ผู้อพยพชาวจีน คือกลุ่มที่เติบโตรวดเร็วที่สุด ลักลอบเข้าสหรัฐโดยมี TikTok ชี้ทาง?

(Photo by Herika MARTINEZ / AFP)

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รายการ 60 Minutes อันโด่งดังทางช่อง CBS นำเสนอรายงานเรื่อง

“Chinese Migrants are the fastest growing group crossing from Mexico into U.S. at southern border”

“ผู้อพยพชาวจีน คือกลุ่มที่เติบใหญ่รวดเร็วที่สุด ที่ข้ามจากเม็กซิโกเข้ามาสหรัฐทางชายแดนด้านใต้”

CBS เปิดรายการโดยเล่าว่า

จำนวนผู้อพยพที่เข้าจากชายแดนด้านใต้นั้น “ไม่สามารถคาดเดาได้” (unprecedented)

เมื่อปีที่แล้ว หน่วยศุลกากรและกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (U.S. Customs and Border Protection – CBP) มีบันทึกว่า ได้กักกันหรือผลักดันผู้อพยพจำนวน 2.5 ล้านคน ที่พยายามข้ามเข้าสู่สหรัฐจากเม็กซิโกให้ออกไป

ในจำนวนผู้อพยพเหล่านั้น กลุ่มที่เติบใหญ่ขยายตัวเร็วที่สุดคือ “ผู้อพยพชาวจีน”

ใช่แล้ว คุณได้ยินไม่ผิด – ผู้อพยพชาวจีน

ส่วนใหญ่มาจากชนชั้นกลาง

มุดเข้ามาจากรูขนาด 4 ฟุตตรงที่สุดรั้วกั้นยาว 60 ไมล์ทางตะวันออกของเมือง San Diego (รัฐแคลิฟอร์เนีย)

การเข้าเมืองผิดกฎหมายที่รูนี้ คือเส้นทางใหม่สำหรับคนที่หวังจะเข้ามาอยู่อาศัยในอเมริกา

 

Sharyn Alfonsi พิธีกรหญิงบรรยายว่า

พอพระอาทิตย์ขึ้น เราก็เห็นผู้อพยพกรุ๊ปแรกจากเส้นทางเม็กซิโก มุดผ่านรูระหว่างกำแพงเหล็กสูง 30 ฟุตกับโขดหิน มุดมาใต้ลวดหนาม เข้าสู่สหรัฐ

พวกเรารู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นกลุ่มคนเหล่านี้ที่มาจากเมืองจีน ห่างไกลออกไป 7,000 ไมล์

ทีมตากล้องของเรา (มองเห็น), ที่จุดหนึ่งห่างออกไปราว 25 ฟุต มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ชายแดนยืนอยู่ เขาไม่ยักยับยั้ง

ผู้ชายคนแรกที่เธอสัมภาษณ์เป็นหนุ่มจบมหาวิทยาลัย (college man) เขาบอกว่า คาดหวังจะได้งานในลอสแองเจลิส เขาใช้เวลาเดินทางจากเมืองจีน 40 วัน ตามเส้นทาง : ประเทศไทย, โมร็อกโก, เอกวาดอร์ จากเอกวาดอร์เข้าโคลอมเบีย, ปานามา, คอสตาริกา, นิการากัว

การเดินทางยอกย้อนเช่นนี้เป็นเรื่องจริง เพราะผู้เขียนเคยสัมภาษณ์คนหลบหนีเข้าเมืองเป็นเด็กหนุ่มชาวเนปาลลี เจอกันขณะที่เขวทำงานมินิมาร์ตปั๊มน้ำมันในนิวเจอร์ซีย์ เขาเล่าว่าเดินทางจากเนปาลเข้าอินเดีย แล้วบินจากอินเดียเข้ายุโรปตะวันออก จากนั้นบินมาอเมริกากลาง เดินทางผ่านหลายประเทศ รวมทั้งหมด 7 ประเทศ กว่าจะได้เข้าอเมริกาทางด่านเท็กซัส

เข้าเท็กซัสมาแล้วติดต่อญาติในนิวยอร์กส่งตั๋วเครื่องบินมาให้ จึงได้มาขายของในร้านค้าปั๊มน้ำมันแห่งนี้

 

30 นาทีต่อมาหลังจากนั้น รถ SUV ของพวกค้ายาเสพติดก็มาถึงจุดกั้นพรมแดนเพื่อปล่อยคนอีกกรุ๊ปลงมาตรงจุดเดิม

แล้ว 30 นาทีจากนั้นก็มาอีกกรุ๊ป

30 นาทีต่อมาก็อีกกรุ๊ป

ตลอด 4 วันที่เราเฝ้าอยู่ตรงจุดนี้ มีคนอพยพเข้ามาราว 600 คน ทั้งผู้ใหญ่และเด็กต่างมุดผ่าน “รู” นี้สู่ผืนดินสหรัฐโดยไม่โดนตรวจสอบ

เราเห็นคนอพยพจากอินเดีย, เวียดนามและอัฟกานิสถาน ส่วนมากเป็นคนจีน ทุกคนต่างอ้างว่าเข้ามาเพื่อลี้ภัยการเมือง

