สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

 

ทางกันดาร

 

ชัดเจนแล้วว่า ROUTE 112 หรือ เส้นทาง (กฎหมายอาญา มาตรา)112 ที่ใครอยากจะปรับปรุงแก้ไขนั้น

เป็นเส้นทางกันดาร ยาวเหยียด วกวนประหนึ่งเขาวงกต

แถมยังมีวางสิ่งกีดขวาง ให้เส้นทาง”เล็กแคบ”จนแทบจะสัญจรไปไม่ได้

แม้จะขับขี่ระมัดระวังอย่างไร มีสิทธิเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเส้นทางและตลอดเวลา

ตัวอย่างที่เห็นกันจะ-จะตา อยู่ตอนนี้ คือพรรคก้าวไกล ที่แทบจะไปต่อบนROUTE 112ไม่ได้

และยังถูกไฟต์บังคับให้เปลี่ยนเส้นทาง

ไป”ใจหายใจคว่ำ”อยู่บนเส้นทางมรณะ อันมีจุดหมายสุดท้าย อยู่ 2 จุดหมาย

คือสถานียุบพรรค และสถานีจริยธรรม ที่ผู้ใดฝ่าฝืน(ซึ่งตอนนี้ว่ากันว่าคือ 44 ส.ส.พรรคก้าวไกล)มีโทษหนักถึงประหารชีวิต

ทางมรณะนี้ เป็นทางคอนกรีตวิ่งสะดวก และมีระยะที่จะไปถึงจุดหมาย”สั้น”อย่างยิ่ง

นั่นหมายความว่า “อนาคต”ของก้าวไกล จึงน่าจะมิได้ “อยู่ไกล”

มิได้อยู่ไกล เพราะจาก”องค์ประกอบ”ต่างๆตามทฤษฏีสมคบคิดแล้ว ดูเหมือนจะมี”มือที่มองไม่เห็น”พยายาม ตัด”ไฟก้าวไกล”เสียแต่ต้นลม ในทุกเส้นทาง

ไม่ว่าตรอก ซอกซอย ไปกระทั่งถึงถนนสายใหญ่

ระดับ”ตรอก”ก็เช่นที่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ ตีฆ้องร้องเปล่า ว่า บอร์ดประกันสังคมที่มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 24 ธันวาคม 2566 จนบัดนี้ ยังไม่มีการรับรองผล

โดยประกันสังคมแจ้งว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน)กำลังตรวจสอบประวัติ และความผิดปกติในการเลือกตั้ง

สร้างความมึนงง ว่า กอ.รมน.เกี่ยวอะไร กับเรื่องนี้ และ มีสิทธิ์อะไรจึงไปขอข้อมูลจากทางประกันสังคม

หรือเพราะว่า บอร์ดประกันสังคม ฝ่ายลูกจ้าง ซึ่งเป็น”แนวร่วม”ของพรรคก้าวไกล และกลุ่มก้าวหน้า เป็นฝ่ายชนะและกุมเสียงข้างมาก

ฝ่ายความมั่นคงจึงมาตั้ง”ด่านสะกัด” และอาจจะมีอุบัติเหตุอะไรบางอย่างเกิดขึ้นก็ได้

ซึ่งกรณีนี้ มีบางฝ่าย ให้มองยาวไปถึง “ซอยใหญ่”อย่างการเลือกสรรวุฒิสมาชิก ชุดใหม่ ที่จะเกิดขึ้นกลางปีนี้ด้วย

หากมีแนวโน้มที่”แนวร่วม”กลุ่มก้าวหน้าหรือพรรคก้าวไกล จะเบียดแทรกเข้ามาจนทำให้สภาสูงเบี่ยงเบนไปจากกลุ่ม”จารีต”เดิม

“ด่าน” ตลอด ซอยคงถูกตั้งขึ้นสะกัดแน่นอน

และที่ต้องจับตาต่อไปอีก เป็นระดับถนนใหญ่ นั่นคือการเลือกตั้ง นายกฯและองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ประกาศจะลงต่อสู้ในสนามเลือกตั้งนี้ที่จะมีขึ้นในปลายปี 2567 อย่างเต็มตัว

มีการประกาศรับผู้สมัครและทีมงานอย่างเปิดเผยไปแล้ว

แม้ ว่าจะมีผู้ปรามาส ว่า พรรคก้าวไกล “หวังเกินตัว”

ด้วยคงไม่อาจไปสู้กับ “บ้านใหญ่” “การเมืองระบบอุปถัมน์ในท้องถิ่น”ได้

แต่กระนั้น ด้วย”ภูมิทัศน์การเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป” ผลการเลือกตั้ง อาจจะไม่เหมือนเดิม

หากพรรคก้าวไกล สามารถปักธง การเมืองระดับจังหวัดได้ อย่างมีนัยสำคัญ

อัตราเร่งที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็จะแรงขึ้น

ซึ่ง”ฝ่ายจารีต”คงไม่อาจประมาทเพราะพรรคก้าวไกล พิสูจน์ให้เห็นแล้วจากการเลือกตั้งทั่วไป

นี่จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้ต้องเร่ง”หักโค่น”พรรคก้าวไกล

และผลจากกรณี ROUTE 112 ก็เป็นเครื่องมือสำคัญ ที่จะนำไปสู่ การยุบพรรค และประหารชีวิตแกนนำและส.ส.ก้าวไกล 44 คน

ซึ่งแม้มิอาจทำให้ พรรคก้าวไกล “สูญพันธุ์”

แต่ การที่ทำให้ รถก้าวไกลกำลังแรง พลิกคว่ำ บนทางกันดารได้

ก็คงเบรกความฮึกห้าวของพลังคนรุ่นใหม่ลงได้ ไม่น้อย!

———————-