เสียงของความห่วงใย…เพื่อพวกเรา | เรื่องสั้น : วัฒนพงษ์ แก้วนาพันธ์

เรื่องสั้น | วัฒนพงษ์ แก้วนาพันธ์

เสียงของความห่วงใย…เพื่อพวกเรา

 

-1-

เสียงของความห่วงใยกลัวผมไม่ได้ไปงานผ้าป่าห้องสมุดโรงเรียน ผมตอบอย่างติดตลกว่านอนเฝ้าบ้านก็ได้ สภาพจริงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ เพื่อหนังสติ๊กอันใหม่ทำให้ผมเสี่ยงชีวิต ก็พ่อเป็นคนบอกเองว่าง่ามไม้มะขามเหมาะแก่การทำหนังสติ๊กที่สุด ความลับเผย แม่เลยดุพ่อ ไม่เป็นไรหรอกพ่อ เจ็บแค่นี้เอง ไม่มีอะไรแตกหัก แค่ช้ำบวมบางแห่ง

หน้าตาของแม่ดูมีความสุขมากเลยพ่อ มือถือถังใส่ต้นผ้าป่า ไม้สวรรค์ติดเงินเสียบเต็มต้นกล้วยน้อย ไล่ขึ้นไปเป็นเงินใบสีเขียวเยอะที่สุด ใบสีแดง และใบสีเทาอยู่ยอด ยอดผ้าป่าจากสายของพ่อไม่น้อยหน้าใครเลย ได้ตั้งหลายหมื่น ผมจำยอดเงินเป๊ะๆ ไม่ได้ เสียงครูประกาศชื่อพ่อชื่อแม่ดังก้อง วันนั้นใครจะล้อชื่อพ่อแม่ก็ช่างมัน ผมไม่สนใจ

ผอ.โรงเรียนอนุโมทนาขอบพระคุณอย่างอ่อนหวาน ยอดรวมได้หลายแสน พอสร้างห้องสมุดซื้อหนังสือแน่นอนครับ ท่านว่าจะเอาไปสมทบกับเงินหลวง

ก็ไอ้นั่นมันด่าผมก่อนว่าไอ้ลูกไม่มีพ่อ หน้ามืดสิครับ รู้ตัวอีกที ผมอยู่หน้าโต๊ะครูกับคู่กรณีแล้ว ไม่ได้เก่งมาจากไหนหรอก มันหยามกันเกินไป ตอนนั้นไม่มีสติเลย อ่อนแออีกแล้ว ทำไม่ได้เหมือนรับปากพ่อไว้ “คนอ่อนแอให้อภัยใครไม่ได้หรอก” ทั้งอ่อนแอและอ่อนหัด เปิดก่อน แต่โดนซัดจังๆ ห้าหกหมัด ยังดีที่ได้คืนสองที

สาเหตุมาจากผม หลังจากนั้นหลายเดือนเราก็กอดคอเล่าความจริงให้กันฟัง เพราะผมไม่แบ่งขนมให้มันกิน พ่อส่งเงินมาให้ แม่ใจดีให้ค่าขนมหลายบาท ยาปากยาไส้ให้ชุ่มฉ่ำบ้าง วันนั้นผมเลยเป็นเศรษฐีใหม่ โดยหารู้ไม่ว่าจะเป็นเหตุของการชกต่อยในวันต่อมา ซื้อกินไม่พอ ยังหน้าใหญ่ใจดีแจกเพื่อนกิน ไม่ให้ไอ้นั่นเพราะวันก่อนหน้านั้นมันไม่ให้ผมลอกการบ้าน ให้คนอื่นลอกกันถ้วนหน้า มันบอกทีหลังว่าที่ให้คนอื่นลอกเพราะไอ้พวกนั้นมันเรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง สงสารพวกมัน มันกลัวผมจะเกินหน้าเกินตาได้คะแนนเยอะกว่า ใช่! เราสองคนแอบแข่งกันเงียบๆ ผมเข้มแข็งพอหรือยังพ่อ ทุกวันนี้ไอ้นั่นเป็นเพื่อนรักผมแล้ว ให้อภัยทุกอย่าง ขอโทษต่อหน้าและจับมือกัน

ส่งพ่อขึ้นรถแล้วกลับบ้าน ถึงห้อง ไม่รู้อะไรดลใจน้อง ร้องไห้จ้าขึ้นมา หาพ่อๆ แม่ก็ปลอบใจ พ่อไปทำงานๆ ก็ยังหาพ่อๆ คนปลอบเลยเสียจริต อดไม่ไหว ปล่อยเสียงและน้ำตาออกมาแข่งกันยกใหญ่ ทำผมร้องด้วย ใครจะทนได้ ไม่รู้อีกกี่ปีพ่อจะกลับ ไม่ได้แช่งพ่อนะครับ เข้าใจผมด้วย ไม่รู้ว่าพ่อจะกลับมาตัวเป็นๆ ให้ผมได้กอด ขี่คอ และเดินตามหลังบนคันนาวันไหน

