เครื่องเคียงข้างจอ/วัชระ แวววุฒินันท์/ขอพบในฝัน…รีสเตจ

วัชระ แวววุฒินันท์

เครื่องเคียงข้างจอ
วัชระ แวววุฒินันท์

ขอพบในฝัน…รีสเตจ

กลับมาอีกครั้งแล้วครับกับการแสดงละครเวทีรื่นอารมณ์ผสมวิญญาณรัก
ชื่อเรื่องว่า “ขอพบในฝัน สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล” ที่มีคำห้อยท้ายว่า “รีสเตจ”
ละครเวทีเรื่องนี้จัดโดย มูลนิธิสุนทราภรณ์ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และบริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ซึ่งได้เปิดการแสดงไปแล้วเมื่อกลางปี 2560 ที่ผ่านมา จำนวน 10 รอบ
การแสดงครั้งนั้นกระแสตอบรับดีมาก จนเกิดการเรียกร้องให้นำกลับมาแสดงอีก ทั้งจากผู้ที่ได้ชมแล้วและอยากชมอีก รวมทั้งผู้ที่พลาดชม
ขอเท้าความสักนิดว่า ละครในชุด “สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล” ได้จัดการแสดงมาแล้ว 6 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือ “กว่าจะรักกันได้” จัดการแสดงขึ้นในปี 2554 และเกิดปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นกับแฟนเพลงของสุนทราภรณ์ ที่ได้พบอีกมิติหนึ่งของการรับฟังและดื่มด่ำกับบทเพลงอันเป็นอมตะของวงดนตรีสุนทราภรณ์
สำหรับเรื่อง “ขอพบในฝัน สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล” เป็นเรื่องในลำดับที่ 6 เนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรักที่เกิดจากความพลัดพราก เพราะฝ่ายหนึ่งต้องจบชีวิตกะทันหันจากการถูกยิงในอุทยาน เอ้อ …ไม่ใช่เสือดำนะครับ เป็นคนครับคน… แต่วิญญาณยังติดพันอยู่กับคนที่รัก และย้อนกลับมาหาเพื่อทำภารกิจที่เคยสัญญาไว้ให้สมบูรณ์
และจากการพยายามทำภารกิจนี่เอง เลยไปวุ่นวายกับชีวิตคนหลายคน โดยเฉพาะเมื่อไปสิงในร่างของเศรษฐีหนุ่มที่มีความซับซ้อนระหว่างความรักและผลประโยชน์อยู่ ทั้งความโกลาหล ความสนุก ความเศร้า ผิดหวัง เสียใจ จึงเกิดขึ้น

ทั้งหมดนี้ถูกร้อยเรียงด้วยบทเพลงของสุนทราภรณ์ถึง 24 เพลง ที่โด่งดังและคุ้นหูแฟนๆ สักหน่อยก็จะมี “ขอพบในฝัน” “พรหมลิขิต” “หวงรัก” “รักเธอเสมอ” “รักเธอคนเดียว”
บทเพลงเหล่านี้ได้รับการนำเสนอด้วยนักแสดงนำรุ่นใหม่ๆ ทั้งนั้น ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้แฟนเพลงของสุนทราภรณ์ผิดหวังเลย เพราะแต่ละคนได้ถ่ายทอดทั้งทำนองและคำร้องที่มีความงดงามตามแบบฉบับสุนทราภรณ์ได้อย่างลงตัว โดยเรียบเรียงดนตรีขึ้นใหม่ให้ร่วมสมัย และกลมกลืนไปกับเนื้อเรื่อง
“บางเพลงเราเคยฟังไว้อย่างหนึ่ง แต่ในละครนำมาปรุงให้มีอีกรสชาตินึง ก็เพราะดี สนุกด้วย ดูไปหัวเราะไป”
ผู้ชมท่านหนึ่งพูดถึงบทเพลง “หวงรัก” ที่ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ขับร้องไว้ แต่ในละครเรื่องนี้มอบให้นักแสดงหญิง คือ “เนสท์ -นิศาชล สิ่วไธสง” เป็นผู้ถ่ายทอด ด้วยอารมณ์หึงหวงแฟนหนุ่มที่แสดงโดย “มาริว-ภัทรพงศ์” ร้องไป มีอารมณ์เพชรหึงรุนแรงไป จนเมื่อจบเพลงนี้ลงก็จะมีเสียงปรบมือดังรับทุกรอบ แสดงออกถึงความพอใจอย่างมากจากผู้ชม
นี่เป็นจุดเด่นของละครชุด “สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล” ในทุกเรื่องที่ผ่านมา คือ ความสนุกที่มาจากเนื้อเรื่อง และมาจากมุขตลกที่ทันสมัย โดยนำข่าวคราวของสังคมและบ้านเมืองมาเสียดสี ล้อเลียนแบบหยิกแกมหยอก

ในการรีสเตจครั้งนี้ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนมุขตลกและการแสดงใหม่ๆ เข้ามา เพื่อให้ผู้ที่ชมแล้วได้รับอรรถรสที่แตกต่างออกไป
นอกจากนักแสดงอย่าง “เนสท์” และ “มาริว” ที่กล่าวแล้ว ยังมีอีก 2 คู่ที่เป็นชนวนของเรื่องแสดงโดย นักแสดงนักร้องหนุ่ม “นัททิว- ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม” จับคู่กับนางเอกช่อง 7 สี “พิม-พิมประภาพร” และนักร้องจากเวที AF “เบนซ์-จิรโรจน์” รับบทแฟนหนุ่มที่ถูกยิงตายของ สาวมาดเท่ “เมทัล สุขขาว” แฟนสาวของโดม-ปกรณ์ ลัม ในชีวิตจริง
นัททิว นั้นได้ไปฝึกฝนทักษะจากค่ายเพลงที่เกาหลีมาแล้ว การกลับมาทำงานละครเวทีครั้งนี้เขาจึงทุ่มเทและไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาการแสดงเลย แม้ผู้กำกับฯ จะบอกว่าดีแล้ว แต่เขาก็ยังอยากให้มันดีขึ้นไปอีกทุกรอบๆ
เพลง “นางในฝัน” ที่นัททิวร้องในฉากสุดท้ายของเรื่อง สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างมาก เพราะทั้งน้ำเสียงและดวงตาที่แสดงออกมาถึงความรักอย่างยิ่งยวดต่อสาวคนรักนั้น นัททิวทำได้ดีจนผู้ชมสาวๆ หลายคนอยากเป็นนางเอกในฉากนี้
ไม่แต่เพลงรักโรแมนติกอย่าง “นางในฝัน” เท่านั้น แม้แต่เพลงเร็วอย่าง “ห่วงอาลัย” ที่นัททิวทั้งร้องและเต้นกับพิม ก็ทำได้อารมณ์แบบบรอดเวย์กันเลย ดูแล้วพลิ้วไหวสวยงามประมาณหนัง la la land นั่นเชียว
ส่วนพิม นำความสามารถในการเป็นนักแสดงทางช่อง 7 สีอยู่แล้ว มารับบท “เมย์” หญิงสาวที่ถูกกดดันจากพ่อและพี่ชาย ที่ใช้ตนเป็นเครื่องมือที่จะฮุบสมบัติของหนุ่มเศรษฐีที่นัททิวแสดง ได้อย่างน่าสนใจ เราจะเห็นถึงความเศร้า ผิดหวัง สับสน จากการแสดงของเธอได้อย่างดี
เมื่อพิมต้องรับผิดชอบเพลงดังอย่าง “เสียแรงรักใคร่” เธอก็แทบจะทำให้ผู้ชมร้องไห้ตาม
ส่วนเบนซ์และเมทัล ที่เป็นคู่ต้นเรื่องจนเกิดเป็นวิญญาณรักมาสร้างความโกลาหลที่ว่านั้นเป็นน้องใหม่ในการแสดงทั้งคู่ และเมื่อมาประเดิมความท้าทายอย่างละครเวทีด้วยกัน ก็สามารถสอบผ่านได้หลังจากการทำงานอย่างหนักหน่วง
เมื่อได้ย้อนกลับมาแสดงอีกในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าทั้งสองได้พัฒนาการร้องและการแสดงไปอีกระดับหนึ่ง เพลง “รักเธอเสมอ” ที่ทั้งสองร้องด้วยกันจึงมีทั้งความหวานในช่วงแรก และความเศร้าวังเวงในช่วงหลังจริงๆ

เมื่อผ่านการแสดงในครั้งที่แล้วไปแล้ว นักแสดงหลายคนก็ติดใจนำเอาบทเพลงที่ตนเองร้องในเรื่องไปขับร้องเวลาที่ได้ออกงานต่างๆ อย่างเช่น “มาริว” ที่นำเพลง “รักเพียงใจ” ไปร้องอยู่เสมอ ก็ได้รับเสียงชมเชยจากแฟนเพลงสูงวัยหน่อยว่า ทึ่งไม่เบาที่นักร้องรุ่นใหม่สามารถถ่ายทอดเพลงเก่าแบบนี้ได้อย่างไพเราะเพราะพริ้ง เป็นการขยายฐานแฟนๆ ไปในตัว
นอกจากนั้น ยังมีนักแสดงที่มาช่วยกันสร้างสีสันอีกด้วย เช่น ผัดไท-ดีใจ ดีดีดี ที่มารับบทแม่หมอแวนด้า ผู้สามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ ผู้ชมได้หัวเราะกับผัดไททุกฉากที่เธอออกมาแสดง อีกคนก็เป็น “ปิง ฟรุ๊ตตี้” มารับบททนายความประจำครอบครัวที่เจ้าเล่ห์ แบบว่าทั้งร้ายและน่าขบขันไปในตัว อยากให้มาชมลีลาเพลง “จริงหรือ” จากปิงจริงๆ เลย นอกจากนั้นก็มี “ปาล์ม-ธัญวิชญ์ เจนอักษร” “กิ๊บกิ้ว-สฤญญา เอี่ยมสะอาด” และอีกหลายๆ คน
“ขอพบในฝัน สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล” รีสเตจนี้ เปิดการแสดงที่โรงละครเอ็ม เธียเตอร์แค่ 6 รอบเท่านั้น เริ่มรอบแรก วันเสาร์ที่ 10 มีนาคมนี้ และไปแสดงอีก 5 รอบในวันที่ 17, 18, 24, 25 มีนาคม
และปิดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน แสดงเวลา 14.00 น.
อยากเชิญชวนให้มาชมกัน แล้วจะมีความสุขทั้งครอบครัว เพราะเป็นละครที่ดูได้ทุกวัย เราจึงได้เห็นคนมาเป็นครอบครัวในทุกรอบ และเป็นการดีที่ได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสกับบทเพลงอมตะที่กลายเป็นมรดกของแผ่นดินอย่างเพลงสุนทราภรณ์อีกด้วย
ซื้อบัตรได้ทางไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา แล้วมาให้กำลังใจกันนะครับกับละครเวทีรื่นอารมณ์ผสมวิญญาณรัก “ขอพบในฝัน สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล” รีสเตจ