จอร์จ เวอาห์ โผล่ออกมาจากสลัมในไลบีเรียก้าวมาเป็นนักฟุตบอลซูเปอร์สตาร์ในยุคทศวรรษ 1990 และใช้เวลา 13 ปีหลังในการสร้างความน่าเชื่อถือทางการเมืองเพื่อให้เทียบเท่ากับสถานะของตนเองในฐานะไอคอนทางด้านกีฬา

เวอาห์ วัย 51 ปี ยกประเด็นการศึกษา การสร้างงาน และสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐานเป็นแกนกลางสำคัญในนโยบายของเขาจนสามารถเอาชนะรองประธานาธิบดี โจเซฟ โบอาไค ที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้สำเร็จ

และมีความคาดหวังสูงลิบลิ่วว่าเขาจะทำในสิ่งที่ให้สัญญาไว้เพื่อพลเมืองอายุน้อยของประเทศ

“ผมเป็นมนุษย์ ผมพยายามเพื่อความเป็นเลิศ และผมสามารถประสบความสำเร็จได้” เวอาห์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้าการสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง เป็นการตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เขายังไม่พร้อมสำหรับการเป็นประธานาธิบดีหลังจากดำรงตำแหน่งในวุฒิสภามาแค่ 3 ปีกว่าๆ

 

ในฐานะที่เป็นผู้เล่นชาวแอฟริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมโลกของสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) และบัลลงดอร์ หรือนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของทวีปยุโรป จากการเล่นฟุตบอลอยู่กับสโมสรชั้นนำในยุโรปทั้งปารีสแซงแชร์กแมง (เปแอสเช) เอซี มิลาน และเชลซี ทำให้เวอาห์ไม่ได้เผชิญกับสถานการณ์สงครามกลางเมืองไลบีเรียในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1989-2003

เวอาห์กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 25 ของชาติทางตะวันตกของทวีปแอฟริกาแห่งนี้โดยรับช่วงต่อจากประธานาธิบดี เอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟ ที่ดำรงตำแหน่งมา 12 ปี และถือเป็นการถ่ายโอนอำนาจตามระบอบประชาธิปไตยครั้งแรกของประเทศนับตั้งแต่ปี 1944 เป็นต้นมา

เวอาห์ต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่องการส่งออกที่ลดลง โดยเศรษฐกิจไลบีเรียต้องพึ่งพาการส่งออกยางและแร่เหล็กเป็นอย่างสูง ซึ่งเขาได้ให้สัญญาว่าจะทำให้ประเทศพึ่งพาตนเองมากยิ่งขึ้นด้วยการเปลี่ยนแปลงภาคเกษตรกรรมและจัดให้มีการฝึกฝนอาชีพ

เซอร์ลีฟสามารถรักษาสันติภาพที่เป็นเรื่องจำเป็นในภาวะหลังสงครามที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 2.5 แสนคน แต่ชาวไลบีเรียส่วนใหญ่ยังคงต้องตกอยู่ในภาวะยากจนสุดขีด

 

เวอาห์ที่เป็นสมาชิกเผ่าครูได้รับการเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาโดยย่าของเขาในพื้นที่สลัมที่เลวร้ายที่สุดในกรุงมันโรเวีย เมืองหลวงของประเทศ

อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซนอลได้เปรียบเทียบชีวิตของเวอาห์ว่าเหมือนบทหนัง ขณะที่เวอาห์ยกย่องเวนเกอร์ว่าเป็นเหมือน “พ่อ” ที่ยืนเคียงข้างให้การสนับสนุนในขณะที่เขาต้องเผชิญกับการเหยียดผิวในยุโรป

เวนเกอร์เซ็นสัญญาคว้าตัวเวอาห์เมื่อปี 1988 ขณะเป็นผู้จัดการทีมโมนาโก และช่วยปูทางอาชีพของเวอาห์ในช่วง 4 ปีถัดมา และยกย่องนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่าปี 1995 ผู้นี้ว่าเป็นแบบอย่างของวงการฟุตบอล

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อายุน้อยลงคะแนนเสียงให้เวอาห์อย่างล้นหลาม แต่พวกเขาคาดหวังผลลัพธ์ที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์ระบุว่า แนวร่วมเพื่อการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตย (ซีดีซี) ของเขา มีรูปแบบทางการเมืองที่คลุมเครือ

เวอาห์แต่งงานกับแคลร์ และมีลูกชาย 1 คน คือทิโมธี ที่เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรเปแอสเชในเดือนกรกฎาคม 2017