บัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายทหารชั้นนายพล เข้าขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว หลังมีการประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม หรือบอร์ด 6 เสือกลาโหม ไปแล้วเมื่อ 4 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา

ถือว่าเป็นการนั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ด 6 เสือกลาโหมครั้งแรก ของนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมพลเรือนคนแรกที่ไม่ได้เป็นนายกฯ ที่ทำให้ดูเป็น “บิ๊กทิน”

แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ถูกมองทำหน้าที่เพียงเป็น “ตรายาง” ประทับตรา ให้โผโยกย้ายที่ ผบ.เหล่าทัพจัดมาให้เท่านั้นหรือไม่

ตาม พ.ร.บ.กลาโหม ปี 2551 ที่ออกมาในยุครัฐบาลบิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นนายกฯ ในรัฐบาลหลังรัฐประหารของ คมช. 19 กันยายน 2549 กำหนดให้มีบอร์ด 7 เสือกลาโหม ในการแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพล ที่เป็นกลไกสำคัญ ที่ป้องกันฝ่ายการเมืองแทรกแซงกองทัพ ล้วงลูกโผทหาร

เพราะใน 7 เสือ ที่มี รมว.กลาโหม รมช.กลาโหม ปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทบ. ผบ.ทร. และ ผบ.ทอ. นั้น เป็นเสียง ผบ.เหล่าทัพถึง 5 ใน 7 เสียง หากต้องโหวต ฝ่าย ผบ.เหล่าทัพก็จะชนะ

ยิ่งในยุคบิ๊กทินนี้ ไม่มี รมช.กลาโหม ฝ่ายการเมืองจึงมีแค่ รมว.กลาโหม เสียงเดียว จึงเป็นเสมือนตรายางเช่นที่ว่า

 

การพิจารณาโยกย้าย ถือเป็นการประชุมแบบตัวต่อตัวล้วนๆ ของนายสุทิน กับ 5 ผบ.เหล่าทัพ โดยไม่มีบิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการ รมว.กลาโหม ที่เปรียบเสมือน รมช.กลาโหม ร่วมวงด้วย เพราะตาม กม. ไม่ใช่ รมช.กลาโหม แม้จะทำหน้าที่ยิ่งกว่า รมช.กลาโหมก็ตาม

อีกทั้งโยกย้ายกลางปีนี้ เป็นโผเล็ก รองรับนายทหารที่จะเกษียณ และมีการขยับทดแทนเท่านั้น

โผนี้ บิ๊กทินจึงแค่จัดสรรตำแหน่งหน้าห้องสำนัก รมว.กลาโหม และอนุมัติอัตราเฉพาะตัวให้แต่ละเหล่าทัพ รองรับนายพลเลื่อนยศก่อนเกษียณ เหล่าทัพละ 3-4 คน ที่ถือเป็นสัญลักษณ์มิตรภาพ ความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กับ ผบ.เหล่าทัพ

แต่ข่าวสะพัดกลาโหมว่า นายสุทินเดินออกจากห้องประชุม 6 เสือ กห. ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เพราะโผโยกย้ายแต่ละเหล่าทัพ ซึ่งนายสุทินไม่ได้แตะต้องอยู่แล้ว แต่กลับมีปัญหาในส่วนของสำนักงานรัฐมนตรี ที่เป็นอำนาจของ รมว.กลาโหมเต็มๆ แต่กลับไม่สามารถจัดวางนายทหารที่ไว้วางใจ หรือใช้งานได้เลย

ตามหลักการ ในทุก 6 เดือน จะมีการหมุนเวียนทีมงานฝ่าย เสธ.ประจำ รมว.กลาโหมมาตลอด เพราะตลอด 5 ปีของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในรัฐบาล คสช. และอีก 4 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ควบ รมว.กลาโหม ก็หมุนเวียนลูกน้อง มาเป็นพลตรี จนขึ้นพลโท และพลเอก มาทุก 6 เดือน