น้องคงตกใจมาก ไม่เคยเห็นทั้งบ้านเป็นอย่างนี้พร้อมกัน หยุดร้อง มองคนนั้นทีคนนี้ที เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ปกติในบ้านจะเป็นน้องคนเดียวที่ร้องไห้จ้า ให้คนอื่นโอ๋ วันนั้นพากันร้องทั้งบ้าน เราสามคนแม่ลูกกอดกันร้องอยู่นาน แม่ได้สติก่อน ห้ามใจตัวเองได้ บอกว่าพอแล้วลูก พอแล้วครับ พ่อไปหาเงิน ต่อไปเราจะมีรถขับ บ้านหลังใหญ่ ลูกๆ จะมีขนมอร่อยๆ กินเยอะเลย

ถึงยังงั้น แม่ก็ยังสะอื้นไม่หยุด ห้ามลูกห้ามตัวเอง แม่เก่งมากเลยนะครับพ่อ ภาพในวันนั้นทำให้ผมระลึกเสมอว่าต้องช่วยเหลือคนในครอบครัวตอนลำบาก ถึงยากเย็นแสนเข็ญผมจะไม่ยอมแพ้

เมื่อทุกคนเย็นลงแล้ว แม่บอกให้พวกเราช่วยกันจัดห้องนอนใหม่ คงพยายามเก็บสิ่งของที่เกี่ยวกับพ่อ ไม่ได้ทิ้ง เปลี่ยนที่อยู่ของสิ่งเหล่านั้น ไม่ให้มันทิ่มแทงดวงตาและดวงใจ เปลี่ยนมุมเล่นมุมนอนใหม่ เผื่อคลายคิดถึงภาพเก่าๆ ตอนพ่อยังอยู่กับเราได้บ้าง

 

-2-

ต้องไขว่คว้าสิ่งที่ไม่มี เพื่อการเดินตามผู้อื่นและดูแลผู้อื่น อาจง่ายสำหรับผู้สร้างเงื่อนไข คนเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องรับรู้ความรู้สึกผู้อยู่ใต้เงื่อนไข สิ่งที่ต้องหามาเพื่อดำรงบางอย่างในหัวใจ เพื่อผลิรอยยิ้มจากคนในครอบครัว ผู้อยู่เคียงข้างที่เติมเต็มให้เรา

การพลัดพรากเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่เราต้องจำยอม เป็นนิรันดร์ของการเกิดเป็นคนอยู่แล้ว เข้าใจ คุณจำใจดำเนินตามสิ่งที่มันจำเป็น คุณต้องลักลอบเข้าเมืองอื่นเหมือนการปกปิดความลับหรือของลับตัวเอง ปลอบใจตัวเองให้มั่นคง อย่าหวั่นไหวกับสิ่งภายนอก อย่าให้มันกวนตะกอนใจขุ่น บอกหัวใจว่าอย่าเต้นเร็ว ระงับกึกก้องในอกให้ได้ ภาวนาดวงหน้าของบุคคลอันเป็นที่รักไว้ เพื่อบุคคลเหล่านี้ คุณจึงมุดอยู่ในความมืดดำของการทำผิด คุณจะไม่แบกคำของคนร่วมประเทศ วาทะที่ว่าคุณไม่ได้ไปคนเดียว คุณแบกชื่อเสียงและชื่อเสียของประเทศไปด้วย คุณทำดีประเทศจะเชิดชูคุณ ตรงกันข้าม ถ้าทำชั่วหรือผิดพลาด พวกเขาจะสาปแช่ง สมน้ำหน้าและเสือกไสไล่ส่งคุณ หาว่าคุณเป็นคนเนรคุณชาติบ้านเมือง ทั้งที่เมื่อคุณทุกข์ยากลำบากเป็นหนี้สินจะเป็นจะตาย ไม่มีมนุษย์หน้าไหนหอบเงินมาให้ หรือยื่นมือช่วยเหลือคุณสักคน อย่างดีที่สุดคือคำปลอบใจกรอกหูว่าให้พออยู่พอกิน อย่าได้ทะเยอทะยานเกินตัว ใครมันจะไม่อยากอยู่ดีกินดีบ้าง คุณตอกหน้าพวกนั้นไป ไม่ดิ้นรนก็อดตายสิ มีมือมีตีน