พาสปอร์ตเดินทางถูกโยนทิ้งไว้ตรงจุดเข้าแดน ต่อแต่นี้พวกเขาจะเป็นคนใหม่ในอเมริกา ไม่พึ่งพาสปอร์ตเล่มเดิมแล้ว

คุยกับพวกอพยพผ่านล่าม เรารับรู้วิถีคนอพยพชาวจีนเหล่านี้ บางคนเป็นคนทำงานธนาคาร (banker) บางคนเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดย่อม

ผู้อพยพส่วนมากเดินทางอย่างทรหดผ่านอเมริกากลางด้วยกระเป๋าเป้เปื้อนฝุ่นอยู่บนแผ่นหลัง

ขณะเดียวกันเราสังเกตเห็นคนอพยพจีนชนชั้นกลางมาถึงพร้อมกระเป๋าลาก พวกเขาบอกว่าเดินทางด้วยเครื่องบินตลอดจนถึงเม็กซิโก นั่นคือ บินจากจีนเข้า Ecuador เพราะที่นั่นไม่ต้องการวีซ่าสำหรับคนจีน จากนั้นจับเครื่องบินตรงเข้า Tijuana, Mexico เมืองนี้คือด่านชายแดนกับ San Diego รัฐแคลิฟอร์เนีย

พวกคนอพยพเล่าว่าพวกเขาติดต่อกับพวกพ่อค้ายาเสพติด หรือที่เรียกว่า “หัวงู” (snake head) ที่เมือง Tijuana

พวกเขาแต่ละคนจ่ายค่ารถหัวละ 400 เหรียญสำหรับระยะทางหนึ่งชั่วโมงสู่ “รู” ชายแดนแห่งนี้

 

พิธีกร CBS สัมภาษณ์ผู้อพยพหญิงผ่านล่ามว่า ทำไมถึงตัดสินใจมาสหรัฐ เธอตอบว่า ที่โน่น (เมืองจีน) อยู่ยาก หางานทำก็แสนยาก

พิธีกรถามว่า เธอทำงานอะไรในเมืองจีน เธอตอบว่าเธอทำงานโรงงาน แต่ตอนนี้งานโรงงานก็หายาก

ต่อคำถามว่า การเดินทางนี้ค่าใช้จ่ายสูงแค่ไหน เธอตอบว่า เธอขายบ้านเป็นเงิน 14,000 เหรียญเพื่อจ่ายค่าเดินทาง

ปีที่แล้ว ศุลกากรสหรัฐและหน่วยพิทักษ์มาตุภูมิ (CBP) แถลงว่า มีชาวจีน 37,000 คนข้ามชายแดนเม็กซิโกอย่างผิดกฎหมายเข้าสู่สหรัฐ นั่นหมายความว่าเพิ่มขึ้น 50 เท่าจากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

คนอพยพจากจีนส่วนมากเล่าว่า ออกเดินทางหนีจากจีนเพราะนโยบายการเมืองที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่เฉื่อยชา

ผู้อพยพหญิงอายุ 37 ปี เล่าว่า การล็อกดาวน์โควิด-19 ของจีนได้ทำลายธุรกิจสถานเลี้ยงเด็กของเธอ เธอทิ้งลูกเล็ก 2 คนไว้กับครอบครัวที่บ้าน เธอบินมาเข้าอเมริกา

พิธีกรถามผ่านล่ามว่า มีเหตุผลอื่นใดที่เลือกมาสหรัฐ

เธอตอบว่า หลายอย่าง

พิธีกรถามว่า เพื่อหางานทำหรือ

เธอตอบว่า ไม่ใช่โดยสิ้นเชิง แล้วเหตุผลอะไรล่ะ

หญิงอพยพจีนวัย 37 ตอบว่าเพื่อ

“อิสรภาพ” (freedom)

พวกเราสงสัยกันว่า เหล่าคนอพยพจีนรู้เส้นทางเฉพาะเข้าแคลิฟอร์เนียได้อย่างไร คำตอบง่ายๆ อยู่ในกำมือ

“TikTok”

TikTok คือโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มของจีน การโพสต์ที่เราค้นพบให้คำแนะนำไว้ สเต็ปต่อสเต็ป แนะนำการจ้างกลุ่ม smugglers ในทุกจุด (ประเทศ) รวมทั้งรายละเอียดในช่องทางทุกจุด จนมาถึงปาก “รู” ที่เราไปเยือน

เราถูกตรึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นปกติวิสัย (routine)

หลังจากมุดรั้วผ่าน “รู” เข้ามาแล้ว เหล่าคนอพยพเดินเท้าต่อไปราวครึ่งไมล์บนถนนที่สกปรก แล้วเข้าแถวรอ U.S. Border Patrol (หน่วยพิทักษ์ชายแดน) มาถึง เพื่อมอบตัว (surrender) ให้ทางการ

แค่นี้ก็เสร็จสิ้นการเดินทางลี้ภัย 7,000 ไมล์ จากจีนเข้าอเมริกา (อย่างผิดกฎหมาย)