‘ฝนสั่งฟ้า’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ

ปลายเดือนมกราคม

สิ่งที่เรียกว่า ความไม่แน่นอน เกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะขณะทำงานอยู่ในป่า

ช่วงเวลาที่เป็นเวลาของฤดูหนาว ตลอดทั้งวัน เราอยู่กับแสงแดดจัดจ้า ขณะพลบค่ำ ไปจนถึงเช้ามืด สภาพอากาศเย็นยะเยือก

แต่บ่ายของวันกลางสัปดาห์ เหตุการณ์ก็เปลี่ยนไป เริ่มตั้งแต่บ่าย เมฆดำเข้าครอบคลุม เสียงฟ้าคำราม ลมพัดแรง ยอดไม้เอนลู่ ฟ้าคำรามอยู่ราวครึ่งชั่วโมง สายฝนก็เริ่มโปรย ตกไปจนกระทั่งพลบค่ำ และตกพรำๆ ไปตลอดคืน

และเป็นเช่นทุกครั้งที่สายฝนกระหน่ำ ความเปลี่ยนแปลงที่เราต้องพบคือ เส้นทางสัญจรอันเปลี่ยนไป

แม้ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาฤดูหนาว อยู่ในฤดูกาลแห่งความรักของเหล่าสัตว์ป่า เช้ามืด และตอนค่ำ เสียงนกยูงยังร้องก้องกังวาน นกยูงตัวผู้ยังไม่ทิ้งหางยาวสลวย และไม่ไปไหนไกลจากอาณาเขตพื้นที่ซึ่งจับจองไว้ เพื่อรำแพนหาง อวดความสวยงามแข็งแรงให้ตัวเมียเห็น

สำหรับสัตว์ป่า ตัวเมียจะเป็นฝ่ายเลือกตัวผู้ ที่เห็นว่าเหมาะสมกับการเป็นพ่อของลูก พวกมันอยู่ในวิถีนี้มาเนิ่นนาน

จากวิทยุสื่อสาร ผมได้ยินว่า บนดอยสูง อากาศหนาวจัด

แต่เรากลับพบสภาพอากาศฟ้าคำราม สายฝนกระหน่ำ ติดอยู่ในแคมป์ ใต้ผ้ายาง ซึ่งละอองฝนสาด

ผมนึกถึงประโยค “ฝนสั่งฟ้า” สายฝนโปรยลงสู่พื้น ก่อนจะจากไปเพื่อการมาถึงของช่วงเวลาแล้ง

 

วันที่คล้ายเป็นเวลาที่ฝนสั่งฟ้า ผมอยู่ในแคมป์พร้อมกับผู้ช่วยนักวิจัยของสถานีวิจัยสัตว์ป่าสี่คน

เรามีภารกิจสำรวจและเคลียร์เส้นทาง เพราะเส้นทางนี้ไม่มีใครใช้สัญจรมากว่าปี ปรีชา ชายหนุ่มวัย 23 ปีที่เพิ่งเข้ามาทำงานไม่ถึงปี ช่วยงานได้อย่างแข็งขัน

เส้นทางที่รถเคยใช้วันนี้ รกทึบ ไผ่กอใหญ่ล้มร่องรอยจากช้างดึงลงมา เราใช้เวลาหลายวันขุดดิน ถมร่องลึก เลื่อยต้นไม้ใหญ่

แสงแดดจัดจ้าตอนกลางวัน

จนกระทั่งถึงเวลาที่ฝนสั่งฟ้า เราทำได้เพียงนั่งอยู่ใต้ผ้ายาง หล่มลึกที่เราขุดดินถม ถูกสายน้ำเซาะและกลับสู่สภาพเดิม

ท่ามกลางสายฝนที่ยังโปรยปราย เราเก็บแคมป์ เดินทางกลับสถานี และอีกหนึ่งสัปดาห์จะกลับมาใหม่

ถึงที่สุด เราเหลือเพียงแค่สามคน

ปรีชาจะไม่ได้ไปกับเราแล้ว และจะไม่มาช่วยงานเราอีก เขาจากไป จากไปตลอดกาล

 

อีกสองวัน เราจะเดินทางกลับไปทำภารกิจต่อ ปรีชาขออนุญาตลาไปจัดการธุระทางบ้าน และจะกลับมาตอนเย็น

ค่ำวันนั้น เขาขี่มอเตอร์ไซค์มาพร้อมกับสมศักดิ์

เหลือระยะทางอีกสักสองกิโลเมตรจะถึงสถานี ทั้งสองพบกับ “ไอ้ด้วน” ช้างสีดอ ร่างทะมึน ยืนขวางทางอยู่

สมศักดิ์อยู่คันหน้า เขามีประสบการณ์ ทำงานในป่ามานาน จึงทิ้งรถและกลิ้งตัวลงข้างทาง และเข้าไปหลบใต้ไผ่กอใหญ่

ส่วนปรีชาช้าเกินไป แม้ว่าเขาพยายามไต่ขึ้นทางด้านขวา ที่เป็นไหล่ทางชัน

ไอ้ด้วนเข้าถึงตัว ใช้งวงดึงขาและเตะเข้าบริเวณหน้าอก

เหตุการณ์ดูชุลมุน

เมื่อทุกอย่างสงบ ไอ้ด้วนเดินจากไป สมศักดิ์ขี่รถมาตามหัวหน้า

ไปถึงจุดเกิดเหตุ สภาพที่พบคือ ปรีชาขาหัก เขายังมีสติ พูดจา เล่าเรื่องราวให้ฟังได้

ขณะอยู่บนรถที่พาไปโรงพยาบาล เขาบ่นเรื่องหายใจไม่สะดวก

ถึงโรงพยายบาล ปรีชาถูกนำเข้าห้องฉุกเฉิน อยู่บนเตียงในห้องนั้นได้ราว 20 นาที เขาก็จากไป

ชายหนุ่มคนหนึ่งจากไป โดยช้างที่มีปัญหาตัวหนึ่ง

ช้างป่า – ถึงวันนี้ ในบางพื้นที่ สถานการณ์ระหว่างคนกับสัตว์ป่า คล้ายอยู่ในบรรยากาศของสงคราม มีการปะทะกันจนถึงชีวิตเสมอๆ การทำความเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อการแก้ไข ในหนทางอันถูกต้องจำเป็น

ระหว่างเรากับไอ้ด้วน ไม่ใช่ความแปลกหน้า มันปะทะกับคนมาหลายครั้ง และปรีชาไม่ใช่คนแรกที่มันโจมตี

มันคล้ายเป็นช้างที่ขี้โมโห ความหงุดหงิดของมันเกิดขึ้นเพราะเสียงระเบิด เสียงประทัด จากคนเก็บหาเห็ด ที่ใช้ประทัดขับไล่สัตว์ป่า

ไม่เพียงไอ้ด้วน สัตว์ป่าจำนวนหนึ่งมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป กระทิงหลายตัวเลือกที่จะพุ่งเข้าใส่คนทันทีที่พบ ไม่ตื่นหนีอย่างเช่นช่วงเวลาที่ผ่านๆ มา

ในฤดูเห็ด เสียงที่เกิดขึ้นตลอดคือเสียงประทัด

เรารับรู้มานานแล้วว่า ถึงวันนี้ สถานการณ์ระหว่างคนกับสัตว์ป่าเปลี่ยนไป

ปัญหาต่างๆ ที่เหล่าสัตว์ป่ากำลังเผชิญ พื้นที่อาศัยถูกบุกรุก เส้นทางเดินหากินตามฤดูกาลโดนตัดขาด จำนวนประชากรช้าง รวมทั้งกระทิงในบางพื้นที่ เพิ่มมากขึ้น โดยไร้สัตว์ผู้ล่า เช่น เสือโคร่ง คอยควบคุม

เมื่อถูกรุกไล่ กระทั่งจนมุม สัตว์ป่าส่วนหนึ่งเลือกที่จะเอาคืน

และขณะเอาคืน พวกมันไม่เลือกว่าคนผู้นั้นจะเป็นใคร

การปะทะกันเกิดขึ้นเสมอ และเมื่อเหตุการณ์จบลงด้วยการสูญสิ้นเสียชีวิต ย่อมเรียกได้ว่า เป็นโศกนาฏกรรม

 

ในแคมป์คืนข้างแรม ท้องฟ้ามืดสนิท สายฝนจากไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ร่องรอยหล่มลึก และต้นไม้ล้มขวางเส้นทาง

สายลมหนาวจะอยู่กับผืนป่าไปอีกสักระยะ และความแห้งแล้งจริงจังจะมาถึง

ข้างกองไฟ ผมนึกถึงปรีชา และประโยค “ฝนสั่งฟ้า”

ฝนสั่งฟ้า เพื่อบอกว่าจะจากไป อีกไม่นานจะกลับมาอีก แต่คนบางคนก็จากไปโดยไม่ได้ “สั่ง” อะไร

และไม่มีวันได้กลับมาแล้ว •

 

หลังเลนส์ในดงลึก | ปริญญากร วรวรรณ