เหตุแห่งการขายทิ้งบ้าน ‘ซูจี’ ข้อพิพาทระหว่างพี่น้อง

(Photo by AFP)

ในขณะที่นางออง ซาน ซูจี ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมา ที่เคยได้ขึ้นไปเป็นถึงระดับที่ปรึกษาของรัฐบาลเมียนมา สมัยหนึ่งมาแล้ว ยังคงถูกกักตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่งที่ไม่มีใครรู้ หลังจากโดนรัฐบาลทหารเมียนมา ตั้งข้อหาหลายข้อหาด้วยกัน และถูกโทษจำคุกรวมกันทั้งสิ้น 27 ปี

จู่ๆ ก็มีคำตัดสินของศาลออกมา ให้นำบ้านของนางซูจี ที่นครย่างกุ้ง ออกประมูลขาย เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บ้านหลังใหญ่ริมทะเลสาบอินยาของนางซูจีหลังนี้ มีเนื้อที่ทั้งหมด 7,782 ตารางเมตร เป็นอาคาร 2 ชั้น แบบโคโลเนียล ซึ่งรัฐบาลทหารเมียนมาเป็นผู้มอบให้แก่นางคิน จี มารดาของนางซูจี หลังจากที่นายพลออง ซาน บิดาของซูจี ถูกลอบสังหารในเดือนกรกฎาคม 1947

ก่อนที่ต่อมา นางคิน จี จะเสียชีวิตลงในเดือนธันวาคม 1988

และนางซูจีก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาตลอด อีกทั้งยังเคยใช้เป็นที่รับรองนักการเมืองระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นบารัก โอบามา หรือนางฮิลลารี คลินตัน

ภาพที่คนทั่วโลกจดจำได้จากบ้านหลังนี้ ก็คงหนีไม่พ้นภาพที่นางซูจีโผล่ขึ้นมาจากประตูหน้าบ้าน เพื่อทักทายกับกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตย ที่มารออยู่หน้าบาน ในช่วงที่นางยังถูกกักตัวอยู่ และปรากฏตัวเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ในช่วงที่ถูกกักตัวอยู่ 15 ปี ก่อนที่จะได้รับอิสรภาพ และออกมาต่อสู้ทางการเมืองอย่างเต็มตัวในเวลาต่อมา

(Photo by SAUL LOEB / POOL / AFP)

คําตัดสินของศาลแขวงในย่างกุ้งดังกล่าว มีขึ้นหลังจากเกือบปีครึ่ง หลังจากที่ศาลสูงยืนตามคำอุทธรณ์พิเศษของนายออง ซาน อู พี่ชายแท้ๆ ของนางออง ซาน ซูจี ที่ขอให้ศาลอนุญาตให้เขามีสิทธิครึ่งหนึ่งในทรัพย์สินของครอบครัว ซึ่งหมายถึงบ้านหลังดังกล่าว ที่นางซูจีใช้อาศัยอยู่ในย่างกุ้ง

ซึ่งเรื่องราวการฟ้องร้องเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ มีมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เมื่อนายออง ซาน อู ได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลเป็นครั้งแรก เพื่อขอสิทธิในการแบ่งปันทรัพย์สมบัติในย่างกุ้ง แต่ในเดือนมกราคม 2001 ศาลได้ปฏิเสธคำร้องดังกล่าว และออง ซาน อู ได้ยื่นเรื่องร้องต่อศาล ครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอด 20 ปี เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาคิดว่าเขาสมควรจะได้

กระทั่งในปี 2016 ศาลแขวงฝั่งตะวันตกของย่างกุ้ง ได้ตัดสินแบ่งทรัพย์สมบัติระหว่างสองพี่น้อง โดยตัดสินให้ซูจีได้ครอบครองบ้านหลังใหญ่ ส่วนบ้านอีกหลังหนึ่ง และพื้นที่โดยรอบ ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของออง ซาน อู

แต่นายออง ซาน อู ยังรู้สึกว่า คำตัดสินดังกล่าวไม่เป็นธรรม และได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลหลายต่อหลายครั้ง เพื่อขอให้มีการขายบ้านหลังดังกล่าว แล้วนำเงินที่ได้มาแบ่งกันระหว่างเขากับซูจี

หลังจากที่กองทัพได้ยึดอำนาจากรัฐบาลของนางซูจีที่มาจากการเลือกตั้งในเดือนสิงหาคม 2022 ศาลสูงได้เห็นชอบกับคำขออุทธรณ์พิเศษของออง ซาน อู ที่ขอให้นำทรัพย์สมบัติของครอบครัวออกประมูลขาย

(Photo by Soe Than WIN / AFP)

อย่างไรก็ตาม หนึ่งเดือนหลังจากคำตัดสินดังกล่าว ตู่หว่า ละชี ละ รักษาการประธานาธิบดีรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา (เอ็นยูจี) ซึ่งเป็นองค์กรต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา และเป็นรัฐบาลเงา โดยระบุว่า พวกเขาเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้ประกาศให้บ้านของซูจี เป็นมรดกทางวัฒนธรรม และห้ามการขายหรือทำลาย มิเช่นนั้นจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย

แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับคำตัดสินของศาลเมียนมา ที่จะให้มีการประมูลขายบ้านของซูจีหลังนี้ เพราะตอนนี้เป็นยุคของรัฐบาลทหารเมียนมา

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การประมูลบ้านซูจี จะมีขึ้นในวันที่ 20 มีนาคมนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 315,000 ล้านจ๊าต หรือราว 3,200 ล้านบาท!!

และการประมูลก็จะจัดขึ้นที่บริเวณบ้านหลังนี้นี่เอง ก็ต้องดูว่า ใครจะเป็นผู้ประมูลได้บ้านหลังประวัติศาสตร์แห่งนี้ไป