‘ครู’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
กวางป่า - ช่วงเวลาบ่าย สภาพอากาศร้อนอบอ้าว กวางจะมุ่งหน้ามาที่โป่งที่มีน้ำ ตำแหน่งของดวงตาที่อยู่ค่อนมาทางหู ช่วยให้มันสังเกตรอบๆ ได้โดยไม่ต้องเงยหน้า

งานของผมนั้น ส่วนใหญ่เป็นการทำงานคนเดียว แม้จะมีทีมที่อยู่ด้วยก็เถอะ แต่ตอนทำงานนั้น ผมจำเป็นต้องเฝ้ารออยู่ในซุ้มบังไพรคนเดียว ในยุคแรกๆ ผมอยู่ในซุ้มบังไพรตั้งแต่เช้ามืด ออกจากแคมป์ตอนฟ้ายังไม่สว่าง อยู่จนกระทั่งพลบค่ำ

แต่ในระยะหลัง ผมพบว่า บางทีความเงียบเหงาในโป่ง อันเป็นแหล่งอาหารสำคัญของเหล่าสัตว์ป่านั้น อาจเกิดขึ้นเพราะสัตว์สัมผัสได้ว่าผมอยู่ที่นั่น การระแวงของพวกมัน คือสูญเสียโอกาสในการกิน นั่นเรียกได้ว่า เป็นการรบกวนพวกมันอย่างไม่น่าให้อภัย

ในช่วงเช้า ผมจึงเปิดโอกาสให้สัตว์ป่าได้ใช้เวลาในโป่ง โดยไม่ต้องระแวง ส่วนผมจะเข้าไปตอนสายๆ อย่างน้อย พวกมันก็มีโอกาสได้กินน้ำ แร่ธาตุอย่างที่ต้องการบ้างแล้ว

มีความเกรงใจสัตว์ป่าจำเป็น สำหรับผม พวกมันคือครู

 

ทํางานคนเดียว แต่ในซุ้มบังไพร ผมไม่ได้อยู่เพียงลำพัง

เพราะซุ้มบังไพรที่ใช้นั้น แม้ว่าจะออกแบบมาให้มิดชิด แต่ดูเหมือนมันจะป้องกันยุง หรือแมลงไม่ได้สักเท่าไหร่

เมื่อซุ้มบังไพรไม่มิดชิด สิ่งที่ต้องพบตลอดเวลา คือแมลงต่างๆ สารพัด ทั้งที่มาแบบใจดี และใจร้าย

งู เป็นเจ้าประจำ ผมแก้ไขโดยเอาใบไม้แห้งมาโรยรอบๆ เพื่อเวลางูเลื้อยเข้ามาใกล้ จะรู้ตัวก่อน มีเวลาโยนเศษไม้เล็กๆ ให้งูรู้ว่ามีคนอยู่แถวนั้น ส่วนใหญ่งูไม่ดื้อนักหรอก ถ้ารู้ว่ามีคนอยู่ มันจะไม่เข้ามา

ที่เรียกว่าเป็นปัญหาบ้าง คือ ยุง เหลือบ ริ้น รวมทั้งมดชนิดต่างๆ นี่แหละ

 

หมวกและเสื้อแขนยาว ช่วยได้บ้าง ริ้นมักบินตอมบริเวณดวงตา คอยใช้มือปัดเอา

ผึ้งไม่ใช่ปัญหา ปล่อยให้ตอมไปเถอะ นอกจากเมื่อมันคลานเข้าไปในเสื้อหรือกางเกง ต้องค่อยๆ ขยับเสื้อผ้าให้มีช่องว่าง ผึ้งจะได้คลานออกมาง่ายๆ ปกติแล้วผึ้งไม่อยู่ทั้งวัน อาจมาเฉพาะช่วงแดดแรงๆ

สิ่งที่ทำให้นั่งไม่เป็นสุขสักเท่าใดนักคือ มด

มดดำตัวใหญ่ๆ ไม่เป็นไร มดคันไฟตัวเล็กๆ นี่แหละร้ายนัก

กลิ่นอาหารกลางวัน เรียกพวกมันมา ถึงจะใส่กล่องมิดชิด มดก็สัมผัสได้

ข้าวแค่เมล็ดเดียว หรือเศษเล็กๆ ขนมปัง ทำให้บนพื้นเต็มไปด้วยมด

ผมใช้วิธีเอาเศษอาหารไปวางไว้มุมซุ้มบังไพร เบนความสนใจมด ให้ไปรวมกันที่นั่น วิธีนี้แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่จะมีมดอีกไม่น้อย ไต่ขึ้นตามตัว และกัด

 

โดยประสบการณ์ ผมพบว่า ระหว่างนั่งอยู่ในซุ้มบังไพรนั้น มดแดงคือมิตร ที่ช่วยเหลือได้มาก ถ้ามีมดแดงเข้ามา ปัญหาเรื่องแมลงหมดไป เพราะมดแดงจะจัดการหมด

ตัวเหลือบกัดเจ็บมาก พวกมันมักบิน และไปเกาะตามมุมซุ้ม

มดแดงส่วนหนึ่งที่ผมเรียกว่า ชุดล่าสังหาร จะไปคอยอยู่ตามมุมด้วย พอมีแมลงบินมาใกล้ๆ มดแดงจะกัดไม่ปล่อย โดยวิธีดึงขาไว้ก่อน ตัวหนึ่งดึงไว้ได้ พรรคพวกจะรีบมาช่วยอย่างเร็ว รุมกัดพักเดียว แมลงตัวโตๆ นิ่งเงียบไป นั่นถึงเวลาของเหล่ามดงาน หรือมดลูกน้องมานำเหยื่อไปไว้ในที่เก็บอาหารต่อไป

ข้อดี มีมดแดงคือ มดแดงจะไม่กัด ถ้าไม่ทำร้ายพวกมันก่อน และมดแดงไม่อยู่ตามพื้น จะไต่ขึ้นไปบนๆ และตามมุม จึงไม่เป็นปัญหา

อีกประการที่ผมสังเกตเห็น ถ้ามีมดแดง มดอื่นๆ จะไม่ค่อยเข้ามาในบริเวณนั้น

อยู่ในซุ้มบังไพร ผมได้รับโอกาสเป็นมิตร และได้รับความช่วยเหลือจากมดแดง

ช่วยให้มีสมาธิกับการเรียนจากครู ที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาสอน

กวางป่า – ช่วงเวลาบ่าย สภาพอากาศร้อนอบอ้าว กวางจะมุ่งหน้ามาที่โป่งที่มีน้ำ ตำแหน่งของดวงตาที่อยู่ค่อนมาทางหู ช่วยให้มันสังเกตรอบๆ ได้โดยไม่ต้องเงยหน้า

ว่าตามจริง ทำงานในป่า ผมมีผู้ช่วยเหลือมากมาย

การส่งเสียงร้องของกระรอก ผู้ซึ่งมีอาชีพเป็นยามประจำป่า กระรอกร้องเตือน ทำให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีสัตว์ผู้ล่า หรือสัตว์ใหญ่เข้ามา

เก้งเป็นสัตว์ที่มีประสาทระวังภัยสูง และขี้ระแวง เป็นอีกชนิดที่ช่วยได้มาก

ดังนั้น จำเป็นต้องระมัดระวัง ไม่ทำให้เก้งระแวง จะมีโอกาสที่สัตว์อื่นๆ ซึ่งดูสัญญาณจากเก้ง รู้ว่าบริเวณนั้นไม่มีอันตราย

 

มีผู้ช่วยเหลือมากมาย เราจะพบได้เพียงเปิดหัวใจ เรียนรู้ ทำความเข้าใจกับภาษาที่เหล่าสัตว์ป่าสื่อสารกัน

แม้ว่าถึงที่สุด ผมจะเป็นสิ่งแปลกปลอม สัตว์ทุกตัวจะตื่นหนี ถ้าสัมผัสได้ว่าผมอยู่ที่นั่น

การซ่อนตัวอย่างมิดชิด เป็นการขออนุญาตอยู่ที่นั่นแบบหนึ่ง

แอบฟังอย่างเข้าใจ ในสิ่งที่พวกมันสื่อสารกัน ช่วยให้ได้งานที่ดีบ้าง

 

ผู้ช่วยเหลือ ช่วยให้ผมมีสมาธิกับการรับบทเรียน

ให้ความรู้ คล้ายเป็นพวกเดียวกัน

ผมเรียกสัตว์ป่าว่าครู และคิดว่า เข้าใจในวิถีที่พวกมันดำเนินอยู่บ้าง

หลายครั้ง ผมพบว่า แค่เพียงได้กลิ่นกายผม

เหล่าสัตว์ป่าก็พากันตื่นหนี แต่หลายครั้งก็ได้อยู่ใกล้แบบเอื้อมมือถึง

ในขณะที่คิดว่าเข้าใจครู แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่า เอาเข้าจริงแล้ว

“ครู” รู้สึกกับผมอย่างไร •

 

หลังเลนส์ในดงลึก | ปริญญากร วรวรรณ