น้อยนิด

พิชัย แก้ววิชิต

สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาตินอกจากสายลมเและแสงแดด ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มักจะมาให้ผมรู้สึกได้อยู่บ้างเป็นบางเวลา ในวันที่ “ความกังวลแอบย่องเข้ามาด้วยความเงียบ” และผมมักจะทันสังเกตเห็นแขกไม่ได้รับเชิญได้อยู่เสมอ

และแน่นอนว่า ผมต้องเตือนตัวเองทุกครั้งกับความรู้สึกนี้ “ชีวิตวันข้างหน้าจะเป็นรูปแบบไหน?”

“จะใช้ชีวิตอยู่กับความสุ่มเสี่ยงของความไม่แน่นอนได้อย่างไร?”

ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีคำตอบที่แน่ชัดให้กับความกังวลใจ และดูจะไม่ใช่เวลาที่จะมาหาบทสรุปของคำถาม

ผมเลือกที่จะไม่น้อมรับ “ความกังวลที่แอบย่องเข้ามา”

และบอกกับตัวเองให้อยู่กับช่วงเวลาที่เรียกว่า “ตอนนี้” และ “หาทำ” ในสิ่งที่พอจะทำได้กับสิ่งที่มีอยู่ และใช้มันเป็นต้นทุนให้ชีวิต เพื่อหาผลกำไรแห่งความสุข

มันอาจไม่ได้ความสุขที่ใหญ่โตมโหฬาร แต่เป็นพียงความสุขอันน้อยนิดเพื่อให้ชีวิตอยู่ต่อกับวันนี้ด้วยความพอใจ

 

กับคนธรรมดาคนหนึ่ง มันเป็นเรื่องปกติของความอยากมี แต่ด้วยเพราะมันไม่เคยได้มาโดยตลอด แต่เพื่อความตลอดรอดฝั่งของชีวิต ผมจึงเลือกที่จะปรับตัว “ทำใจให้เข้ากับสิ่งที่ได้มา” แม้มันน้อยนิดแต่ก็มากพอกับความพอใจ

ระยะของความสุขกับผม ความสุขอาจไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลมากมายหลายพันหลายหมื่นไมล์ “ระยะทางอันน้อยนิดกับคนใกล้ชิดที่เข้าใจกัน” ก็เกินพอ

การมองหาความสุขให้ตัวเองอาจไม่จำต้องมองหาจากสุดขอบโลก บางครั้งระยะทางของการได้พบเจอกับความสุขมันอยู่ใกล้แค่เอื้อม กับคนที่อยู่เคียงบ่าเคียงใหล่ ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไปนิดจนมองไม่เห็นคนที่ตามหา

การแสวงหาแต่สุขเป็นสิ่งจำเป็น แต่จะสุขกับสิ่งไหนและอย่างไร คงต้องขึ้นตรงกับเงื่อนไขที่วางไว้ ความยากง่ายของแต่ละคนล้วนต่าง และแตกออกไปคนละทิศละทาง จะเลือกความสุขแบบน้อยนิดหรือสุขแบบมากมายมหาศาล คงต้องตีความตามใจกัน

เหตุผลของคนคนเดียวอาจไม่เหมาะกับใครอีกหลายๆ คน กับการที่จะเลือกมองหาความสุขในแบบของตัวเอง

การแสวงหาแต่สุขเป็นสิ่งจำเป็น แต่จะสุขกับสิ่งไหนและอย่างไร คงต้องขึ้นตรงกับเงื่อนไขที่วางไว้ ความยากง่ายของแต่ละคนล้วนต่าง และแตกออกไปคนละทิศละทาง จะเลือกความสุขแบบน้อยนิดหรือสุขแบบมากมายมหาศาล คงต้องตีความตามใจกัน เหตุผลของคนคนเดียวอาจไม่เหมาะกับใครอีกหลายๆ คน กับการที่จะเลือกมองหาความสุขในแบบของตัวเอง / เทคนิค : F.8 1/125s ISO200 / สถานที่ : ทองหล่อ ถนนเพชรบุรี

เพราะ “เวลามันน้อยนิด” การใช้ชีวิตอยู่ตรงกลาง ระหว่างเวลาที่ผ่านไปแล้ว และกับเวลาที่ยังมาไม่ถึง ท่ามกลางเวลาที่เรียกกันว่า “ปัจจุบัน” สำคัญที่สุด เพราะมันอาจเป็นช่วงเวลาแห่งการแก้ไข ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง หรือแม้กระทั่งตัวของตัวเอง ให้ดีขึ้นหรือแย่ลง มันอาจเป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์หรือทำลายล้าง

และแน่นอนที่สุด การกระทำแม้เพียงน้อยนิดในวันนี้ ย่อมส่งผลถึงวันพรุ่งนี้อย่างขาดเสียมิได้ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

การได้ใช้เวลาอันน้อยนิดของปัจจุบัน ทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุขจากแนวคิดที่สร้างสรรค์ได้ในตอนนี้ พรุ่งนี้จะมีอะไรที่จะต้องกลัวกันอีก

เรายังทันที่จะทำในสิ่งที่คุ้มกับคุณค่าทางใจของตัวเอง ความสุขความพอใจในแบบบ้านๆ แม้เพียงน้อยนิด กับเศษเสี้ยวของระหว่างวัน และมันก็อาจ “เติมใจให้เต็มอิ่ม” กับความรู้สึกดีๆ ที่จะให้กับตัวเองและไว้เผื่อคนรอบข้างได้อีกด้วย

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต