จุดยืนของอิหร่านต่อสถานการณ์ในปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง

นายซัยยิด เรซ่า โนบัคตี (H.E.Mr. Seyed Reza Nobakhti) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย ให้คำตอบว่า

“สถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองนั้นเป็นผลมาจากการปฏิเสธสิทธิในการตัดสินใจด้วยตนเองโดยชอบด้วยกฎหมายของชาวปาเลสไตน์มาอย่างยาวนาน อิสราเอลรุกรานชาวปาเลสไตน์และดินแดนของพวกเขา การดูหมิ่นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม รวมถึง อัล-อักซอ มัสยิด (al-Aqsa Mosque) และการก่อการร้ายอย่างต่อเนื่องของระบอบอิสราเอล”

“เป็นเวลากว่า 75 ปีแล้วที่ชาวปาเลสไตน์ตกเป็นเหยื่อของความก้าวร้าว ความรุนแรง การเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ และนโยบายการแบ่งแยกสีผิวอย่างไม่ลดละของระบอบอิสราเอล”

“การยึดครองที่ดินของพวกเขายังคงดำเนินต่อไปด้วยการปิดล้อมเมือง การทำลาย การริบทรัพย์สินและพื้นที่เพาะปลูก การบังคับอพยพผู้คนออกจากบ้านของพวกเขา ความโหดร้ายที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน ตลอดจนหลักการและบรรทัดฐานด้านสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการจัดตั้งขึ้น”

“การเข้ายึดครองและความโหดร้ายทารุณของอิสราเอลเป็นเรื่องจริงเพียงอย่างเดียวที่ชาวปาเลสไตน์ได้เผชิญมาหลายรุ่น จากการละเมิดบรรทัดฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้งของอิสราเอล”

“การห้ามอย่างชัดเจนในการครอบครองดินแดนด้วยการใช้กำลัง สิทธิโดยธรรมชาติในการตัดสินใจด้วยตนเอง การห้ามเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและการแบ่งแยกสีผิว ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนของการยึดครองดังกล่าว”

“เป็นที่น่าเสียใจที่ประชาคมระหว่างประเทศไม่ได้ตอบสนองอย่างเพียงพอ หรือถือว่าการละเมิดอย่างร้ายแรงเหล่านี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดความรับผิดชอบและความเงียบงันอันน่าอึดอัดของหน่วยงานสหประชาชาติ”

“คณะมนตรีความมั่นคงได้ปล่อยให้มติของสหประชาชาติที่มีมาหลายทศวรรษเป็นเพียงคำพูดบนกระดาษ ในขณะเดียวกับที่เรายังคงเป็นพยานถึงความโหดร้ายอย่างน่าสยดสยองที่กระทำต่อชาวปาเลสไตน์โดยระบอบอิสราเอล ทำให้ตระหนักถึงสิทธิโดยธรรมชาติในการป้องกันตนเองของชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ”

“สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านยังคงยืนหยัดในความเชื่อที่ว่า ปัญหาของปาเลสไตน์นั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการยุติการยึดครองเท่านั้น และตระหนักถึงสิทธิที่ไม่อาจแบ่งแยกในการตัดสินใจด้วยตนเองของชาวปาเลสไตน์ ผ่านการลงประชามติระดับชาติจากการมีส่วนร่วมของชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด ซึ่งจำเป็นต้องมีการฟื้นฟูและคุ้มครองสิทธิเหล่านี้อย่างเต็มที่”

“อันนำไปสู่การสถาปนาอธิปไตยของชาวปาเลสไตน์เหนือปาเลสไตน์ทั้งหมด”

“สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านยืนหยัดอย่างมั่นคงเบื้องหลังความปรารถนาของชาวปาเลสไตน์ และสนับสนุนความพยายามของกลุ่มต่อต้าน เพราะชาวปาเลสไตน์ถูกกดขี่ในการแสวงหาสิทธิโดยธรรมชาติและไม่อาจปฏิเสธได้ในการต่อต้านการยึดครองและการรุกราน การสนับสนุนนี้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติโดยสมบูรณ์ รวมถึงหลักการของสิทธิในการตัดสินใจด้วยตนเอง นี่จะเป็นจุดยืนหลักของอิหร่านจนกว่าการยึดครองจะสิ้นสุดลง”

“การตัดสินใจและมาตรการล่าสุดจากการต่อต้านของปาเลสไตน์มีรากฐานอย่างมั่นคงในหลักการพื้นฐานของการตัดสินใจด้วยตนเอง ซึ่งแสดงถึงการตอบสนองที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์ต่อการยึดครองอย่างกดขี่ตลอดเจ็ดทศวรรษ และความโหดร้ายมากมายที่กระทำโดยระบอบอิสราเอล”

“อิหร่านยืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับปาเลสไตน์อย่างแน่วแน่ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า อิหร่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตอบโต้ของปาเลสไตน์ เนื่องจากการกระทำเหล่านี้ถูกกำหนดโดยชาวปาเลสไตน์เอง ชาวปาเลสไตน์มีอิสระในการตัดสินใจเลือกในสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ตนเอง และใช้วิจารณญาณของตนเองในการกำหนดแนวทางปฏิบัติของตน”

“ในทางกลับกัน ระบอบอิสราเอลเกี่ยวพันกับการยึดครองและเป็นปฏิปักษ์อย่างไม่มีกำหนด เป็นการขับเคลื่อนอย่างจงใจของผู้ยึดครอง ซึ่งละเมิดสิทธิในการตัดสินใจของชาวปาเลสไตน์อย่างโจ่งแจ้ง การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงนี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ประชาคมระหว่างประเทศและรัฐสมาชิกของสหประชาชาติต้องรับผิดชอบและดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อยุติการยึดครองที่ผิดกฎหมายนี้ การแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป”

“บางรัฐจำเป็นต้องละทิ้งมาตรฐานแบบสองมาตรฐานของตนหากมีความปรารถนาและมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในการช่วยเหลือเหยื่อที่เกิดจากความขัดแย้งนี้ ความช่วยเหลือของพวกเขาจะต้องให้ความสำคัญกับเหยื่อที่แท้จริงมากกว่าผู้รุกรานที่ก่อเหตุ ดังเช่นในกรณีของความขัดแย้งอื่นๆ โดยแทนที่จะขยายความช่วยเหลือไปยังผู้รุกราน ควรส่งการสนับสนุนไปยังเหยื่อที่แท้จริงในปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องอดทนต่อการรุกราน และการยึดครองที่ยาวนานถึง 75 ปี”

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การที่รัฐบาลไซออนิสต์มุ่งเป้าไปที่ผู้บริสุทธิ์ โรงพยาบาล โรงเรียน โครงสร้างพื้นฐาน และบ้านเรือนอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 8,000 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กเล็ก นักเรียน และผู้หญิงมากกว่า 6,000 คน อีกทั้งกำลังพยายามขยายขอบเขตของสงครามโดยการชักจูงผู้อื่นให้เข้าสู่สงครามที่น่าสยดสยองและเพิ่มเครื่องมือแห่งความตายให้มากขึ้น”

“ทั้งนี้ เนื่องจากระบอบไซออนิสต์มีแนวคิดคลั่งไคล้เช่นเดียวกับนาซีเยอรมนีในทศวรรษ 1940 โดยมีความเชื่อว่า พวกเขาเป็นเชื้อชาติเดียวที่พระเจ้าเลือกสรร ส่วนคนอื่นๆ รวมถึงมุสลิม พุทธ คริสเตียน… ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับใช้ไซออนิสต์” ·

รายงานพิเศษ | ชนัดดา ชินะโยธิน

Chanadda Jinayodhin

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022