ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 กุมภาพันธ์ 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | โล่เงิน |
เผยแพร่ |
มิติใหม่ในรั้วสามพราน “โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (รร.นรต.)” ภายใต้การกำกับบัญชาของ “ครูใหญ่” พล.ต.ท.ดร.ปิยะ อุทาโย ที่กำลังปลุกปั้น ผลิตสีกากีโมเดลใหม่ รองรับยุคไทยแลนด์
นักเรียนนายร้อยตำรวจ ยุคนี้พกโทรศัพท์มือถือเข้าเรียน เพราะโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานยุคนี้สั่งงาน การบ้านผ่านแอพพลิเคชั่น
อีกส่วนหนึ่งคือ การเตรียมปรับหลักสูตรใหม่ จากเดิมที่ผู้จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้รับปริญญารัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต (สาขาวิชาการตำรวจ)
จะมีการปรับปรุงควบหลักสูตรเพิ่มปริญญานิติศาสตรบัณฑิตอีกปริญญาหนึ่งด้วย
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2018/02/21768356_1500344160045809_5469507689868420482_n.jpg)
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมห้วยจรเข้ อาคารกองบัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม พล.ต.ท.ดร.ปิยะ ผบช.รร.นรต. เป็นประธานโครงการสัมมนาพัฒนาหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการตำรวจ ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2556
โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานสัมผัสใกล้ชิดกับนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรที่จบการศึกษาจากโรงเรียนในร้อยตำรวจ อาทิ อัยการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ฝ่ายปกครอง ทหาร คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ หรือ กต.ตร. พ่อแม่สมมุติของนักเรียนนายร้อยตำรวจและสื่อมวลชน
ร่วมแสดงความคิดเห็น
การสัมมนาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจมีแผนจะปรับพัฒนาหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิตฯ โดยระดมความเห็นจากการจัดสัมมนามาแล้ว 2 ครั้ง
ครั้งแรก ผู้ร่วมสัมมนาเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจที่เพิ่งจบการศึกษา
ครั้งที่ 2 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจที่จบออกไปทำงาน จนมีตำแหน่งถึงระดับผู้กำกับการ
และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 โดยระดมความเห็นจากบุคคลภายนอกที่ทำงานเกี่ยวข้องกับตำรวจ
ในวงสัมมนามีการเสนอความคิดเห็นหลากหลายเกี่ยวกับการปรับเพิ่มวิชาต่างๆ สำหรับนักเรียนนายร้อยตำรวจเพื่อให้เป็นตำรวจยุคใหม่ที่สามารถทำงานตอบโจทย์ของสังคมได้
อาทิ อัยการเสนอความเห็นในทำนองปรับเพิ่มให้ตำรวจมีความรู้ด้านกฎหมายที่ทันสมัย มีทักษะในการสอบสวน ทำสำนวนอย่างถูกต้องเพื่อให้การทำงานในกระบวนการยุติธรรมสอดคล้องทันเวลาและมีคุณภาพ เพิ่มเติมความรู้ด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้ตำรวจมีความรู้เท่าทันเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและเท่าทันอาชญากรรมรูปแบบในปัจจุบันและในอนาคต
ขณะนี้โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อยู่ระหว่างการพัฒนา ปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาของนักเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นหลักสูตรปริญญาตรีควบหลักสูตรนิติศาสตร์ จากเดิมนักเรียนนายร้อยตำรวจจะได้รับปริญญารัฐประศาสนศาสตรบัณฑิตเท่านั้น
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2018/02/26196271_1601865523227005_8685366243739401724_n.jpg)
แต่หลักสูตรใหม่ที่จะนำเสนอต่อสภาการศึกษา โรงเรียนนายร้อยตำรวจจะเสนอให้เพิ่มเติมหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิตระหว่างการเรียน 4 ปี หรือเรียนวิชากฎหมายเพิ่มเติมระหว่างการฝึกอบรมวิชาชีพการสอบสวนขยายเวลาเรียนเป็น 5 ปี โดยจะนำเสนอต่อสภาการศึกษาในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ หากได้รับการอนุมัติจะใช้เป็นหลักสูตรสำหรับนักเรียนนายร้อยตำรวจที่จะเข้าศึกษาในปีการศึกษา 2561 นี้