เมื่อนายสุทินมาเป็น รมว.กลาโหม ก็ต้องการดันนายทหารทีมงาน รมต. และที่ใช้งานอยู่ ให้ได้ขยับ ทั้งเป็นพลตรี และขึ้นพลโท พลเอก เพราะทั้งอาวุโส ครองยศ และรุ่น เพราะทีมงาน รมว.กลาโหม ที่เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ก็ล้วนแต่ต้องมีลูกน้องและทีมงานที่ต้องดูแลด้วยเช่นกัน จึงอยู่ในโควต้าของนายสุทินในฐานะ รมว.กลาโหม

แต่กลับแต่งตั้งไม่ได้ เพราะ ยังมีนายทหาร ทั้งพลตรี พลโท ที่ได้ชื่อว่าเป็นสายตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร นั่งครองอยู่หลายคน ยังไม่มีตำแหน่งหลักให้ลง

ส่งผลให้บิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกลาโหม ขอให้นายสุทินชะลอการเปลี่ยนทีมหน้าห้องในยุคบิ๊กตู่ออกไปเป็นโยกย้ายตุลาคมนี้แทน เพราะเป็นโยกย้ายใหญ่ จะมีตำแหน่งรองรับ อีกทั้งมีการตั้งนายพลได้ในจำนวนจำกัด

นายสุทินจึงต้องยอม

ด้วยความเป็นพลเรือน ทำให้นายสุทินไม่อาจโต้แย้งในเรื่องรุ่น หรืออาวุโส เพราะไม่รู้ว่า ทีมหน้าห้อง รมว.กลาโหม ที่ตั้งในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นใคร รุ่นไหนบ้าง เพราะเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยน รมว.กลาโหม ก็ไม่ได้ถูกเรียกมาทำหน้าที่ เพราะเป็นเด็กบิ๊กตู่ บิ๊กป้อม ส่งผลให้ พล.อ.สนิธชนก ซึ่งเป็นลูกรักบิ๊กป้อม บิ๊กตู่ และเป็นสายตรงบ้านป่ารอยต่อฯ ดึงมาช่วยงานแทน

ก่อนหน้านี้ เพิ่งมีบางสื่อออกข่าวว่า ปลัดกลาโหมไม่แฮปปี้กับนายทหารฝ่าย เสธ. ทีมงานนายสุทิน 3-4 คน แต่ พล.อ.สนิธชนกไม่สนใจ เพราะตนเองไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือเป็นเช่นที่สื่อเสนอข่าว

ทว่า ก็เป็นการสะท้อนว่า มีรอยปริระหว่างปลัดกลาโหม กับทีมงานนายสุทิน หรือไม่

ท่ามกลางเสียงเมาธ์ในกลาโหมว่า นายสุทินจะได้เป็น รมว.กลาโหมถึงปลายปีนี้หรือไม่ เพราะอาจจะถูกปรับ ครม.ไปก่อนที่จะได้จัดโผทหารใหญ่ เพราะโผตุลาคมที่จะเริ่มทำกัน กรกฎาคม-สิงหาคม จบในกันยายน 2567 นี้ จะต้องตั้ง ผบ.ทบ. และ ผบ.ทร.คนใหม่

หากนายสุทินยอมตาม ผบ.เหล่าทัพทั้งหมด อาจไม่เป็นผลดีต่อการทำคะแนน ในฐานะ รมว.กลาโหม ที่ยอมฝ่ายทหารมากเกินไป

ด้วยเพราะนายสุทินมาเป็น รมว.กลาโหม เพื่อญาติดีกับทหาร จึงมี “ดีล” ข้ามขั้วของขั้วชินวัตร กับขั้วอนุรักษนิยม นายสุทินเลยต้องใช้ไม้นวม และแสดงความใจดีเท่านั้น เพราะรู้ว่า ไม่อาจล้วงลูกโผทหารได้ เพราะรูปแบบของบอร์ด 6 เสือกลาโหมนั่นเอง

แค่ทีมหน้าห้อง รมว.กลาโหม นายสุทินก็ไม่อาจจัดวางได้ตามที่เสนอไป แม้แต่ตำแหน่งในสำนักปลัดกลาโหม (สป.กห.) ที่นายสุทิน ในฐานะ รมว.กลาโหมสามารถส่งนายทหารมาลงตำแหน่งได้ เพราะเป็นเจ้ากระทรวง แต่ทว่า พล.อ.สนิธชนก ที่เป็นปลัดกลาโหมมาเป็นปีที่ 2 และเกษียณกันยายน 2568 แข็งโป๊ก ด้วยเป็นสายตรง 3 ป.มายาวนาน และเป็นความหวังเดียวที่ยังคงมีอำนาจบารมีในกองทัพ จึงไม่ตอบสนองนายสุทินมากนัก

