นายกฯ เศรษฐา-งานตำรวจ-คดีกำนันนก | วงค์ ตาวัน

วงค์ ตาวัน

แทบจะไม่มีใครเคยรู้จักชื่อ “กำนันนก” กำนันแห่งตำบลตาก้อง เมืองนครปฐม มาก่อนเลย จนกระทั่งมาเกิดเหตุสังหาร พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสังกัดทางหลวง ภายในงานเลี้ยง ที่บ้านพักของกำนัน จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต ลุกลามบานปลาย

ทำให้เรื่องราวของกำนันนกโดดเด่นขึ้นมา ชนิดเบียดข่าวรัฐบาลใหม่ ที่กำลังเริ่มตะลุยทำงานโชว์มาตรการด้านเศรษฐกิจมากมาย

ความโหดเหี้ยมของกำนันนก เรื่องราวอิทธิพลบารมีอันน่าตื่นตะลึง แถมเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนวงการตำรวจรุนแรง จึงทำให้เป็นข่าวใหญ่ เบียดข่าวรัฐบาลเศรษฐาจนต้องลดระดับลงไป

เพราะจุดเริ่มต้น ภายในงานเลี้ยงโต๊ะจีนดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้อยใหญ่กว่า 20 นาย มีระดับผู้กำกับฯ หลายนาย นั่งกันอยู่เต็ม เพียงแค่กำนันนกรู้สึกเสียหน้า เพราะโดนสารวัตรศิวกรกล่าวปฏิเสธคำขอย้ายตำรวจระดับจ่าที่เป็นหลานของกำนัน ให้ไปลงตำแหน่งสายตรวจรถจักรยานยนต์ของทางหลวง ถึงกับตบโต๊ะอย่างเดือดดาล

จากนั้นส่งสัญญาณให้นายหน่อง มือปืนคนสนิทเดินเข้าไปจ่อยิงสารวัตรทางหลวงหลายนัดอย่างอุกอาจ ท่ามกลางตำรวจนั่งกันเต็มโต๊ะจีน แถมรัวยิงจนกระสุนพลาดไปโดนนายตำรวจระดับรองผู้กำกับการ บาดเจ็บไปด้วย

ฆ่าสารวัตรทางหลวง ในงานเลี้ยง ต่อหน้าตำรวจมากมาย จึงกลายเป็นเหตุการณ์สั่นสะเทือน

ป่าวประจานให้เห็นว่า กำนันวัยหนุ่มแน่น เต็มไปด้วยความเหิมเกริม แถมยังมีตำรวจมาเข้าบ้าน คล้ายมาเป็นลูกน้องประดับบารมี จึงกล้าสั่งฆ่าตำรวจระดับสารวัตรได้ง่ายๆ

เป็นเหตุการณ์ทั้งเปิดเผยความยิ่งใหญ่ของกำนันวัยแค่ 30 เศษๆ เปิดโปงพฤติการณ์ตำรวจกลุ่มหนึ่ง ที่ไปนั่งร่วมงานเลี้ยง แล้วปล่อยให้นายหน่องผู้ลงมือยิงสารวัตรพร้อมด้วยกำนันนก คนสั่งฆ่า หลบหนีอย่างลอยนวลไปได้

จนกระทั่งต้องมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาตรวจสอบเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล 2 รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดชุดคอมมานโดออกตามล่า จนรุ่งเช้าถัดมา นายหน่อง มือปืนผู้ก่อเหตุ จึงถูกล่าจับตาย

เป็นไปตามคาด เมื่อก่อเหตุอุกอาจฆ่าตำรวจระดับสารวัตร ย่อมหนีไม่พ้นมาตรการเด็ดขาดจากตำรวจ

ส่วนกำนันนกชิงเข้ามอบตัว พร้อมกับเข้าห้องขังเรือนจำ โดยไม่ยอมยื่นขอประกันตัวออกมา อาจจะเห็นว่าอยู่ในคุกน่าจะปลอดภัยกว่า

แต่การสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิดบานปลายขยายวง มีตำรวจ 6 นายถูกดำเนินคดีฐานช่วยเหลือกำนันนกและนายหน่องให้หลบหนีหลังเกิดเหตุ

ตำรวจอีกหลายนายที่ไม่ได้ร่วมช่วยเหลือ ถูกสอบสวนว่าเข้าบ้านกำนันแบบไหน อย่างไร ถูกย้าย ถูกให้ออกกันระนาว

อาณาจักรเจ้าพ่อรุ่นใหม่ของนครปฐมถูกเปิดโปง พร้อมกับบรรดาตำรวจที่เข้าไปพัวพันถูกลงโทษกันครั้งใหญ่!

 

ความที่กำนันนกเป็นลูกน้องในสังกัดการเมืองใหญ่ในจังหวัด ทำให้มีอิทธิพลบารมี สามารถทำธุรกิจรับเหมาสร้างถนนได้มากมายหลายเส้น มีธุรกิจรถบรรทุกหลายร้อยคัน แต่เพราะเหตุการณ์นี้ ทำให้โดนตรวจสอบเบื้องหลังธุรกิจทั้งหมด น่าจะเข้าข่ายการฮั้วประมูลงานอันไม่ถูกต้อง ลงเอยอาจจะต้องโดนยึดทรัพย์ด้วย

ความยิ่งใหญ่ของกำนันนกทำให้มีตำรวจจำนวนหนึ่งเข้าไปพินอบพิเทา ทำตัวเป็นลูกน้อง กระทั่งได้รับผลประโยชน์ ซึ่งมีการตรวจพบเส้นทางเงินมัดแน่น

เมื่อย้อนกลับไปยังวันเกิดเหตุสังหารสารวัตรศิวกร ในวันนั้นมีผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.ต.ศิวกร โทร.ตามให้มาร่วมงานเลี้ยงที่บ้านกำนัน เพื่อให้ทำความรู้จักกับกำนัน

ส่วนหนึ่ง พ.ต.ต.ศิวกรเพิ่งย้ายมาไม่นาน มาตามนโยบายของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่รักษาการผู้การตำรวจทางหลวง เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพื่อภารกิจล้างส่วยสติ๊กเกอร์ จัดแถวตำรวจทางหลวงครั้งใหญ่

พ.ต.ต.ศิวกรจึงเป็นนายตำรวจที่ไม่รับเคลียร์รถบรรทุกนับร้อยคันของกำนันนก

เป็นปมปัญหาที่ค้างคาใจอยู่แล้ว เมื่อ พ.ต.ต.ศิวกรมาที่บ้านกำนันตามที่ผู้บังคับบัญชาเรียกให้มา ยังเกิดเรื่องทำให้กำนันเสียหน้าซ้ำ เพราะขอให้ย้ายจ่าผู้เป็นหลานชาย จากสายตรวจรถวิทยุ ไปเป็นสารวัตรรถจักรยานยนต์

เป็นที่รู้กันว่าสายตรวจรถจักรยานยนต์ทางหลวงนั้น จะได้ทำงานอิสระ ไม่ต้องรับภารกิจอื่น เรียกจับรถบรรทุกได้ทุกที่ รวมทั้งยังมานำขบวนให้กำนันได้สะดวก

แต่สารวัตรบอกให้รอคนเดิมครบเกษียณเสียก่อน ทำให้กำนันเสียหน้าและโมโห กลายเป็นชนวนเดือดเรื่องที่สอง ก่อนจะตามด้วยเรื่องที่สาม เมื่อมีการเปิดฉากดวลเหล้ากัน

นั่นเองจึงมีสัญญาณจากกำนันถึงนายหน่อง ก่อนจะลุกขึ้นมากระหน่ำยิงสารวัตรจนเสียชีวิต ทำให้เรื่องราวขยายใหญ่ เพราะความเหิมเกริมและสิ้นคิดของกำนันนก

รวมทั้งยังเป็นเหตุให้นายตำรวจระดับผู้กำกับ เจ้านายของสารวัตรศิวกร ตัดสินใจยิงตัวตายในเวลาต่อมา เพราะเครียดที่มีส่วนในการเรียกตัวสารวัตรให้มาที่บ้านกำนัน จนทำให้สารวัตรถูกฆ่า จึงรู้สึกผิด นำมาสู่การตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง ซึ่งยิ่งทำให้เรื่องนี้ยิ่งไปกันใหญ่

เหตุการณ์นี้จึงนำมาสู่การเอาผิดตำรวจที่ร่วมในเหตุการณ์ทั้งหมด การตรวจสอบธุรกิจของกำนันนก รวมทั้งการดำเนินคดีกำนันในข้อหาสั่งการฆ่า

ทั้งยังทำให้ระบบส่วยในวงการตำรวจ ระบบการพึ่งพาแอบอิงกันระหว่างตำรวจกับผู้มีอิทธิพลถูกหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์และต้องนำไปสู่การแก้ปัญหา

แน่นอนว่ายังมีผู้มีอิทธิพลแบบนี้อีกหลายราย อีกหลายพื้นที่ และยังมีตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสมไม่คำนึงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่อีกมากมายเช่นเดียวกัน

 

เหตุการณ์ผู้มีอิทธิพลที่ส่งผลเขย่าวงการตำรวจรายนี้ เป็นการต้อนรับรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ที่เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศ อีกทั้งนายกฯ เศรษฐาก็คุมงานตำรวจเอง ไม่ได้มอบหมายให้รองนายกฯ ไปดูแลแทน

ปลายเดือนกันยายนนี้นายกฯ เศรษฐา กำลังจะทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ก.ตร. เพื่อแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ รวมไปถึงพิจารณาบัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจประจำปีด้วย

จากนั้นจะต้องพิจารณาแต่งตั้งระดับ พ.ต.อ.ลงไปถึงสารวัตร

เป็นจังหวะอันดี ในการจัดแถวตำรวจครั้งใหญ่

ปมปัญหาคดีกำนันนก การสูญเสียตำรวจดีๆ และการเปิดหน้ากากตำรวจรับใช้มาเฟีย คงจะเป็นข้อมูลที่สำคัญประการหนึ่ง ให้นายกฯ เศรษฐาและทีมงานที่ปรึกษาด้านกิจการตำรวจ ได้นำไปพิจารณาในการแต่งตั้งตำรวจทั้งหมด ตั้งแต่ ผบ.ตร.ลงมาถึงสารวัตร

จะว่าไปแล้ว สำหรับวงการตำรวจ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านสืบสวนปราบปราม ที่จะต้องวางตัวในการเข้าถึงผู้คนในสังคมทุกแวดวง ต้องนำบทเรียนจากบ้านกำนันนก มาใช้เตือนสติให้ดี

ความที่ตำรวจงานด้านสืบสวน ปราบปรามโจรผู้ร้ายนั้น จะต้องวางตัวแบบเปิดกว้าง เข้าถึงกลุ่มคนในพื้นที่ได้ทุกกลุ่ม ไม่เว้นเจ้าพ่อมาเฟีย นักเลง มือปืน

บทเรียนจากกำนันนกบอกให้รู้ว่า ต้องยึดแนวทางการวางตัว โดยถือว่าตัวเองคือผู้ทักษ์สันติราษฎร์ การเข้าถึงคนในสังคมด้านมืด ต้องเป็นไปเพื่องานสืบสวนหาข่าว หาข้อมูล ไม่ใช่ใกล้ชิดแล้วหลงใหลในผลประโยชน์

แล้วสุดท้ายกลายเป็นคนสนิทเจ้าพ่อ หรือเป็นลูกน้องผู้รับใช้ผู้มีอิทธิพล

เพราะหากไปเจอผู้มีอิทธิพลอายุน้อยร้อยล้าน เหิมเกริมอย่างผิดปกติเช่นกำนันนก

กลายเป็นมีเรื่องมีราว ต้องหมดสิ้นอนาคต เผลอๆ โดนติดคุกติดตะรางไปด้วย!!