นวิถี วัฒนธรรมที่ต่างจากที่เราเคยเห็น เคยทำ ยิ่งทำให้ตื่นตาตื่นใจ

ล่าสุดฉันไปพม่าค่ะ

 

คราวนี้พุ่งไปที่เมืองพุกาม เมืองแห่งทะเลเจดีย์ อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง อยากไปเห็นความศรัทธาของชาวพม่าที่มีต่อพุทธศาสนาตั้งแต่สมัยอดีต

พม่านั้นฉันไปหลายครั้งแล้ว ชอบและประทับใจทุกครั้ง

และครั้งนี้ก็เช่นกัน…

การจะเข้าวัดที่พม่า เราต้องแต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ไม่ใส่กางเกง กระโปรงสั้น ไม่ใส่สายเดี่ยว และต้องถอดรองเท้า ถอดตั้งแต่จะเดินเข้าวัดเลยทีเดียว

ซึ่งนอกจากแสดงความเคารพแล้ว ยังทำให้เรามีสติทุกๆ ย่างก้าว เพราะถ้าไม่มีสติเวลาเดิน เราก็จะเหยียบอะไรเละเทะหรือบาดเจ็บได้ นี่เป็นกุศโลบายที่ดี

อย่างน้อยๆ ในเวลาเข้าวัดก็ทำให้เราได้ฝึกสติได้

 

การมาพุกาม เป้าหมายหลักคือขึ้นบอลลูนเพื่อชมเจดีย์สามพันกว่าองค์จากมุมสูงในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่

ราคาขึ้นต่อคนราคาใช้ได้อยู่ ตกคนละหมื่นกว่าบาท บริหารงานด้วยฝรั่งทั้งหมด การควบคุม กัปตันเป็นฝรั่ง มีทีมงานเป็นคนท้องถิ่น

ฉันมีประสบการณ์ขึ้นบอลลูนมาหลายต่อหลายครั้ง บอกเลยว่า ไม่เคยลงแบบปรกติ มันต้องมีความลำบากลำบน ลงขรุขระบ้าง บอลลูนตกไประหว่างหุบเขาบ้าง ชนต้นไม้ ลากไปกับคันนา ตะกร้าล้มคว่ำ คนนอนทับกัน

แต่ครั้งนี้ราบรื่นที่สุด…

ณ วินาทีที่บอลลูนลอยขึ้นบนฟ้า และเมื่อลอยเหนือเส้นขอบฟ้า ภาพที่ไม่เคยเห็นก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

เส้นขอบฟ้าที่มีพระอาทิตย์กำลังขึ้น หมอกบางๆ เคลียยอดต้นไม้ เจดีย์นับพันองค์ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า แสงอาทิตย์วาบเข้าตา

มันเป็นภาพที่ต้องร้องออกมา

“โอ้โห…สวยมากกกกกก”

แสงสีส้มทองสาดไปทั่ว บอลลูนค่อยๆ ลอยตัวสูงขึ้น ทำให้เรามองเห็นภาพกว้างขึ้น งดงามเกินจะบรรยาย เป็นการเริ่มต้นวันที่ประทับลงไปในใจตราบนานเท่านาน

เป็นเวลาชั่วโมงกว่าที่เราลอยอยู่บนท้องฟ้า น่าแปลกที่ฉันไม่มีความกลัวเลย ทั้งที่ปรกติเป็นคนกลัวความสูง แต่ถ้ามีพาหนะรองรับฉันจะไม่กลัว แต่ถ้าอยู่ที่สูงแล้วข้างๆ ไม่มีอะไร โหวงๆ ฉันจะกลัว แต่บอลลูนมีตะกร้า

งานนี้เราสบาย

 

ถึงเวลาลง เป็นเวลาที่ฉันลุ้น มีเฉียดๆ ยอดต้นตาลไปนิดหน่อย บอลลูนจอดบนพื้นที่การเกษตรที่ว่างอยู่ เด็กๆ แถวนั้นวิ่งมารับนับสิบๆ คน เด็กๆ ตื่นเต้นดีใจที่เห็นสิ่งแปลกใหม่ ฉันเลยมอบหมวกของบอลลูนให้เด็กๆ เป็นที่ระลึก ยิ้มแย้มก่อนแยกย้ายทั้งสองฝ่าย

เช้าอีกวัน เราได้ไปเดินตลาด เห็นพระและแม่ชีเดินรับบาตร เราเลยถามไกด์ว่าเราใส่บาตรบ้างได้ไหม ไกด์บอกว่า ถ้าใส่พระสงฆ์สามารถใส่อาหารสด ขนม ปัจจัยได้เลย สำหรับแม่ชีให้ใส่ข้าวสาร อาหารสด ผัก ผลไม้ได้ แม่ชีจะนำไปประกอบอาหารเอง

ในเย็นอีกวันเราได้มีโอกาสไปเจดีย์ Shwezigion ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่พุกาม เราได้เดินทักษิณาวัตร 3 รอบ และสวดคาถาชินบัญชรไปตลอด ด้วยจิตที่ตั้งมั่นในสมาธิ

เมื่อสวดจบและเดินครบ 3 รอบ เพื่อนทุกคนต่างบอกเหมือนกันว่า ดีจัง สงบ สบายใจ มันคือความปีติที่เกิดขึ้น

อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันชอบมากที่พม่าคือ “อาหาร” โดยเฉพาะยำขนมจีนที่หากินได้ตามตลาดยามเช้า และขนมจีนน้ำยาปลา ยำขนมจีนของแท้ต้องยำด้วยมือล้วนๆ กินได้กินดี กินได้ทุกวัน นอกนั้นยังมียำใบชา ยำใบบัวบก ยำมะละกอ อร่อยทุกยำ กินอร่อย ย่อยง่าย ถ่ายคล่อง นี่คือคติประจำใจในทริปนี้

จนกว่าเราจะได้เจอกันใหม่…