งานแรกในหน้าหนาวทำคุณแทบตาย คนจากประเทศร้อนชื้นมาสัมผัสความหนาวเย็น เย็นชนิดแทบแข็งทั้งตัว คุณยิ้มสมน้ำหน้าตัวเอง เสียงร้องหาพ่อแก้วแม่แก้วก้องในใจ เจ้าประคุณเอ๋ย! ไม่คิดว่าจะเย็นเยียบเข้าไปในกระดูกปานนี้ ลังเลว่าตัวเองเลือกถูกหรือผิด แค่คุณเหยียบประเทศเขาก็เสียเงินแล้ว ค่ารถไม่น้อยเลยสำหรับการโดยสารจากภาคกลางไปภาคเหนือ จำเป็นต้องยอม จำไม่ได้ว่าหยุดร้องไห้ตอนไหน น้ำตาไม่เลือกอายุ ไม่เลือกคน จะเป็นหญิงสาวอ้อนแอ้นอรชรหรือชายฉกรรจ์อายุสี่สิบกว่าอย่างคุณ ระบายออกนำพาของเสียจากหัวใจทิ้ง รู้สึกตัวเมื่อตื่นคืนแรกต่างถิ่น ตาปูด แต่คุณไม่อาย

งานไม่ซับซ้อน ใช้แรงงาน ไม่ต้องใช้ความคิดหัวสมองมาก กำลัง/ความอึด/การยืนระยะสำคัญที่สุด ทำเยอะได้เงินเยอะ เสร็จงานรับค่าจ้างตอนเย็น ถ้าตีเป็นเงินไทยจะได้เกือบสามพันบาท ถ้าได้อย่างนี้ทุกวันทางบ้านคงไม่อดอยากแล้ว กลับห้องมานอนกอดเงินต่างบ้านต่างเมืองครั้งแรกในชีวิต น้ำอุ่นพูนล้นหน่วยตาอีกแล้ว คิดถึงหรือเปี่ยมปีติ หรือส่วนผสมทั้งสองอย่างทำคุณอ่อนไหว อารมณ์นั้นทำคุณไม่หิวข้าวเย็น เงินที่แลกมาจากการผจญหนาว มือตึงแดง ขนาดมือกร้านๆ สวมถุงมือยังไม่ช่วยอะไรเลย หูชา แม่คะนิ้งจับตัวเป็นน้ำแข็งค้างในหัวไชเท้า หัวอวบขาวที่คุณดึงขึ้นมาจากดิน มือปวดแสบเริ่มล้า อย่างไรเสีย คุณยังอยากให้มีงานอีกร้อยไร่พันไร่ เยอะกว่านี้ก็ไม่กลัว มาเลย จะตายให้ตายคาหัวไชเท้านี่ ทำอยู่บ้านเหนื่อยกว่านี้อีก ไม่เห็นได้เท่านี้เลย เพราะคุณไม่ขยันหรือ ไม่อยากตอบตัวเอง คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นในหัวเป็นล้านครั้งแล้ว รีบขจัดออกจากหัว แล้วออกแรงให้เหนื่อย จะไม่ต้องคิดมาก ที่บ้านแดดแรง ที่นี่หนาวเย็นอย่างแรง กรำชะตากรรมเหมือนกัน ต่างกันตรงผลลัพธ์

ในฝันคุณเห็นตัวเองหาบเงินเต็มกระบุงกลับบ้าน แม่ลูกเมียยืนยิ้มรับทาง ผายมือให้ดูบ้านที่ส่งเงินมาสร้าง วัวควายเต็มคอก ลูกคนเล็กขี่ควายน้อยอยู่ใกล้ ไม่มีเสียงออกจากปาก หัวใจคับหนักอกจะตายแล้ว ภาพสุดท้ายคืออ้อมกอดทั้งครอบครัว

สะดุ้งตื่น อยากให้ภาพเหล่านั้นเป็นความจริง คุณคิดจะซื้อทองให้เมียใส่เต็มคอเต็มแขน

 

