ฟ้า พูลวรลักษณ์ : หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (135) : คุณเหลือง ฉันแดง

ฟ้า พูลวรลักษณ์

คุณเป็นเหลือง

ฉันเป็นแดง

แต่เราก็ยังคบกันได้ เพราะเราเห็นว่าชีวิตสำคัญกว่า

ฉันมีเพื่อนหลายคนที่เป็นเหลือง เราก็คบกันได้ด้วยดี แต่มีบางครั้งที่เราคุยกันเรื่องการเมือง และฉันยอมรับว่า มีบางครั้งฉันอยากเข้าไปชกหน้าพวกเขา ที่อยากชก เพราะทนสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง สีหน้าว่าตัวเองถูกต้องเสียเต็มประดา สีหน้าว่าตัวเองฉลาด อาการยกตนแบบนี้เอง ที่ฉันทนไม่ได้

แต่หากชกหน้ากันได้ การฆ่ากันก็ทำได้ เพราะมันเพียงแต่รุนแรงขึ้น แต่เป็นสิ่งเดียวกัน คือการลืมความเป็นชีวิตของเราไป ลืมความเป็นเพื่อน

มันเกิดขึ้น เพราะ idea แม้จะไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่มันมีพลังยิ่งใหญ่ และยิ่งใหญ่เกินกว่าตัวชีวิตเสียอีก เรียกได้ว่า ชีวิตเป็นเพียงทางผ่านของ idea

มันเอามนุษย์เป็นเพียงทางผ่าน

มันครอบงำเราได้ มันบังคับเรา มันบงการเรา

คิดแล้ว ฉันทึ่งในความยิ่งใหญ่ของมัน แต่ก็หวาดกลัวมันด้วย มันทำให้เราลืมสิ่งพื้นฐานที่สุดไปได้ ลืมตัว ลืมว่าตัวเองเป็นใคร

ชีวิตเกิดมาจากไหน และชีวิตเกิดมาทำไม ชีวิตกำลังดำเนินไปไหน

มันเป็นคำถามทางปรัชญา ที่มีมาช้านาน

หนึ่งคำตอบที่เรียบง่ายคือ เราเป็นทางผ่านของ idea ก็เท่านั้นเอง เราเกิดมาเพื่อรับใช้มัน

วิธีคิดง่ายๆ คือ เหลืองทุกเหลืองมี idea แดงทุกแดงมี idea และมันแตกต่างกัน

แม้แต่เผด็จการ ก็มี idea ไม่ว่าเผด็จการหน้าไหน ทหารทุกคนก็มี

มีแน่นอน มีมากมาย มีท่วมท้น

Idea ท่วมโลก เท่าไวรัส

ฉันเป็นคนไม่ชอบดูหนังสยองขวัญ แต่มียกเว้น คือหนังซอมบี้ นานมาแล้ว ฉันก็ดูได้ และรู้สึกแปลกใจ ทำไมหนังน่ากลัวแบบนี้ ฉันดูได้ เป็นเวลานาน กว่าฉันจะเข้าใจว่าซอมบี้เป็นนามธรรมปรากฏรูปของบางสิ่งบางอย่างที่เป็นสมัยใหม่ และยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ภาพซอมบี้นี้ชัดขึ้นๆ ทุกวัน มันจริงขึ้นทุกวัน ทั้งที่มันเป็นไปไม่ได้ นี้เป็นแฟนตาซี อะไรจะเหลวไหล บ้าคลั่งปานนั้น

แต่มันจริง ในขณะที่หนังสยองขวัญ อย่างบ้านผีสิง อันนั้นเชยเหลือเกิน ดูแล้วเสียเวลา

ฉันรู้สึกคนในบ้านของฉันกำลังจะเป็นซอมบี้

และมีบางคนเป็นแล้ว กำลังเดินหาเหยื่อ กำลังไล่กัดคนอื่น เพื่อเผยแพร่เชื้อ

เดินไปตามถนนหนทาง เห็นคนที่ฉันเคยรู้จัก วันนี้กำลังเริ่มอาการซอมบี้

มันจริงตามถนน ตรอกซอย

คนซีเรียสคือคนที่

๑ เคารพอดีต

๒ กังวลใจเกี่ยวกับอนาคต

๓ ตกตะลึง ที่พบว่า ไม่รู้ว่าปัจจุบันคืออะไร

มันลี้ลับเพราะข้อสามนี่เอง

มองจริงๆ เราจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เรากำลังเดินหน้าหรือถอยหลัง

ขนาดทิศยังไม่รู้เลย เราจะเชื่อใจอะไรได้ไหม

เช่น คนรุ่นใหม่ พวกเขาฉลาดขึ้นจริงหรือ มีความรู้เพิ่มขึ้นจริงหรือ

เริ่มจากอักษรศาสตร์ คนสมัยก่อน จบปอสี่ บางคนมีความรู้ทางอักษรศาสตร์สูงเท่าคนจบปริญญาเอกวันนี้ หรือเหนือกว่า ทั้งลายมือ ทั้งไวยากรณ์ ทั้งความลึกของถ้อยคำ

หรือในทางกลับกัน คนจบปริญญาตรีวันนี้ แย่กว่าคนจบอนุบาลของสมัยก่อน

เป็นคนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้

ไม่รู้จริงๆ ว่าเรากำลังเดินหน้าหรือถอยหลัง

ฉันจำได้ คุณธีรยุทธ บุญมี เป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตย ในสมัย ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็มีทฤษฎีส้มหล่น มันคือส้มหล่นจริงๆ แต่หล่นลงไปบนตักของทหาร มันย้อนกลับ

เขากำลังเดินหน้าหรือถอยหลังกันแน่

มีด้วยหรือ สู้จะเป็นจะตาย เพื่อช่วงชิงประชาธิปไตยจากทหาร แล้วค่อยๆ ดิ้นรน เพื่อนำกลับไปคืนให้เขา

กาลเวลาเดินเป็นเส้นตรง นาฬิกาเดินเป็นเส้นตรง

แต่มนุษย์ไม่ได้เดินเป็นเส้นตรง เพราะเรามี idea มันบิดผันเราได้

แต่ที่น่ากลัวคือ idea เหล่านี้ มันกลายพันธุ์ได้ มันคือไวรัสชนิดหนึ่ง และผู้คนมากต่อมากก็เปลี่ยนไป

นี้ไม่ใช่เรื่องตลก ซอมบี้ท่วมโลก

มันเริ่มปรากฏให้เห็นในหนังเมื่อปี 1978 หากฉันจำไม่ผิด คือหนังเรื่องแรกที่ซอมบี้ปรากฏตัวอย่างเข้มแข็ง และจากนั้น มันก็ไม่ได้อ่อนแรงลงเลย มีแต่แข็งแรงขึ้น ว่องไวขึ้น สมจริงขึ้น

๑๐

โลกรอบตัวของฉัน ยกตัวอย่างง่ายๆ

๑ ความปั่นป่วนในยุโรป เพราะ Brexit

๒ ความปั่นป่วนในทะเลจีนใต้ เพราะความยโสของจีน

๓ ความคลุ้มคลั่งของเกาหลีเหนือ

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องตลก มันพร้อมจะกลายเป็นสงคราม เป็นภัยพิบัติยิ่งใหญ่ มองเห็นแต่ไกล แต่ยากจะป้องกันหรือแก้ไขได้

ผู้คนนับล้านจะคลุ้มคลั่ง

๑๑

ประเด็นคือ คนเรามองข้ามสิ่งพื้นฐาน ซึ่งฉันจะเรียกว่า first principle

ยกตัวอย่างเช่น ในอังกฤษ เมื่อลงประชามติ มีคนต่างชาติมากมายที่อาศัยอยู่ในอังกฤษมานานหลายสิบปี จนเกิดความยโส คิดว่าตัวเองเป็นคนอังกฤษ ทั้งที่จริงเป็นคนแอฟริกา หรือคนเอเชีย หรือคนตะวันออกกลาง หน้าตาต่าง ผิวสีต่าง แต่การได้สัญชาติอังกฤษมา ได้พาสปอร์ตมา หรือบางคนเกิดในอังกฤษด้วยซ้ำ มีใบเกิด แต่คุณลืมไปว่า คุณยังไม่ใช่คนอังกฤษในความหมายของพวกขวาจัด เวลาไปลงประชามติ บางคนอาจมีเหตุผลที่ดี ที่จะรับ Brexit แต่พวกเขาลืมไปว่าตัวเองเป็นใคร

การลืมว่าตัวเองเป็นใคร คือการลืม first principle

ดังนั้น ไม่ว่า second principle จะดีแค่ไหน สมเหตุสมผลเพียงไร ก็คือความโง่เขลา

คนต่างชาติเหล่านี้ เท่ากับโหวตให้ตัวเองถูกขับไล่ออกจากประเทศอังกฤษ ใบเกิดหรือประกาศนียบัตรใด หรือสำเนียงที่ส่อว่าคุณอยู่อังกฤษมานานหลายสิบปี หรือตั้งแต่เกิด ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะยีนของคุณ ผิวสีของคุณ ไม่ใช่

คุณลืมไปว่า Brexit คือใบอนุญาตให้พวกขวาจัดได้ความชอบธรรม และเมื่อได้แล้ว ยากจะคืนกลับ

ถามพวกขวาจัดหรือยัง ว่าพวกเขามองคุณยังไง

๑๒

ทุกวันนี้ฉันมองเห็นผู้คนรอบกาย ลืมตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร และหลงไปในความคิด เรากำลังมองข้ามความเป็นชีวิต ความเป็นคน แทบจะสนิท สนิทวันใด ซอมบี้ก็เกิด

๑๓

เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น เตือนเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง