คอลัมน์ประจำ

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๐๓)

ฟ้า พูลวรลักษณ์
ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 ธันวาคม 2566
ผู้เขียนฟ้า พูลวรลักษณ์
เผยแพร่

บทความพิเศษ | ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๐๓)

 

๑

ในโลกนี้ ต้องแบ่งออกเป็น

๑ Scientific

๒ Spiritual

๓ Cultural

๔ Political

ข้อแรก Scientific โลกตะวันตกครองความเป็นใหญ่ และได้ตั้งคลับ ที่ยึดครองไปหมดเกือบทั้งโลก คุณอาจเข้าไปร่วมกับพวกเขาได้ ด้วยการก้มหัวให้พวกเขา ยอมเรียกพวกเขาว่าพี่ ปรับความคิดตัวเอง ให้เข้ากับพวกเขา หากไม่ทำเช่นนั้น เราก็อยู่นอกคลับ

แต่ทว่าอีกสามอันนั้น ชาวตะวันตกกลับไม่อาจครองความเป็นใหญ่ได้ ไม่ว่าจะพยายามเพียงไร ครั้งหนึ่งพยายามมาก ก็คือการล่าอาณานิคม ซึ่งประวัติศาสตร์ก็บอกแล้ว ว่าล้มเหลวอยู่ดี เหมือนกับว่า โดยธาตุแท้ สิ่งเหล่านั้น เป็นเรื่องของแต่ละประเทศ ไม่มีใครสามารถไปฝืนได้

๒

โลกของเราจึงวุ่นวาย สับสนเป็นอันมาก เพราะโดยเนื้อแท้ พวกเราแตกต่างกัน

ชาติที่เจริญพอ จะตั้งศูนย์ Scientific ของตัวเอง และมีพลังเอาการ คือจีน และรองลงไปคือ รัสเซีย อินเดีย ชาติเหล่านี้จึงเป็นชาติมหาอำนาจ แต่หากวัดกันจริงๆ ก็ยังเป็นรองโลกตะวันตก เพียงแต่อย่างน้อยเริ่มมองเห็นกันแล้ว

 

๓

วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๖ อินเดียส่งยานอวกาศไปดวงจันทร์ ลงที่ขั้วโลกใต้ และทำงาน ๑ วันของดวงจันทร์ ซึ่งเท่ากับ ๑๔ วันของโลก

น่าทึ่งว่าอินเดียกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว

สามารถเป็นชาติแรกที่ไปถึงขั้วโลกใต้ดวงจันทร์ ด้วยงบประมาณเพียงสองพันกว่าล้านบาท

จากความเพียรพยายามมาหลายปี ในที่สุดอินเดียก็ทำได้

จุดที่ยากที่สุด คือจุดเริ่มต้น

พอเริ่มต้นได้ ก็จะเริ่มง่ายขึ้น

ประชาชนชาวอินเดีย แรกเริ่มก็หัวเราะเยาะ ไม่เชื่อ

แต่พอเห็นผล ก็เปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม เกิดความภูมิใจ พร้อมจะสนับสนุน

พลังอันมหาศาล ก็ก่อกำเนิด

อินเดียพร้อมจะเข้าแข่งขันในการออกอวกาศ กับทุกชาติในโลก

๔

ชาติเล็กๆ อย่างชาติไทย เรายังห่างไกลในทาง Scientific

แต่ในอีกสามสิ่ง เราก็ยังเป็นตัวเรา ไม่มีใครมาเอาไทยเป็นทาสได้ ไม่อาจลบหลู่ เรายังมีความงามของตัวเรา มีเอกลักษณ์ ต่อให้พยายามเพียงไร ก็ทำอะไรไทยไม่ได้ นี้ไม่ใช่ความเก่งเฉพาะของคนไทย หากแต่เป็นเช่นนี้ทั้งโลก เราไม่อาจเล่นงานชาติใดใน

๑ Spiritual

๒ Cultural

๓ Political

และนี้คือความงามของมนุษย์

หากทำได้ มนุษย์ก็หมดความหมาย

แต่เพราะทำไม่ได้ โลกของเราจึงวุ่นวาย ปั่นป่วน โกลาหล

และเราคงหลีกเลี่ยงสงคราม ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้

 

๕

เห็นได้ชัด ในทางการแพทย์

ไทยเราเป็นหนึ่ง ไม่มีสอง

ชาวต่างชาติมากมาย ต้องมารักษาตัวในเมืองไทย

หากคุณป่วยไข้ คุณโชคดีมากที่เกิดมาเป็นคนไทย เพราะคุณสามารถพบแพทย์ ในโลกตะวันตก คุณอาจไม่สามารถแม้แต่จะพบแพทย์ เขาไม่ให้พบ

ไม่ได้หมายความว่าเทคโนโลยีของเราเหนือกว่าพวกเขา

เพราะที่จริงเทคโนโลยีทางการแพทย์ เราก็เรียนมาจากพวกเขา

แต่เราเหนือกว่า เพราะ

๑ Spiritual

๒ Cultural

๓ Political

เข้ามามีบทบาท

ชาวตะวันตกมีความเน่าเฟะภายใน มีความงมงายอย่างคาดไม่ถึง เวลาเจอกัน ตัวต่อตัว ฉันไม่เคยเห็นใครเหนือกว่าตัวฉันเลย เราก็พอๆ กัน สู้กันได้

ทำไมจึงยึดครองโลกนี้ไป แล้วตั้งคลับ

และหวงแหนตำแหน่งในคลับอย่างเหลือเกิน

๖

เห็นได้ชัด ใน ChatGPT ฉันเข้าไปใช้มัน เมื่อไม่กี่วันมานี่เอง ฉันรอหลายเดือนกว่าจะใช้ เพราะอยากให้ผู้คนเลิกเห่อมันเสียก่อน พอเข้าไปก็พบว่ามันก็ทำงานได้ดีพอสมควร แต่ก็ยังเป็นรอง Google มากมาย เรียกได้ว่ามีข้อมูลราว ๑ ใน ๑๐ ของ Google เท่านั้นเอง หรืออาจน้อยยิ่งกว่า

แต่ในการหาข้อมูลก็มีบางเรื่องสะดวกกว่าที่จะถาม ChatGPT

และกับบางเรื่องก็คุยสนุกดี

แต่หากมองลึกลงถึงความเป็นจริง

ทั้ง Google หรือ ChatGPT ก็ยังห่างไกล

ยังเป็นเบบี้ ที่ทำตัวเหมือนพระเจ้า

และนี้เอง ที่น่าเป็นห่วง

 

๗

แน่ละ ฉันทำใจ และยอมรับ

ไม่ว่าอะไร

ฉันก็อยู่แบบของฉันได้

ที่จริงมีความสุขดี

และทำงานต่อไป เท่าที่ตัวเองจะทำได้

หากเรามองดู

๑ Spiritual

๒ Cultural

๓ Political

เราจะเห็นว่า สภาวะของคลับนี้มันเป็นชั่วคราว

ไม่ใช่ความจริง

๘

สงครามรบกันถึงสี่แนว แต่บางคนคิดเฉพาะแนวเดียว

สงครามมีสี่มิติ

มองยังไงก็มองไม่ออก ว่าใครแพ้ใครชนะ

มองไม่ออก ว่าต้องรบกันนานเท่าไร

ทำอย่างไรจึงจะเลิกรบ

ใครจะมาห้ามได้

ห้ามได้หนึ่งแนว อีกสามแนวไม่เลิกรบ

ก็เปล่าประโยชน์

ต่อให้ห้ามได้สามแนว แต่ยังเหลืออีกหนึ่งแนวไม่เลิกรบ

ก็รบกันอยู่ดี