-3-

พี่ ฉันจะหางานทำในตัวอำเภอ ส่งเจ้าพี่ชายเข้าโรงเรียนแล้วจะเตลิดไปทำงานเลย ดีไหม แล้วน้องชายล่ะ ให้ยายเลี้ยงก็ได้ ยายพอดูแลได้แล้ว ทำไมเงินไม่พอใช้รึ เงินที่พี่ส่งมา ฉันจะทยอยใช้หนี้บางส่วน เก็บออมบางส่วน ไม่เอามาใช้อยู่ใช้กินหรอก พี่ก็รู้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน ไม่รู้จักเก็บออมจะแย่วันข้างหน้า พี่ว่าที่ส่งให้ก็หลายเงินอยู่นะ ทำไมจะไม่พอ ไม่ใช่ไม่พอ ถ้าพี่ถูกจับส่งกลับบ้านล่ะ มันจะเป็นยังไง ได้ข่าวว่าตอนนี้ ตม.ทางนู้นเข้มงวด เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน แต่จะหางานยังไงล่ะ จะทำอะไร นอกจากทำไร่ทำนาแล้ว จะหารายได้เสริมจากไหน งานบ้านเรายิ่งหายากอยู่นา ฉันเข้ากลุ่มเฟซบุ๊กคนในอำเภอเรา กลุ่มใหญ่อยู่ เปิดกลุ่มค้าขายและคุยกันเรื่องทั่วไป เห็นบางคนแนะนำตัวโพสต์หางาน สมัครงาน บางทีเจ้าของกิจการอยากได้คนงาน เขาก็โพสต์หา บอกรายละเอียดงาน เขาก็ได้คนได้งานทำอยู่นะ แล้วจะทำได้เหรอ ทำได้หรือไม่ได้ไม่รู้หรอก จะลองดู อยากช่วยพี่บ้าง เลี้ยงลูกอยู่บ้านก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าช่วยกันหาห้าหาสิบจะดีกว่านี้ ไม่ต้องห่วงหรอก ยายดูแลน้องชายได้แน่นอน ไอ้หนูก็โตบ้างแล้ว มีเรื่องเร่งด่วน ยายก็โทรหาฉันได้ พี่เห็นด้วยอยู่นะ แล้วหนูจะหางานได้หรือเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน จะลองดูนะ ลองโพสต์หาเหมือนที่เขาทำ เผื่อมีงานที่สนใจพอทำได้ ต้องขับรถไป-กลับตั้งหลายกิโล จะไม่เปลืองน้ำมันแย่เหรอ หาก่อนนะพี่ คิดก่อนว่าคุ้มค่าไหม ถ้าไม่ดีไม่คุ้มก็ไม่เอา อยู่บ้านเหมือนเดิม ไม่ต้องไปให้เปลืองหรอกเนาะ เอ้า! ลองดู เผื่อได้ ขอบคุณมากนะหนู พี่คิดถึงทุกคนนะ

เหนื่อยเหมือนกันแหละพี่ แต่คงไม่เท่าพี่หรอก งานที่นู้นเป็นไงบ้าง งานไม่ยากหรอก พอทำได้ ไหวอยู่จ้า สบายๆ ปากบอกว่าสบาย แต่ทำไมทำหน้ายังงั้น เอาดีๆ สิพี่ เป็นไงบ้าง พี่ไม่เคยโกหกหนูได้เลยนะ จับได้ทุกที ไม่ต้องห่วงพี่หรอกนา ให้หนูดูแลลูกดีๆ ก็พอ แล้วงานเธอล่ะ ไหวไหม ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องมาพูดเรื่องหนูเลย เอาเรื่องพี่ก่อน ก็เรื่อยๆ นะ มีหนัก มีพัก มีเบา ทำได้อยู่หรอกนา ไม่ต้องห่วง ยังไหวๆ บางงานยังไม่ชินเท่านั้นเอง อีกหน่อยก็ปรับตัวได้แล้ว ใช้เวลาหน่อย

วันนี้พี่ชายมาจากโรงเรียน เอาฎีกาผ้าป่าโรงเรียนมาให้ บอกว่า ผอ.โรงเรียนจะสร้างห้องสมุดใหม่ บอกบุญมา พี่ว่าไง ก็ดีนะ ทำบุญ มีรายละเอียดยังไงบ้างล่ะ หนูอ่านคร่าวๆ เขาว่าขอรายชื่อกรรมการผ้าป่า พี่เอาไหม หนูจะได้บอกเจ้าพี่ชายเลย เอาอย่างนี้ พี่จะหารายชื่อกรรมการเป็นสายผ้าป่าของเราเลย ดีไหม หนูว่าไง จะดีเหรอพี่ พี่จะไม่ลำบากแย่เหรอ ได้ๆ ไม่มีปัญหา พอรู้จักคนไทยอยู่ คนทางบ้านอาจไม่เห็นภาพ ที่นี่ บางที่คนไทยอยู่เป็นชุมชน งานผ้าป่ามีแทบทุกเดือน ขนาดนั้นเลยเหรอ ใช่! พี่ยังไปช่วยเขาเลย เป็นกรรมการผ้าป่าสองงานแล้ว พี่เลยคิดว่างานเขาเราก็ช่วย งานเราเขาคงช่วยบ้าง อีกอย่างงานนี้ก็เป็นงานของโรงเรียนบ้านเกิดเรา ใจพี่เลยอยากช่วย เราเคยได้อาศัยเรียนโรงเรียนนี้ ตอนนี้ลูกชายเราก็เรียนเหมือนเรา ไม่ช่วยกัน แล้วใครจะช่วย ดีเหมือนกันพี่ ตามวันและเวลานี้เลยนะพี่ คิดถึงนะ วันนี้แค่นี้ก่อน อ้าว! ยังไม่หายคิดถึงเลย จะวางสายแล้วเหรอ จ้ะ! พี่ วันนี้หนูเหนื่อยจ้ะ! คิดถึงและรักทุกคนเหมือนเดิมนะ

