ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | My Country Thailand |
เผยแพร่ |
บทบาทกองโฆษณาการครั้งรัฐบาลพระยามโนฯ
ด้วยชนชั้นนำเคยปรารถนากล่อมเกลาราษฎรให้ศรัทธาระบอบเก่าผ่านการศึกษา แต่การดำเนินการยังมิได้ถูกตัดสินใจใดๆ จวบจนกระทั่งเกิดการปฏิวัติ 2475 อันทำให้ระบอบเก่าสิ้นสุดลงเสียก่อน
ส่งผลให้ชนชั้นนำสูญเสียอำนาจทางการเมืองไป แต่ด้วยประสบการณ์และความสันทัดในเกมแห่งอำนาจมากกว่าทำให้พวกเขาสามารถพลิกความเสียเปรียบสู่ความได้เปรียบมากยิ่งขึ้น นับแต่การปิดสภา งดใช้รัฐธรรนูญ ให้รัฐบาลใช้อำนาจแทนสภาในการตรากฎหมาย
การโยกย้ายคณะราษฎรออกไปจากการคุมกำลังทหาร จนกระทั่งการก่อตั้งหน่วยงานควบคุมข่าวสารขึ้น ชื่อ “กองโฆษณาการ”
แม้นคณะราษฎรตอบโต้กลับด้วยการรัฐประหารล้มรัฐบาลพระยามโนฯ ลง (20 มิถุนายน 2476) ได้ก็ตาม แต่กลุ่มอนุรักษนิยมไม่ยอมหยุดยั้งการต่อต้าน พวกเขาก่อกบฏบวรเดชขึ้น (ตุลาคม 2476) แต่รัฐบาลพระยาพหลฯ และประชาชนร่วมกันปราบปรามกบฏครั้งนี้ลงได้อีก
อันทำให้รัฐบาลตระหนักดีว่า การเผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชนในชนบทมีความรู้เกี่ยวกับการปกครอง ตระหนักในสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคเป็นสิ่งจำเป็นต่อระบอบประชาธิปไตย
บทบาทสำนักงานโฆษณาการครั้งรัฐบาลคณะราษฎร
ด้วยรัฐบาลคณะราษฎรให้เหตุผลถึงความจำเป็นในการเผยแพร่คุณค่าของระบอบประชาธิปไตยแก่พลเมืองผ่านสำนักงานโฆษณาการว่า
“การปกครองตามลัทธิประชาธิปไตยนั้น ย่อมกำหนดให้อำนาจสูงสุดอยู่ที่ปวงชน เพราะฉะนั้น ความเข้าใจผิดหรือถูกของปวงชนย่อมเป็นผลโดยตรงแก่นโยบายของรัฐบาล… ดังนั้น หัวใจของการโฆษณาจึ่งมีว่า เมื่อใดโฆษณาของรัฐบาลปราศจากความสำเร็จ เมื่อนั้นรัฐบาลย่อมตกอยู่ในความลำบาก เพราะเหตุว่า การใช้อำนาจบังคับใจคนนั้น ย่อมไม่ดีเท่าวิธีให้ความรู้และเหตุผลแก่ประชาชน” (หลวงรณสิทธิพิชัย, 2476, 12)
ภายหลังที่รัฐบาลพระยามโนฯ ปิดสภาผู้แทนฯ ลงแล้ว ได้โอนข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนฯ ที่ถูกปิดไปแล้ว จำนวน 7 คน คือ ทวี ตะเวทิกุล สมประสงค์ หงสนันทน์ ปราโมทย์ พึ่งสุนทร บุญช่วย ศรีชุ่มสิน ตุ๊ แหลมหลวง เปรื่อง ศิริภัทร และไพโรจน์ ชัยนาม ไปยังกองโฆษณาการที่ถูกจัดตั้งขึ้นใหม่
แม้นกองโฆษณาการถูกตั้งขึ้น (3 พฤษภาคม 2476) ในสมัยรัฐบาลพระยามโนฯ แต่ยังค้นไม่พบผลงานสิ่งพิมพ์ใด ตราบกระทั่งรัฐบาลพระยาพหลฯ ยกฐานะกองให้เป็นสำนักงาน มีฐานะเทียบเท่าอธิบดี (9 ธันวาคม 2476)
เผยแพร่ความรู้และสัญลักษณ์การเมืองใหม่
ภายใต้รัฐบาลคณะราษฎร สำนักงานโฆษณาการกระตือรือร้นอย่างมาก ผลิตสิ่งพิมพ์พรั่งพรูออกมามุ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ กฎหมายใหม่ๆ และสร้างความเป็นชาติ เช่น กิจการของสำนักงานโฆษณาการ (2477) กระทู้ถามของผู้แทนราษฎร ซึ่งรัฐบาลตอบโดยทางสำนักงานโฆษณาการ 2476-2477 (2477) คู่มือพลเมือง (2479) บัญชีรายนามกฎหมายและพระราชบัญญัติซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้บัญญัติขึ้นและแก้ไขเดิม ปี 2475-2476 (2479) บัญชีรายนามกฎหมายและพระราชบัญญัติซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้บัญญัติขึ้นและแก้ไขเดิม ปี 2477 (2479) เป็นต้น
