เผยแพร่ |
---|
ทั้งๆที่เพิ่งเดินทางไปประชุมครม.สัญจรที่สงขลา ปัตตานี แล้วเหตุใดจึงต้องเดินทางย้อนไปอีกครั้งที่ตรัง
อาจตอบได้ว่าเพราะ”น้ำท่วม”
แต่ก็น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการเดินทางในห้วงปลาย เดือนพฤศจิกายนต่อกับต้นเดือนธันวาคม
อาจตอบได้ว่า เรื่องของ”ธรรมชาติ”ยากที่จะควบคุม
กระนั้น ลองเดินเข้าไปสำรวจภายในแต่ละถ้อยคำ สำนวนที่ออกมาก็จะสัมผัสได้ถึง”เป้าหมาย”อย่างแท้จริง
ยังต้องการผูกใจไว้กับ “ปักษ์ใต้บ้านเรา”
ไม่เพียงแต่จะพาดพิงถึงนาม นายชวน หลีกภัย หากแต่เอ่ยตรงไปตรงมาเลยว่า
“รักและชื่นชมคนใต้”
ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนที่ปรับอารมณ์และความรู้สึกได้เร็ว
การไปส่งเสียงดังที่ตลาดปลา ปัตตานี
การไปปล่อยให้เกิดการกวาดจับชาวบ้านสงขลา ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินที่แยกสำโรง สงขลา
แล้วตามมาด้วยกรณีใส่ร้าย”แบมุส”
ทำให้คะแนนของคสช.และของรัฐบาลที่สะสมมาตั้งแต่ในห้วง”ชัตดาวน์”กทม.กระทบกระเทือนเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าใต้พุทธ ไม่ว่าใต้มุสลิม
จึงมีความจำเป็นต้องหวนกลับไปเยือนพี่น้อง”ชาวใต้”อีกหนในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยเลือกจังหวัดตรังอันเป็นบ้านเกิดของ นายชวน หลีกภัย
อาศัย นายชวน หลีกภัย เป็นสะพานเชื่อม
ไม่ว่าจะมองบทบาทและการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา ด้วยสายตาอย่างไร
แต่ทั้งหมดนี้ คือ “การเมือง”
เพราะการเมืองทำให้ต้องเกิด “ครม.สัญจร” เพราะการเมืองทำให้ “นายกรัฐมนตรี”ต้องหวนกลับไปยังจังหวัดตรัง
เป้าหมายก็เพื่อจะเก็บกู้ คะแนน
คะแนนอันสัมพันธ์กับฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ คะแนนอันสัมพันธ์กับฐานเสียงของกปปส. “พันธมิตร”แสนดีทั้งก่อนและหลังรัฐประหาร
เป็นความจำเป็น”เร่งด่วน”ในห้วง”ขาลง”