ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 29 มีนาคม - 4 เมษายน 2567 |
---|---|
เผยแพร่ |
บทความพิเศษ
อำลา นิวยอร์ก
สุจิตต์ วงษ์เทศ หวนคืน
อ้อมอก บัวบาน
แล้ว “โง่ เง่า เต่า ตุ่น” ก็มาถึงที่สุด ปรากฏผ่าน “คำให้การของผู้เขียน” ณ วันที่ 3 เมษายน 2515 ณ นิวยอร์ก-อเมริกา
ยืนยัน “ผมไปอเมริกาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2514”
เท่ากับเมื่อถึงปลายเดือนเมษายน 2515 สุจิตต์ วงษ์เทศ ก็อยู่อเมริกาครบ 1 ปีโดยสมบูรณ์
ระยะเวลาเกือบปีเป็นระยะเวลาของการเดินทางและครุ่นคิด
“เนื้อถ้อยกระทงความในหนังสือเล่มนี้เอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ เป็นการเขียนเรื่องอ่านเล่น ข้อมูลต่างๆ จึงออกมาในรูปของความคิดที่คิดไปเรื่อยๆ ความรู้ที่รู้ไปเรื่อยๆ
ลึกบ้าง ตื้นบ้างตามแต่มนุษย์จะพึงคิดพึงพูดกันได้
ชื่อเสียงเรียงนามของตัวละครผมสมมติขึ้นมาเองทั้งสิ้น ทำแผลงและทำเพี้ยนจากชื่อและนามสกุลจริงของพรรคพวกเพื่อนฝูง แต่ใครอย่าอุตริเดาเลยว่าคนนั้นคือใคร”
ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนที่เป็นหัวเรื่องก่อนหน้านี้คือเริ่มจาก เดอะ แฮร์ แล้วลงลึกไปในกระบวนการต่อต้านสงคราม เน้นสงครามเวียดนาม สงครามอินโดจีน แล้วก็หยุดลงเมื่อริชาร์ด เอ็ม.นิกสัน เดินทางไปจับมือกับเมาเซตุง
เรื่องนี้ช็อกโลกและกระทบต่อความคิด ความเชื่อเดิมทางการเมืองของ สุจิตต์ วงษ์เทศ อย่างลึกซึ้ง กลายเป็น “เส้นแบ่ง” อย่างมีนัยสำคัญก่อให้เกิดคำถามและพยายามแสวงหาคำตอบ
รู้สึกแปลกหรือไม่ที่คำตอบหนึ่งเป็นการเอ่ยอ้างถึง “สิทธารถะ” ของ เฮอร์มานน์ เฮสเส และคำตอบหนึ่งเป็นการเอ่ยอ้างถึงพระรูปหนึ่งซึ่งพบเห็นในถ้ำลึกทางภาคเหนือของประเทศ
แล้วบทจบของหนังสือก็อยู่ที่ดอกบัวบานในตระพังน้ำของพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย
ต่อต้าน สงคราม
ต่อต้าน ความรุนแรง
มนุษย์ในโลกนี้ไม่มีใครที่จะดีที่สุด และไม่มีใครจะเลวที่สุด ทุกคนมีความดีและความเลวประสมประสานกันอยู่ในตัวเองทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ในขณะที่เรารักษาประโยชน์ของเรา เขาก็ย่อมรักษาประโยชน์ของเขาได้บ้าง
ไม่มีอะไรดีไปกว่ามีความตั้งใจที่จะรักษาคุณธรรมและสร้างบารมีด้วยการแผ่เมตตาเอาไว้
แม้ว่าจะยังไม่เคยพยายามที่จะรักษาคุณธรรมและแผ่เมตตา แต่ถ้าหากมีความตั้งใจที่จะกระทำในสองสิ่งนี้ผมก็คิดว่าเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญอยู่เหมือนกัน และก็จงอย่าพยายามผัดวันประกันพรุ่งอีกเลย
หนทางที่จะขจัดปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ของมนุษย์นั้นไม่สมควรไปลงอยู่ที่การทำสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามนอกแบบ สงครามในแบบ หรือสงครามกองโจรใดๆ ทั้งสิ้น
ถ้าหากมนุษย์เชื่อว่าตนเองเป็นสัตว์ประเสริฐ มนุษย์ก็ควรแก้ปัญหาความขัดแย้งเหล่านั้นอย่างประเสริฐ ไม่ควรแก้ปัญหาอย่างสัตว์เดียรัจฉาน
เพรียกหา ความรัก
เพรียกหา ความเข้าใจ
ชั่ววินาทีใดที่เราคิดเวทนาเพื่อนมนุษย์ซึ่งอยู่ในเวียดนามได้เพราะต้องตกระกำลำบาก พลัดที่นาคาที่อยู่ และตกตายในหลุมระเบิดโดยไม่รู้เหนือไม่รู้ใต้ ชั่ววินาทีนั้นเราควรที่จะให้ความเวทนาและสวดมนต์ภาวนาให้มนุษย์ที่อยู่ในเวียดนามเหนือด้วย
เพราะเขาเดือดร้อนเลือดตากระเด็นไม่แพ้กัน