เมื่อระบอบประชาธิปไตยยึดถือประชาชนหรือชาติสำคัญสูงสุด รัฐบาลจึงสร้างสัญลักษณ์ทางการเมืองขึ้นใหม่เพื่อให้สังคมไทยเกิดเอกภาพของความเป็นชาติ เช่น การยกธงไตรรงค์ขึ้นเป็นธงชาติ มีการส่งเสริมให้สังคมรับรู้ถึงธงชาติ แต่ขณะนั้นยังไม่มีเพลงชาติ
ต่อมา รัฐบาลจึงจัดประกวดการแต่งเพลงชาติขึ้นครั้งแรก (2477) เพลงชาติที่ชนะประกวดนำเนื้อร้องของผู้ชนะการประกวด 2 ท่านมารวมกัน คือเนื้อร้องของขุนวิจิตรมาตรา และเนื้อร้องของนายฉันท์ ขำวิไล โดยพระเจนดุริยางค์แต่งทำนองเพลง
ชุดหนังสือเผยแพร่ของสำนักงานโฆษณาการที่ผลิตในช่วงนี้ เช่น ธงชาติสยาม (2480) กิจการและระเบียบวิธีปฏิบัติราชการของสำนักงานโฆษณาการ (2480) บัญชีรายนามพระราชบัญญัติซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้บัญญัติขึ้นและแก้ไขเดิมปี 2479 (2480) บัญชีรายนามพระราชบัญญัติซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้บัญญัติขึ้นและแก้ไขเดิม ปี 2480 (2481) คำแนะนำในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร (2481) เรียงความเนื่องในงานฉลองรัฐธรรมนูญ 2481 (2481) เป็นต้น
ในยุคแรก สำนักงานเผยแพร่ความรู้ทั้งด้านต่างๆ ทั้งนำภาพยนตร์การเลือกตั้งของกระทรวงมหาดไทยไปฉายตามที่ต่างๆ จัดพิมพ์และแจกจ่ายหนังสือ เช่น คู่มือพลเมืองที่สอนสิทธิและหน้าที่พลเมืองตามแบบฝรั่งเศสหลายแสนเล่ม ประกวดเรียงความส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยในวาระงานวันชาติ และงานรัฐธรรมนูญ (ไพโรจน์, 27)
คู่มือพลเมือง (2479) เรียกร้องให้พลเมืองร่วมกันพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยจากการคุกคามของกลุ่มอภิชนคนชั้นสูงว่า
“การปกครองระบอบรัฐธรรมนูญเป็นการปกครองของใหม่ ยังมีผู้ไม่นิยมทำการขัดขวางมิให้ดำเนินไปโดยสะดวกอยู่เสมอ ต่อเมื่อใดพลเมืองได้รับการอบรมจนเคยชินกับรูปการปกครองแล้ว เมื่อนั้น ศัตรูของรัฐธรรมนูญจะไม่สามารถขัดขวางได้…ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคนที่จะต้องร่วมมือ ร่วมใจกันสนับสนุน ประคับประคองการปกครองระบอบรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิและยกฐานะของพวกเราให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนให้มั่นคงถาวรตลอดไป” (สำนักงานโฆษณาการ, 2479, 37-38)
ข้าราชการกองโฆษณาการชุดแรก
สําหรับข้าราชการชุดแรกของกองโฆษณการที่ถูกพระยามโนฯ โอนมาสังกัดหน่วยงานใหม่ภายหลังปิดสภาแล้ว คือ ทวี ตะเวทิกุล ไพโรจน์ ชัยนาม บุญล้อม (ปราโมทย์) พึ่งสุนทร สมประสงค์ (ประสงค์) หงสนันทน์ บุญช่วย (ศุภชัย) ศรีชุมสิน ตุ๊ แหลมทอง และเชื่อม ศิริภัทร์ ดังนี้
ทวี ตะเวทิกุล (2451-2492) เป็นสมาชิกคณะราษฎร เข้าร่วมปฏิวัติ 2475 รับราชการการเลขาธิการสภา ต่อมาถูกโอนมายังกองโฆษณาการ (2476 สอบเข้ากระทรวงการต่างประเทศได้) เมื่อมีการตั้ง มธก. (2477) เขาสอบเป็นผู้ช่วยผู้จัดทำตำราได้ ต่อมา ได้ทุนไปเรียนที่ฝรั่งเศส จบปริญญาเอกกลับไทย (2482) เข้ารับราชการที่กระทรวงเดิม และยังเป็นผู้ช่วยกรรมการร่างกฎหมายในคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย
เมื่อสงครามโลกจบลง เขาลาออกเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายกฯ ทวี บุณยเกตุ และ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เขาเคยเป็นรัฐมนตรีสั่งราชการกระทรวงการคลัง เขาอยู่ในกลุ่มนายปรีดี ภายหลังการรัฐประหาร 2490 เขาเสียชีวิตจากถูกจับกุมภายหลังกบฏวังหลวง (2492)
ไพโรจน์ ชัยนาม (2454-2537) ภายหลังการปฏิวัติ 2475 เข้าทำงานกับกรมเลขาธิการคณะกรรมการคณะราษฎร เลขาธิการสภา ต่อมาถูกโอนไปสังกัดกองโฆษณาการ รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกปาฐกถายุคสำนักงานโฆษณาการ อธิบดีกรมโฆษณาการ (2484) เลขาธิการพฤติสภา (2489) อธิบดีกรมพิธีการทูต (2491) เอกอัครราชทูตหลายประเทศ ผู้บรรยายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (2478-2521)
ปราโมทย์ พึ่งสุนทร (2448-2524) เป็นชาวสมุทรสาคร เรียนจบโรงเรียนกฎหมาย เป็นสมาชิกคณะราษฎร สายพลเรือนของสงวน ตุลารักษ์ และซิม วีระไวทยะ เข้าร่วมการปฏิวัติ 2475 เลขานุการส่วนตัวนายปรีดี พนมยงค์ (2477-2481) สมาชิกสภาผู้แทนฯ ประเภท 2 (2480) สมาชิกพฤฒิสภา (2489) ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (2487) และเสรีไทย
ประสงค์ หงสนันทน์ (2453-2554) ถูกโอนจากเลขาธิการสภา มาสังกัดกองโฆษณาการในชุดแรก เขารับราชการอย่างต่อเนื่องในหน่วยงานดังกล่าวจนเป็นรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ร่วมบุกเบิกวงการโทรทัศน์ไทย
ผลงานโดดเด่นคือ การร่วมก่อตั้งสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทยคือ บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด (2498) ตามนโยบายของรัฐบาลจอมพล ป. ต่อมา เขาเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด
เปรื่อง ศิริภัทร (2444-2520) เป็นชาวสระบุรี หรือมหาเปรื่อง อดีตภิกษุเปรียญ 6 ประโยค จากสำนักวัดอนงคาราม และลาสิกขาเมื่อ พ.ศ.2471 ขณะอายุได้ 27 ปี ได้เข้าศึกษา ณ โรงเรียนกฎหมาย สอบไล่ได้ภาค 1 และเข้าศึกษาต่อใน มธก. จนได้รับอนุปริญญา
ในระหว่างศึกษาอยู่โรงเรียนกฎหมายได้เข้ารับราชการในกรมร่างกฎหมายและถูกโอนจากเลขาธิการสภา มายังสำนักโฆษณาการ ต่อมา รัฐบาลจอมพล ป. โอนเขาไปรับราชการในพระราชสำนัก ในฐานะผู้ถวายอักษรภาษาไทยที่โลซานน์ (2481-2490) ต่อมากลับไทยโอนมาอยู่ในกรมโฆษณาการเช่นเดิมจนเกษียณ (นายเปรื่อง ศิริภัทร, 2520)
แม้ว่าเป้าหมายของกองโฆษณาการเมื่อแรกจัดตั้งโดยรัฐบาลพระยามโนปกรณ์ฯ จะมีเป้าหมายตามความต้องการของกลุ่มอนุรักษนิยมก็ตาม แต่พลันที่คณะราษฎรเข้าควบคุมสภาพการเมืองได้เข้าเปลี่ยนแปลงภารกิจหน่วยงานนี้ให้สนับสนุนระบอบประชาธิปไตยแทน
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022