คอลัมน์ประจำ

จับตาจุดเปลี่ยนธุรกิจอสังหาฯ กลางปี 66

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 - 20 กรกฎาคม 2566
คอลัมน์ก่อสร้างและที่ดิน
เผยแพร่

จับตาจุดเปลี่ยน

 

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงกลางปี 2566 นี้ บรรยากาศหรืออารมณ์จะประมาณ “ผ่อนคันเร่งเล็กน้อย แตะเบรกเบาๆ รอดูทิศทาง” กันแทบทุกบริษัท

สิ่งแรกที่ยังต้องเดินหน้าต่อไป คือ การเปิดตัวโครงการใหม่ครึ่งปีหลัง ซึ่งหลายบริษัทประกาศแผนออกมาแล้วว่าจะเปิดกี่โครงการ มูลค่าเท่าไหร่ หากเทียบกับตอนต้นปีจะพบว่าลดความร้อนแรงลงมาก เป็นการเปิดโครงการใหม่เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของบริษัทเป็นสำคัญ

โดยเฉพาะบริษัทที่เคยเติบโตด้วยยอดขายและยอดโอนคอนโดมิเนียมเป็นหลักมาก่อน เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียม เปิดขายแล้วต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี จึงมียอดโอนและรับรู้รายได้

ดังนั้น ยอดรับรู้รายได้ปีนี้จึงต้องมาจากโครงการที่เปิดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วซึ่งเป็นปีโควิด-19 ระบาดหนัก แทบไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ จึงต้องสร้างรายได้จากโครงการแนวราบซึ่งรอบการก่อสร้างและระยะเวลาโอนสั้นมาเติมเต็มให้เพียงพอ

 

เรื่องที่สอง ระบายสต๊อกที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จเหลือขาย เพราะปี 2565 ที่โควิดสงบ จนถึงต้นปี 2566 มีการเร่งตัวเปิดโครงการใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นปกติที่มักมียูนิตสร้างเสร็จเหลือขายไม่มากก็น้อยทุกโครงการ

และยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาผู้ซื้อถูกปฏิเสธการปล่อยกู้สินเชื่อจากธนาคารอัตราสูง ทำให้มีบ้านกลับคืนมาเป็นสต๊อกอีกจำนวนมากต้องนำมาขายใหม่เช่นกัน

กลางปีนี้ จึงมีการเตรียมแคมเปญระบายสต๊อกคึกคักเป็นพิเศษ

 

เรื่องที่สาม การเตรียมตัวทางการเงินของบริษัท

เพราะทิศทางเศรษฐกิจขณะนี้จะมองเป็นเชิงรุกเหมือนปีที่แล้วหรือต้นปีนี้ไม่ได้

ต้องปรับใหม่เป็นการเตรียมพร้อมให้สามารถตั้งรับความผันผวนได้

อัตราดอกเบี้ยตลาดโลกและในประเทศเป็นอัตราดอกเบี้ยขาดขึ้น เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งออกอัตราติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8

โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาฯ ยังเจอ ปัญหาอัตราปฏิเสธปล่อยกู้สินเชื่อรายย่อยสูง

ปัญหา LTV ที่หมดระยะเวลาผ่อนปรนลูกค้าผู้ซื้อต้องจ่ายเงินดาวน์ 20-30%

 

เรื่องที่สี่ การเมือง การตั้งรัฐบาลใหม่บริหารประเทศตามเจตจำนงผลการเลือกตั้งทั่วประเทศเมื่อ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา การเมืองเป็นเรื่องความเชื่อมั่น หากทุกอย่างดำเนินไปตามครรลองระบบประชาธิปไตย ความเชื่อมั่นก็เกิด โครงการลงทุนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศก็ตามมา การจับจ่ายใช้สอยมากมายก็ตามมา เศรษฐกิจก็หมุนเวียน

การเมืองเป็นการบริหารจัดการประเทศ ถ้าทำได้ดีมีประสิทธิภาพ ย่อมสร้างโอกาส สร้างความเจริญเติบโตให้กับระบบเศรษฐกิจและผู้คน

กลางปี 2566 นี้ มีลุ้น ถ้าการเมืองเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย ก็หมายความว่า ธุรกิจเศรษฐกิจเรากำลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

หากไม่เป็นไปตามครรลอง ก็ต้องมาคำนวณคาดการณ์หาจุดต่ำสุดกันใหม่ •

 

ก่อสร้างและที่ดิน | นาย ต.