อีกทั้งตำแหน่งส่วนใหญ่ใน สป.กห. ก็ต้องรองรับนายทหาร เตรียมทหาร 24 เพื่อนของ พล.อ.สนิธชนก ที่ต้องขยับเป็นส่วนใหญ่ เพราะ พล.อ.สนิธชนก ก็รักเพื่อน และโดยรุ่น ตท.24 ก็อาวุโส จะเกษียณกันแล้ว

อีกทั้งใน ผบ.เหล่าทัพ เป็น ตท.24 ถึง 3 คน คือ พล.อ.สนิธชนก พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด และบิ๊กไก่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. จึงเป็นรุ่นที่มีเพาเวอร์

อีกทั้ง พล.อ.สนิธชนก เปรียบเป็นพี่ใหญ่ของ ผบ.เหล่าทัพ และยังเป็นความหวังหนึ่งเดียวของน้องๆ นายทหาร ในสาย 3 ป. ที่เติบโตมาด้วยกัน จึงต้องเพิ่มความแข็ง เป็นเกราะป้องกันอำนาจการเมือง

ยิ่งเก้าอี้ของนายสุทินไม่ค่อยมั่นคง อาจจะไม่ได้อยู่จัดโผทหารใหญ่ และอาจมีการเปลี่ยนตัว รมว.กลาโหม ก็เป็นได้ จึงไม่มีเพาเวอร์นัก แม้นายสุทินจะมั่นใจว่ามี “สัญญาณบวก” ให้ได้เป็น รมว.กลาโหมต่อไป เพราะมีสัญญาณมาจากทั้งบ้านจันทร์ส่องหล้า และอดีตนายกฯ หญิงแล้วก็ตาม

แต่ความพยายามทวง “ดีล” รมว.กลาโหม ของขั้วอนุรักษนิยม ยังคงมีอยู่ ว่า รมว.กลาโหมต้องเป็นสายตรงบิ๊กตู่

ขณะที่ใน ตท.24 เองก็เห็นใจบิ๊กปั้น พล.อ.ไพบูลย์ วรวรรณปรีชา ผอ.สำนักนโยบายและแผนกลาโหม (ผอ.สนผ.กห.) เพื่อนร่วมรุ่น ตท.24 ที่ข่าวสะพัดในกลาโหมและในรุ่นว่า มีปัญหาคาใจกับ พล.อ.สนิธชนก จนมีข่าวลือล่วงหน้าว่า โยกย้ายตุลาคมนี้ อาจไม่ได้ขึ้นรองปลัดกลาโหม เพื่อจ่อเป็นปลัดกลาโหมต่อในตุลาคม 2568 แต่อาจถูกขยับไปเป็นจเรทหารทั่วไป

จนมีข่าวว่า อาจจะถูกดึงตัวไป บก.ทัพไทย เพราะถือเป็นคนเก่ง และก็ยังมีชื่อว่า อาจได้รับการเสนอชื่อให้นายกฯ พิจารณาเป็น เลขาฯ สมช. ในตุลาคมนี้อีกด้วย

เป็นเรื่องธรรมดา ที่ในรุ่นเดียวกันอาจจะมีเพื่อนที่สนิท และไม่สนิท และใครได้ดีก็ต้องดูแลเพื่อนๆ

ท่ามกลางการจับตามองว่า โผนี้จะมีเซอร์ไพรส์หรือไม่ เพราะทั้งทัพไทย ทบ., ทร. และ ทอ. ต้องขยับตัวนายทหารเพื่อวางตัวผู้นำเหล่าทัพในอนาคตอันใกล้