น้องชายไข้อีกแล้วพี่ ไข้สูงไหม สูง! พาไปหาหมอ อากาศเปลี่ยน เด็กน้อยปรับตัวไม่ทัน กลางคืนเช็ดตัวแล้วไข้ก็ไม่ลง งั้นต้องรีบไปหาหมอเลย หนูเพิ่งกลับจากงาน งานก็เหนื่อย นึกว่าซื้อยากินจะหาย ยายก็ว่าทั้งกินทั้งเช็ดตัว ตัวร้อนเหมือนเดิม แล้วทำไมยายไม่โทร.บอกหนูตั้งแต่วันๆ ล่ะ ไม่อยากกวนหนูทำงานมั้ง หนูก็บ่นให้ฟังเรื่อยว่างานหนัก เธอก็…อะไรไม่ควรพูดก็ไม่ต้องพูดมากก็ได้ อ้าว! พี่มาว่าหนูยังงี้ได้ไง ก็แค่บ่นเฉยๆ คนมันเหนื่อยหนิ ก็ไม่ได้ว่าอะไร นี่แหละๆ ว่าอยู่เนี่ย คนยิ่งเหนื่อยๆ อยู่ ลูกก็ต้องพาไปหาหมออีก ใจเย็นหน่อยสิหนู งั้นแค่นี้ก่อนนะ รีบพาลูกไปหาหมอ อาการเป็นยังไงบอกพี่ด้วย

เออ!

 

-4-

เหมือนทุกที่ที่คุณเคยไป เหมือนทุกที่ที่คุณเคยอยู่ ความไม่คุ้นเคย การไม่คุ้นชินผู้คนสถานที่ทำให้คุณหวาดระแวง ทำให้คุณสวมหน้ากาก ไม่เริ่มต้นทำสิ่งที่คุณควรทำ นั่นแหละกลายเป็นกำแพงปิดกั้นคนอื่นไม่ให้เข้าถึงคุณ หน้าตา ภาษาและท่าทาง ลำพังภายนอกก็ทำให้คุณหวาดระแวงแล้ว ใครคิดยังไง เป็นโจทย์ที่ยาก สันดานแท้ของคุณบอกให้อ่อนไว้ก่อน ตั้งรับฝ่ายตรงข้ามที่เข้าหา ค่อยปรับตัวเอาว่าจะเข้าหาต่อไปหรือหยุดสัมพันธ์แค่นี้

มือที่กำสายสะพายกระเป๋าหมาดเหงื่อ สนามบินนานาชาติอันยิ่งใหญ่และเยียบเย็นไม่สามารถหยุดยั้งการผลิตเหงื่อจากมือคุณได้ หว่านล้อมตัวเองว่าเดินอีกไม่กี่ก้าวก็พ้นแล้ว คิดไปถึงคุณพระคุณเจ้า สมองบอกขาที่สับจ้ำอ้าวให้ชะลอ จะเป็นที่ผิดสังเกต เดินให้เข้ากับหมู่พวกก็พอ นึกถึงเรื่องตลกเปิ่นๆ โง่ๆ ที่เคยทำ ให้เรื่องเหล่านั้นแสดงออกทางใบหน้า เอาเรื่องน่าอายก็ได้ ทำกับเพื่อน กับครูหรือพ่อแม่ ทำไม่ได้แล้ว นี่ก็เป็นการทำเรื่องผิดหนักหนา ถ้าถูกจับได้ล่ะ จะทำไง จะเอาเงินจากไหนคืนที่กู้เขามา ลูกเมียพ่อแม่พี่น้องจะอยู่ยังไง

เสียงต่างภาษาเรียก คุณสะดุ้ง ไม่กล้าหันไปมอง กล่อมประสาทว่าไม่มีอะไร หายใจเข้าลึกๆ หันคอกลับไปหาเสียง เก็บอาการโล่งไว้ เขาเรียกคนอื่น ไม่ใช่คุณ หลอนไปเอง ก็ได้ยินเหมือนตะคอกใส่หู คนบ้านเมืองนี้คงพูดเสียงดังอย่างนี้เอง คุณกระหยิ่มแล้วรีบตามก้นเพื่อนออกมา

เงินที่ติดตัวมาเริ่มร่อยหรอ ทำให้คุณไม่ไว้ใจสถานการณ์รอบตัว คิดไปสะระตะ การอยู่ การกิน การพูด การทำงาน การวางตัว ระแวงหน้าระวังหลัง ภายในหุบเขาการเกษตร ล้อมรอบไปด้วยภูน้อยใหญ่ ถ้าต้องหนี จะหนีไปทางไหน พูดก็ไม่รู้เรื่อง รู้แต่โฮบบายซีบาย จะโดยจะเดี๊ยะ หนาวก็หนาว ไม่รู้จะไปนอนตายที่ไหน ทำให้คุณเตรียมความพร้อมเพื่อสถานการณ์ฉุกเฉินตลอดเวลา

เหตุการณ์นั้นจะเป็นภาพจำตลอดชีวิต ยังไม่กล้าบอกเมีย ห่วงทางบ้านตกใจ มีแต่คนขวัญอ่อน อีกอย่างคือยังระงับตัวเองไม่ได้ ยังไม่พร้อมให้ข้อมูล ขอเวลาเรียบเรียงตั้งแต่ต้นจนจบให้ตัวเองเข้าใจเสียก่อน