หลักสูตรใหม่จะเพิ่มรายวิชาด้านกฎหมาย อาทิ กฎหมายแพ่งต่างๆ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน และประกันสังคม กฎหมายการค้าระหว่างประเทศ กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา เช่น อาวุธปืน ยาเสพติด จราจร ค้ามนุษย์ ก่อการร้าย ลิขสิทธิ์ไซเบอร์ไคร์ม คอมเมอร์เชียลไคร์ม กฎหมายปกครอง กฎหมาย ป.ป.ช. เป็นต้น
เพื่อให้นักเรียนนายร้อยตำรวจที่จบออกไปทำหน้าที่พนักงานสอบสวนมีความรู้ด้านนิติศาสตร์
แผนงานของโรงเรียนนายร้อยตำรวจจะปรับปรุงวิธีการสอนใช้โมดูล ซิเนริโอ เคสสตั๊ดดี้ สื่อดิจิตอล ผู้เรียนคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาเชื่อมโยงวิชาการกับการฝึกทางยุทธวิธีตำรวจและกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพิ่มการฝึกปฏิบัติในพื้นที่
โรงเรียนนายร้อยตำรวจนำเสนอผลสรุปการสัมมนาเพื่อพัฒนาหลักสูตร เป็นข้อมูลที่ได้จากการสัมมนาครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง สอบถามความคิดเห็นจากครูที่เพิ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนในร้อยตำรวจและนายตำรวจสัญญาบัตรที่ออกไปทำงานแล้วมากกว่า 10 ปี
พบว่าคุณลักษณะทั่วไปของนายตำรวจสัญญาบัตรที่สังคมต้องการและตำรวจต้องการ
คือ มีความเป็นผู้นำเห็นปัญหาผู้ใต้บังคับบัญชา
เป็นตัวอย่างถ่ายทอดความรู้ได้ มีจิตใจเอื้อเฟื้อช่วยเหลือยิ้มแย้มแจ่มใส ควบคุมอารมณ์ได้ บริหารจัดการความเครียดได้ สามารถนำความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติบังคับใช้กฎหมาย
มีทักษะในการแก้ปัญหาด้านการทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน
มีทักษะด้านการสื่อสารการพูดมนุษย์สัมพันธ์ให้คำปรึกษาประชาชนได้อธิบายกฎหมายให้ประชาชนได้
มีทักษะแยกแยะบุคคล อ่านคนได้ สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิตเรียนรู้ด้วยตนเองไปหาความรู้มีความคิดสร้างสรรค์
ซื่อสัตย์สุจริต เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน
ขณะที่ความคิดจากการสัมมนา เพื่อพัฒนาหลักสูตรเบ้าหลอมตำรวจไทย มีการเสนอว่าหลักสูตรการเรียนเป็นแบบเดียวกันหมด แต่นักเรียนนายร้อยตำรวจที่จบการศึกษาออกไปปฏิบัติหน้าที่แตกต่างกัน
อาจเพิ่มวิชาเลือกให้นักเรียนนายร้อยตำรวจเลือกเรียนได้ตามความถนัด
ควรสอนโดยการใช้กรณีศึกษาเปิดโอกาสให้นายตำรวจที่จบไปแล้วกลับมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้การเรียนภาษาต่างประเทศควรใช้เทคโนโลยีผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ การฝึกภาคสนามควรมีทางเลือกให้นักเรียนนายร้อยตำรวจได้เลือกตามความสนใจและความถนัดโดยจัดตามหน้างานของตำรวจ
เช่น หลักสูตรสืบสวนจราจร ด้านยาเสพติด กิจการพลเรือน ควรให้ฝึกการเขียนบันทึกจับกุม ให้ความรู้ด้านการปฏิบัติการข่าวสารปฏิบัติการสารสนเทศหรือไอโอและการประชาสัมพันธ์
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2018/02/26731577_1601865703226987_4939787818273697178_n.jpg)
อย่างไรก็ตาม เมื่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจกำลังเริ่มแนวคิดควบปริญญานิติศาสตรบัณฑิตกับรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต ก็มีเสียงท้วงติง ตั้งคำถามถึงหลักสูตรใหม่ วิชาการด้านกฎหมายที่เพิ่มเข้ามา เพียงพอต่อการมีศักดิ์และสิทธิ์ในปริญญานิติศาตร์หรือไม่
นี่คงเป็นคำถามที่ทีมงานร่างหลักสูตร สภาการศึกษาฯ ต้องตอบให้ชัดเจน ก่อนไฟเขียวกำหนดหลักสูตรขึ้นมา
ไม่ว่ายุคไหน สิ่งที่สังคมไทยตั้งความคาดหวังจากตำรวจไม่ใช่เพียงตำรวจเก่งเท่านั้น ตำรวจดี มีหัวใจรักประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่แท้จริงคือตำรวจที่ประชาชนคนไทยต้องการ!!