อีกทั้งเป็นโผแรกของ ผบ.เหล่าทัพที่เพิ่งขึ้นมา ทั้ง พล.อ.ทรงวิทย์ ผบ.ทหารสูงสุด แม้จะอยู่บนเก้าอี้ 2 ปีก็ตาม เช่นเดียวกับบิ๊กไก่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. ที่ต้อง “ติดกระดุมเม็ดแรก” ใหม่ จากที่อดีต ผบ.เหล่าทัพคนเดิมจัดเอาไว้ และดันมือทำงานขึ้นมา

ใน ทอ. จึงมีการจับตานายทหารอากาศคนเก่งของ ทอ. ว่าจะได้ขยับเข้าไลน์หรือไม่

ทั้งฮอลลีวู้ด พล.อ.ต.ระวิน ถนอมสิงห์ ผอ.สงครามทางอากาศ แกนนำ ตท.26 น้องรักของ Armstrong พล.อ.อ.พันธ์ภักดี

ผอ.โอ๋ Jedi พล.อ.ต.อนุรักษ์ รมณารักษ์ แกนนำ ตท.28 ผอ.สำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการ ทอ. อดีต ผบ.กองบิน 7 อดีต ผช.ทูต ทอ.ประจำเบอร์ลิน เยอรมนี

เสธ.เหลน Lane พล.อ.ต.นิทัศน์ ยูประพัฒน์ ทีมหน้าห้อง ผบ.ทอ. แกนนำ ตท.28 อดีตผู้การกองบิน 23 อดีต ผช.ทูต ทอ. ประจำมอสโก รัสเซีย

และรองแจ๊ค พล.อ.ต.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย รองเจ้ากรมยุทธการ ทอ. แกนนำ ตท.29 อดีตผู้การกองบิน 1 ว่าจะขยับโผนี้เลยหรือไม่ ทั้งตำแหน่งเจ้ากรมกิจการพลเรือน ทอ. เจ้ากรมยุทธการ ทอ. และ ผบ.รร.นายเรืออากาศ แต่คาดว่าต้องรอโผใหญ่ตุลาคมนี้

แต่ทว่า บางตำแหน่งก็ร่ำลือว่าขยับในโผนี้เลย

ขณะที่บิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. และ บิ๊กดุง พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. ที่เพิ่งขึ้นมาเป็น ผบ.เหล่าทัพ และมีอายุราชการแค่ปีเดียว จะเกษียณกันยายนนี้แล้ว จึงมีโอกาสจัดโผแค่ 2 ครั้ง

ในส่วน ทบ.นั้น พล.อ.เจริญชัย ก็ต้องดูแลเพื่อนร่วมรุ่น ตท.23 ที่จะเกษียณ ให้ได้ขยับเลื่อนยศกัน จนนายกฯ อนุมัติอัตราเฉพาะตัว ให้แก้ปัญหาโยกย้าย

ในกองทัพเรือ บรรดานายทหารที่อยู่ในคณะกรรมการสอบสวน กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง หลายคนที่เป็น ผบ.หน่วย ที่ต้องเคลียร์ให้จบ หลัง ทร.ไทย-สหรัฐ ปฏิบัติการดำสำรวจ หาผู้สูญหาย และถอดทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ นำหลักฐานต่างๆ ขึ้นมา และภาพถ่ายแล้ว สามารถสรุปผลได้

โดยมีโจทย์สำคัญคือ ภาพลักษณ์ของกองทัพเรือ ที่ส่อเค้าว่า คนที่จะกลายเป็นผู้รับผิดชอบหลักคือ ผู้บังคับการ รล.สุโขทัยในเวลานั้น

แม้จะมีกระแสข่าวลือว่า มีหลักฐานการแทรกแซงการสั่งการ แก้ปัญหาเรือจม จากระดับผู้บังคับบัญชา จนทำให้ผู้การเรือไม่อาจตัดสินใจแก้ปัญหาได้ตามสถานการณ์ก็ตาม

โดยการจัดโผแต่ละเหล่าทัพในโผนี้ นายสุทินปล่อยผ่าน เพราะนายสุทินไม่ใช่ทหาร จึงไม่สันทัดในเรื่องการจัดโผ

กล่าวกันว่า โผนี้แค่อุ่นเครื่อง นายสุทินยังถือว่าเป็นมือใหม่ รอดูฝีมือบิ๊กทินในโผใหญ่ โผหน้าก็แล้วกัน ถ้าอยู่ถึง

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022