เพราะบุญเก่าทำให้คุณปวดฉี่ ชวนกันไปเป็นเพื่อนสองคน อากาศหนาวก็มีส่วน อยากอู้ก็ใช่ พักบ้าง โหมหลายวันแล้ว ตึงๆ ไปทั้งตัว หลบที่ไหนก็ได้ ให้พ้นจากสายตาของคนอื่น

ตอนแรกจะไปหลบ แต่กลับเป็นการได้เห็นทัศนียภาพนี้เป็นครั้งสุดท้าย

เมื่อคุณจะกลับมาเข้างาน ขบวนรถและเครื่องแบบอันเป็นอริของคุณปรากฏ เห็นดังนั้น ไม่รอช้าทั้งสองคน ไปไหนก็ได้ ออกจากบริเวณนี้ให้ได้ก่อน ไปซ่อนตัว รอสถานการณ์คลี่คลายค่อยออกมา จะเอายังไงต่อค่อยคุยกัน ตอนนี้ต้องเงียบที่สุด

 

-5-

พ่อเคยว่าถ้าผมขยันตื่นเช้าไปโรงเรียน ตั้งใจเรียน เล่าเรื่องสนุกๆ ตอนเรียนให้พ่อฟังตอนเย็น กลับถึงบ้านช่วยแม่ทำงานบ้าน ทำการบ้านก่อนออกไปเล่น พ่อจะทำหนังสติ๊กให้ผม แล้วพ่อก็ลืม นึกคำพ่อได้ตอนจากกันแล้ว ยังอยากได้อยู่นะครับ ผมถึงแอบแม่ไปตัดไม้มะขาม สัญญาตรงนี้เลยว่าผมจะไม่ทำเหมือนเพื่อน

วันนั้นพวกมันพกหนังสติ๊กไปโรงเรียน กินข้าวเที่ยงแล้ว ขากลับเดินไปห้องเรียน เห็นน้อง ป.2 ชี้นิ้วใส่ต้นไม้ รังผึ้งอย่างใหญ่ห้อยต่องแต่งเย้ายั่ว ภาพพ่อหูแดงเป่งผุดขึ้นมาเลยครับ จำได้ไหมพ่อ ก็ผึ้งบนต้นตะคร้อไง พ่อขึ้นเก็บลูก เก็บไปเก็บมา ตะโกนจากบนต้นว่าวันนี้มีลาภปากแล้วลูก ผมก็น้ำลายสอ นึกว่าจะได้กินก้อยกะปอม บอกให้ผมไปไกลๆ จากบริเวณนั้น ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ ถามก็ไม่บอกว่าทำไม ผมเลยกลับไปรอที่กระท่อม พักใหญ่พ่อถือรังผึ้งเหลืองทองอย่างใหญ่มา มือปัดป้องตัวผึ้งที่ยังบินวนที่หัว เข้ามาใกล้ๆ จึงชัดเจนว่าพ่อต้องแลกน้ำหวานกับความเจ็บปวด ปากว่าไม่เป็นไรๆ แต่หูแดงข้างหนึ่ง โดนต่อยกี่ทีนะพ่อ สามที

เห็นพวกมันล้วงหนังสติ๊กออกมา ผมก็ใจไม่ดีแล้ว ออกปากห้ามก็ไม่ฟัง บอกให้น้อง ป.2 หนี หนีไปไกลๆ พวกนั้นก็ยังทำหน้าเหลอหลา ไม่รอให้เพื่อนเหนี่ยวหนังสติ๊ก ผมวิ่งจ้ำอ้าวหนีอย่างไว จะอยู่ทำไม

ขาลายกลับบ้าน พวกมันยังไม่เข็ด ชวนผมออกล่านก ล่ากะปอมวันหยุด ผมยังไม่มีอาวุธเลย พวกมันออกปากจะช่วยทำหนังสติ๊ก ไม่ยากหรอก อย่างแรกต้องขอเงินแม่ซื้อยางหนังสติ๊กให้ได้ก่อน ถ้าแม่รู้เรื่องนี้ผมก็ไม่มีวันได้อาวุธหรอก ต้องเก็บเงินให้พอ

กว่าจะถึงวันเจ็บตัวต้องอดขนมตั้งหลายวัน

ที่นู้นมีผึ้งมีกะปอมกินบ้างไหมครับพ่อ ของกินอร่อยเหมือนบ้านเราไหม ตอนนี้ผมออกล่ากับเพื่อนได้แล้ว มีอาวุธแต่ฝีมือยังไม่เท่าไหร่ น้องก็อยากได้เหมือนผม ผมจะไปกับเพื่อนก็ร้องจะตามไปด้วย บอกก็ไม่เชื่อ

