ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 กุมภาพันธ์ 2561 |
---|---|
เผยแพร่ |
คอลัมน์ปรุงในครัวทัวร์นอกบ้าน
ย้อนมาถึงคนเดินถนนทั่วไปที่เป็นกลุ่มขนโคที่ไม่เคยฝึกฝนเรื่องจิตใจให้แข็งแกร่งมาก่อนนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะความเอร็ดอร่อยเรื่องการเกี้ยวพาราสี จนถึงเรื่องเพศ คือสาเหตุใหญ่ที่นำเอามนุษย์มาเป็นสินค้าให้บริการทางเพศ
โสเภณีจึงเป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดที่ไม่เคยหมดไปจากโลกใบนี้ และอุตสาหกรรมนี้ก็สร้างรายได้มากมายให้กับระบบเศรษฐกิจโลก
เอาละกลับมาในกรณีของคนคู่หนึ่งที่กำลังผิดศีลกันดีกว่า
ทั้งคู่อาจจะรู้ว่าผิดแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงขอเสพกามสุขไปก่อน
ถ้าพวกเขาอยู่ในกลุ่มขนโคที่ยังไร้เดียงสาต่อเรื่องธรรมละก็ไม่ได้ต่างจากคนทั่วไปที่ยึดติดรสชาติเอร็ดอร่อยของเรื่องเพศ
ถึงแม้จะเอาต้นงิ้วไปขู่ก็เอาไม่อยู่แล้ว เพราะเขามองไม่เห็นต้นงิ้ว เขาเห็นเขาสัมผัสแต่ความอร่อยของกามสุขเท่านั้น
อย่างนี้แล้วจะเอาข้อธรรมอะไรไปสอนได้
เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมีจิตสำนึกทางศีลธรรมหลงเหลืออยู่บ้างก็อาจจะช่วยเขาได้
เพราะจิตสำนึก (moral conscience) เป็นเรื่องที่ธรรมชาติให้มาเพื่อยับยั้งการทำชั่วของเราเอง บางคนมีมาก บางคนมีน้อย จะรู้เองโดยไม่ต้องสอน
แม้บุคคลนั้นจะไม่ได้สนใจใฝ่ธรรมะก็ตาม แต่จิตสำนึกจะคอยบอกว่า
ทำอย่างนี้ไม่ดีนะ
อย่าทำนะ
นี่คือจิตสำนึกทางศีลธรรมที่ธรรมชาติให้มาพร้อมกับสัญชาตญาณทางเพศ คนเราเมื่อทำอะไรลงไปแล้วไม่สบายใจหรือทำไปแล้วคนในครอบครัวผิดหวัง ทุกข์ตรม ตรงนั้นคือการผิดศีลของธรรมชาติ ด้วยจิตสำนึกที่ดีบุคคลนั้นย่อมที่จะหยุดกระทำโดยอัตโนมัติ
แต่ก็นั่นแหละจิตสำนึกทางศีลธรรมมักจะถูกรสชาติเอร็ดอร่อยทางเพศมากลบจนมิดเสมอ
โดยเฉพาะในยุคนี้ ศีลธรรมไม่มีเหลือแล้วจิตใจคนหยาบมากขึ้น
คำว่า “ชู้” จึงกลายมาเป็นคำว่า “กิ๊ก” ที่ให้ภาพพจน์ของความเท่ เก๋ เด่น ไม่ตกยุค
กลับกลายเป็นว่าค่านิยมของสังคมเปิดไฟเขียวให้กับการมีชู้ ไม่มีการลงโทษทางศีลธรรม ไม่ถูกตราหน้าแต่อย่างใด เพราะใครๆ ก็ทำกันจนเป็นเรื่องธรรมดา
จิตสำนึกทางศีลธรรมยิ่งถูกกลบลึกมากขึ้น จนเด็กๆ ยุคใหม่ไม่เข้าใจเรื่องศีลธรรมแล้วว่าจะต้องปฏิบัติไปทำไม
ปัญหาทั้งหมดนี้ ล้วนมีต้นตอมาจากเรื่องเดียวคืออุดมคติของการนิพพานที่หายไปจากสังคมโลก
เป้าหมายชีวิตแทนที่อยู่กับเรื่องการไปนิพพาน หรือการหายกลุ้มใจอย่างถาวร กลับกลายเป็นไปติดอยู่กับกามสุขซึ่งเป็นมิจฉาทิฏฐิ
เมื่อเป้าหมายในชีวิตคือกามสุขแล้วละก็ ต่างก็จะวิ่งวุ่นเพื่อให้ได้มาซึ่งกามสุขจึงทำให้ผิดเพี้ยนกันไปหมดตามยุคสมัย
เอาจริงๆ คือไม่มีทางแก้เลยค่ะ เว้นเสียแต่ว่าจะเอาเรื่องนิพพานมาเป็นเป้าหมายของชีวิตที่ชัดเจนกลับสู่สังคมโลกก่อน แล้วเราจะเข้าใจคำว่า “ศีล” ทั้งยังจะเข้าใจเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมเราต้องปฏิบัติ
ฉันกราบขอบพระคุณอาจารย์ศุภวรรณ กรีน ที่เมตตาอธิบายให้ฉันได้เข้าใจอย่างถ่องแท้และเข้าใจว่าการปฏิบัติของฉันนั้นไม่ได้ผิดเพี้ยนแต่อย่างใด
เห็นสมควรที่ฉันต้องรักษาภาวนาศีลต่อไปถึงแม้วันนี้ฉันจะสูญเสียทุกอย่าง
สูญเสียความรัก
สูญเสียคู่ชีวิต
สูญเสียครอบครัว
แต่สิ่งที่ฉันได้รับและยิ่งใหญ่ในช่วงชีวิตของฉันคือ ฉันได้ชีวิตใหม่