ในทัศนะของผมแล้วไม่ควรจะแบ่งเขตแบ่งแขวงให้เขาเสียด้วยซ้ำไป เขาเป็น เพื่อนมนุษย์ของเราที่ควรจะได้ความรักเท่าๆ กับที่เราให้แก่คนอื่น
การเรียกร้องขอความรักให้แก่เพื่อนมนุษย์มิได้เป็นสิ่งที่น่าอับอาย มิได้เป็นสิ่งที่ควรจะปกปิด ไม่ควรจะซ่อนเร้นแต่อย่างใด มนุษย์ทุกคนต้องการความรัก ต้องการความเห็นใจทั้งสิ้น
แม้ตัวเราเองก็ตามเถิด สักวันหนึ่งในอนาคตก็จะถึงกาลค้นหาสิ่งนี้
และผมยังเชื่อในคติโบราณอย่างแน่นแฟ้นว่า-ให้ท่านท่านจักให้ตอบสนอง / นบท่านท่านจักปองนอบไหว้
ในทางกลับกันเล่า เราจะได้อะไรจากสิ่งที่เราให้แก่เขา
บทสรุป สงคราม
ความวิบัติ ฉิบหาย
สงครามไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นนอกจากมนุษย์จะตายมากขึ้น และถ้าหากมนุษย์ที่ตายนั้นเป็นญาติพี่น้องหรือตัวเราเองขึ้นมาเมื่อไรเราจะรู้สึกขึ้นว่ามันเดือดร้อนมากมายขึ้นมาทันที
แต่ในขณะที่สงครามยังไม่มาถึงตัวเราเราจะแสวงหามันอยู่ทำไม เราจะซ้ำเติมคนที่ต้องรับสงครามอยู่ทำไม
สงครามไม่ได้สร้างอำนาจให้ใครดีเด่นขึ้นมานอกจากความวิบัติฉิบหาย
ประเทศเวียดนามระส่ำระสายเพราะต้องรับสงครามที่ตนเองมิได้ก่อ ในขณะเดียวกันมหาอำนาจอย่างจักรวรรดิอเมริกาก็มิได้ต้องการกระทบกระเทือนเพราะไปก่อสงคราม
ใครจะคิดบ้างว่าสหรัฐอเมริกาจะกระทบกระเทือนกับการทำสงครามกับประเทศเล็กๆ อย่างนั้น แม้ตัวคนอเมริกันเองก็คงไม่คิดเมื่อตอนแรก
ผลที่สุด สงครามก็สอนให้มนุษย์รู้ขึ้นมาได้ว่าไม่มีฝ่ายใดที่จะได้รับผลกำไรจากการทำสงคราม แม้สหรัฐอเมริกาจะกำไรจากการขายอาวุธในการทำสงคราม แต่สหรัฐอเมริกาก็ย่อยยับในด้านอื่นๆ ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่
ผมคิดว่ามนุษย์ควรจะพร้อมใจประณามคนที่ก่อสงครามให้จงหนัก
หวนกลับ สู่สุโขทัย
บัวบาน ณ ตระพัง
ยอมรับละว่าโง่เง่า ไม่มีวันที่จะติดตามชั้นเชิงการเมืองของใครในโลกนี้ทัน และไม่คิดจะติดตามด้วย เพราะสัจธรรมย่อมมีคุณวิเศษมากกว่าจะไปแสวงหาของโสโครกอย่างนั้น
ผมมีชีวิตอยู่บนโลกนี้มาเพียง 27 ปีเท่านั้น และพอจะรู้จักความเป็นมนุษย์บ้าง
แต่ตอบปัญหาไม่ได้ว่าทำไมมนุษย์จะต้องแสวงหาคุณสมบัติตอแหลมาใส่ตัว แล้วทำไมมนุษย์คนอื่นๆ จะต้องติดตามความตอแหลของมนุษย์ด้วยกันต่อไป
ผมมีภาระมากเพราะต้องประคับประคองความมีชีวิตให้อยู่ในโลกนี้ได้ตลอดไป
การเกิดมามีชีวิตนั้นง่ายดาย ผสมพันธุ์กันไม่นานก็ได้แต่การประคับประคองชีวิตให้อยู่ต่อไปจนกว่าจะตายนี้ยากนัก ภาระอันหนักหน่วงของผมมีอยู่ตรงนี้ เพราะฉะนั้น จึงไม่มีเวลาที่จะใช้ไปในการติดตามความตอแหลของมนุษย์อื่นๆ ได้
บางครั้งผมคิดว่ามนุษย์คนอื่นๆ ก็คงมีภาระอย่างผมเหมือนกัน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเอาเวลาที่มีคุณค่านี้ไปทำความตอแหล
และไปติดตามความตอแหลของคนอื่นเสียหนอ
ดอกบัวบานอยู่ในตระพังน้ำของพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัยนานแล้วเราจะรีรออยู่ทำไมให้เสียเวลา
รีบไปเด็ดมาบูชาพระอัฎฐารสกลางใจเมืองกันเถิด
แม้ดอกบัวจะไม่มี และแม้ว่าพระอัฎฐารสจะภินทนาการไปสิ้น ก็หาได้เป็นอุปสรรคไม่ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระฉิมโอวาทว่า การปฏิบัติบูชาย่อมบรรลุปรารถนาสูงสุดต่างหาก
ทั้งปรารถนาของผู้บูชาคือ เรา และทั้งปรารถนาของผู้ที่ถูกบูชาคือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022