พ่อรู้ไหม น้องไม่รู้ว่าพ่อไปไหน ร้องอยากขี่คอๆ ตลอด

วันนั้นหลังจากวางสายพ่อแล้ว น้องวิ่งไปค้นหาพ่อใหญ่เลย ถามแม่ถามยายว่าพ่ออยู่ไหนๆ วิ่งไปหาห้องนอนห้องน้ำ นึกว่าพ่ออยู่บ้าน บอกให้ออกมาเล่นเหมือนวันก่อน เห็นหน้าในวิดีโอคอลคงนึกว่าอยู่แถวนี้ โดยหารู้ไม่ว่าเราไกลกันมาก มากกว่าน้องจะรู้และเข้าใจ

วันหนึ่งชาวบ้านแห่กันไปโรงเรียนเยอะเลย ครูนักเรียนออกมาดู สักพักก็มีรถจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหลายคันขับเข้ามาอีก ชาวบ้านชูป้ายเสียงดังทวงคืน บอกว่าออกไปๆ ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด

ผู้นำหมู่บ้านพยายามควบคุมชาวบ้าน หลายคนโวยวายใหญ่ ไม่ยอมๆ ๆ จะเอาออกจากราชการให้ได้ ทำอย่างนี้ผิดเต็มๆ ถามหาบัญชีรายรับรายจ่ายเงินผ้าป่า

พ่อไปก็หลายปีแล้ว ห้องสมุดยังไม่เริ่มสร้างเลย

 

-6-

คิดถึงความอยากได้ใคร่มีขึ้นมา ร่างกายของคุณก็เร่าร้อนทั้งภายในภายนอก ขึ้นชื่อว่าความลำบากยากเข็ญมันน่ากลัวกว่าความตายอีก

หลับตาเห็นแต่กระท่อมปลายนา เคียงคู่กับสระใหญ่ลูกหนึ่ง ต้นไม้ใหญ่น้อยล้อมรอบบริเวณ ไม่ต้องหลังใหญ่นักหรอก เสาหกต้นหนึ่งห้องไว้ระเบียงข้างหน้า ว่างจากงาน ผูกเปลสี่ทิศ เปลี่ยนที่เมื่อแดดสาดใส่ ยิ่งคิดถึงยิ่งเจ็บปวด ท้องนาสีทองรอวันเก็บเกี่ยว แสงท้ายวันส่องผิวน้ำระยิบระยับ ถึงเวลาขุดข่าตะไคร้ทำกับข้าว

ควันไฟที่ลอยอ้อยอิ่งถูกความกดอากาศกำราบไว้ แสงอ่อนในจินตนาการยิ่งลากฉุกให้ใจคุณหมองลงเรื่อย ล้าลงวูบวาบ เมื่อความฝันถูกปลุกด้วยความจริงอันหนาวสั่น

ต้องเขียมอดอย่างมาก ซื้องานแล้วเหลือกินไม่มาก ต้องระเห็จเปลี่ยนที่เปลี่ยนงาน กลิ่นขี้วัวกระตุ้นคุณให้อยู่กับความจริงมากขึ้น นานไหม ถามตัวเอง กว่าจะชินกลิ่น กลิ่นของความแปลกหน้า ระคายหัวใจเมื่อลุกขึ้นทำสิ่งใหม่ แสงเช้าของวันพรุ่งนี้จะปลุกคุณให้ตื่นที่ไหน ที่ไหนก็ได้ที่พร้อมหน้าครอบครัว

ห้องแถวชั้นเดียวเรียงรายห้าห้องเป็นที่อยู่ดีกว่าเดิม นอนห้องละคน

เมื่อเพื่อนซื้องานใหม่ให้แล้ว สิ่งที่เป็นห่วงคือกระเป๋าเงิน ทำไมมันผ่ายผอมเหมือนเจ้าของเลย ต้องผ่านสมรภูมิชีวิตอีกกี่แห่ง แค่คิดก็เหนื่อยอ่อน

เช้าตักขี้วัวใส่หลุมหมักปุ๋ย ฉีดทำความสะอาดทั้งคอกทั้งวัว กว่าจะเสร็จก็สายแล้ว ต่อด้วยผสมหัวอาหาร ตักเทปากคอกให้เพียงพอ ดูถังน้ำกิน ถ้าพร่องก็เติมให้พอ เกือบเที่ยงได้กินข้าวเช้า กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน ผักดองของประจำบ้านเมืองเขา เถ้าแก่เจ้าของฟาร์มวัวเอามาให้ตั้งแต่วันแรก ชาตินี้จะกินหมดไหม เอามาให้เหมือนประชด

บ่ายรีดนม เกี่ยวหญ้า หรืองานอื่นแล้วแต่เขาจะใช้

 

-7-

พี่ ฉันขอโทษนะที่ใส่อารมณ์วันนั้น ไม่เคยว่าหนูหรอก ไม่เป็นไร พี่รู้ ต่างคนต่างเหนื่อย แล้วลูกเป็นไงบ้าง อาการดีขึ้นบ้างแล้ว หมดฤทธิ์ยาก็ตัวร้อนอีก กลางคืนหนูต้องลุกขึ้นมาดูตลอด หลับไม่เต็มตา อดทนนะ เดี๋ยวก็หายแล้ว ไหนดูหน้าคนเก่งหน่อย หน้าเหลือแค่สองนิ้วแล้ว น้ำหนักลงอย่างเห็นได้ชัดเลยพี่ อือ ! หายแล้วก็ให้กินเยอะๆ เดี๋ยวก็อ้วนเอง เป็นยังงั้นก็ดีสิพี่ ดูพี่ชายมันสิ ผอมกะหร่อง คนนี้ก็ไม่ค่อยกินเหมือนกัน ไหน! ดูหน้าพี่ชายหน่อยสิ พี่ชายครับ กินข้าวเยอะๆ นะครับ อย่ากินแต่ขนม ผอมแห้งหมดแล้วลูก

ฉันว่าจะออกจากงาน ทำไมล่ะ ไม่ไหวแล้วพี่ นี่ก็ลาเขามาดูลูกหลายวันแล้ว ค่อยหางานใหม่ก็ได้หนู ดูลูกให้หายดีก่อนก็ได้ ค่อยโทร.หาเขา ไม่รู้จะได้เงินค่าแรงที่ทำงานแล้วหรือเปล่า ให้อยู่กระมัง หนูทำงานทุ่มเทขนาดนั้น เจ๊เจ้าของร้านยิ่งเขี้ยวลากดิน โทร.คุยให้รู้เรื่องนะ

งานพี่เป็นไงบ้าง จะสิ้นเดือนแล้ว ส่งเงินมาวันไหน งานพี่ก็อยู่ตัวแล้ว ชินกลิ่นชินคนบ้างแล้ว เถ้าแก่ไม่เรื่องมากหรอก พี่ทำเต็มที่ กลัวเขาจะว่าเราได้ ได้ยินอย่างนี้หนูก็ชื่นใจ หนูไม่ได้ถามตั้งนานแล้ว อย่าให้เหมือนที่เดิมนะ ที่นี่นอกเมืองมาก เป็นส่วนตัวพอสมควร คนออกคนเข้าก็รู้ ไม่ต้องระวังมาก ไม่แน่หรอกพี่ ยังไงก็ระวังตัวให้มาก ระวังอยู่แล้ว แต่ไม่ถึงขนาดเกร็งเหมือนมาใหม่ๆ

ได้ยินอย่างนี้ก็ไม่ต้องห่วงมาก

 

-8-

ผมสัมผัสได้ถึงคลื่นความรักของพ่อแม่ แม้บางครั้งมันจะปะทุออกมาเป็นลาวาคำพูด หรือไหลออกมาเป็นน้ำตา พ่อยอมแม่ตลอด รู้ร้อนรู้เย็น ไม่ต่อความยาวสาวความยืดให้เยิ่นเย้อ ความอดทนจะให้ดอกผลแก่เราตอนไหน มีระยะเวลาตายตัวหรือเปล่า พ่อจะอยู่อีกกี่ปี ยังได้เงินไม่พอใช่ไหมครับ ถามไปยังงั้นแหละ รู้อยู่แล้วว่าพ่อทำเพื่อครอบครัว ผม น้องและแม่ได้แต่ให้กำลังใจ

มีชาวบ้านบางกลุ่มออกมาให้กำลังใจ ผอ.โรงเรียนเหมือนกัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบอกว่าต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ผิดจริงหรือเปล่ายังไม่ได้พิสูจน์ ทุกเรื่องมีกระบวนการของมันอยู่ อย่าเพิ่งด่วนสรุป

ผมก็เลยยังไม่สรุปว่าจะได้เจอพ่อตอนไหน

พ่อครับ ผอ.โรงเรียนย้ายไปที่อื่นแล้ว

แม่บอกว่าแม่ก็เหนื่อย ให้ผมช่วยดูแลน้องหน่อย พ่อคิดดูสิ ลำพังตัวผมยังดูแลตัวเองไม่ได้เลย จะช่วยได้คือไม่อยู่บ้าน ออกไปล่ากับเพื่อนตอนวันหยุด ตอนเย็นๆ ค่อยเข้าบ้าน อยู่บ้านไม่ได้ ทะเลาะกันหนวกหูยายกับแม่ จะมีประโยชน์ก็ตอนเหยียบหลังให้ยายตอนแกเหนื่อย หรือตอนที่ขยัน ผมก็จะหาผมหงอกให้แม่ ก่อนพ่อไปไม่เคยเห็นผมหงอกแม่เยอะขนาดนี้เลย ตอนนี้เยอะมาก อย่างนี้เรียกว่าช่วยงานแม่ได้ไหมครับ

ขอบคุณมากนะครับที่พ่อเสียสละเพื่อพวกเรา •