ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 มิถุนายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | รายงานพิเศษ |
ผู้เขียน | สมหมาย ปาริจฉัตต์ |
เผยแพร่ |
รายงานพิเศษ | สมหมาย ปาริจฉัตต์
ตามรอยครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี (2)
MOU การศึกษาไทย-บรูไน
รุ่งอรุณวันใหม่ท้องฟ้าเหนือกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน สดใส ไร้ฝน ฝุ่น ลมพัดเย็นสบาย ระหว่างรอคอยเวลานัดหมาย เบนซ์สีดำคันใหญ่ติดธงชาติไทยนำคุณบุศรา เอกอัครราชทูตไทยมาถึง เพื่อพาคณะประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีไปกระทรวงศึกษาธิการบรูไน อีก 2 กลุ่มที่เหลือแยกไปสถานเอกอัครราชทูต เตรียมร่วมงานสำคัญในบ่ายวันเดียวกัน
การเดินทาง บรูเนียนส่วนใหญ่ใช้รถส่วนตัวคนละคันตามจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่ขับรถเป็น เหตุเพราะราคาน้ำมันถูกจากการช่วยเหลือของรัฐบาล ราคาดีเซลลิตรละ 8 บาท เบนซินลิตรละ 13.74 บาท ต่ำสุดในอาเซียน ราคารถยนต์ถูก รถญี่ปุ่น เกาหลี ขนาดกลางครองตลาดสูงสุดนำโดยโตโยต้าวีออส ไม่ค่อยใช้รถคันใหญ่
รถโดยสารประจำทาง ค่าโดยสารถูกเที่ยวละ 1 ดอลลาร์บรูไนหรือ 25.6 บาทไทย เทียบกับรายได้ของชาวบรูไนนับว่าถูกมากๆ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม ป้ายรถประจำทางไม่แออัดยัดเยียด ไม่ต้องแย่งกันขึ้นจนอลหม่าน
ถนนคราคร่ำไปด้วยรถเก๋งแต่วิ่งสบาย ใช้เวลาเดินทางไม่นานถึงที่หมาย ทั้งประเทศประกอบด้วย 4 เขตปกครอง ได้แก่ Brunei-Muara g เขตเมืองหลวง ท่าเรือและการขนส่ง ประชากรมากสุด Tutong เขตเกษตรกรรม Belait เขตแหล่งขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และ Temburong เขตพื้นที่ป่าไม้และแหล่งน้ำ
คนขับรถเคารพกฎ มีระเบียบวินัยจราจร ไม่ได้ยินเสียงบีบแตรให้หนวกหูและกวนประสาท มารยาทน่าชื่นชม ขณะมีคนข้ามถนน คนขับรีบหยุดรถก่อนและรอจนกว่าคนเดินเท้าจะผ่านไปด้วยความปลอดภัย
ระหว่างทาง ตามสี่แยกหัวมุมถนน แทบไม่เห็นตำรวจจราจร นอกจากเกิดอุบัติเหตุรถชนกันซึ่งสถิติค่อนข้างต่ำมาก เพราะการทำความผิด ละเมิดกฎหมายแทบทุกเรื่องกำหนดโทษรุนแรง
สังคม สิ่งแวดล้อมปลอดภัย บ้านพักอาศัยส่วนใหญ่ไม่มีรั้ว ริมทางไม่เห็นคนไร้บ้าน จรจัด แอบซ่อนหลับนอนระเกะระกะ ถนนหนทางสะอาด ทิ้งขยะเป็นที่เป็นทาง
ผู้คนสัญจรไปมาหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ชีวิตสะดวกสบายไม่เร่งรีบ เคร่งเครียด สอดส่ายสายตามองหาหมา แมวจรจัดแทบไม่พบเห็นอีกเหมือนกัน
“คนจนบรูไน หน้าตาเป็นอย่างไร ความทุกข์ของบรูเนียนคืออะไรครับ”
ผมทวนความจำถึงคำถามกับ ดร.ทินสิริ ขณะเธอบรรยายสรุปข้อมูลพื้นฐานระบบการศึกษาและวิถีชีวิตคนบรูไนอย่างน่าฟัง ที่ร้านเบอร์เกอร์คิงส์ สนามบินสุวรรณภูมิ
ก่อนย้ำภารกิจที่ทุกคนต้องร่วมกันทำให้บรรลุเป้าหมายการเดินทาง ในนามของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ตามลำดับ
เริ่มด้วยพบผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการบรูไน พบเอกอัครราชทูตไทย เยี่ยมครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2566 ดูโรงเรียน สาธิตการสอน ติดตามความคืบหน้าโครงการความร่วมมือระหว่างครูไทยกับครูบรูไนเกี่ยวกับการสร้างทักษะการเป็นผู้ประกอบการ พบผู้แทนภาคธุรกิจไทยในบรูไน และสื่อมวลชนบรูไน
คณะประธานมูลนิธิเดินทางถึงที่หมายตามเวลา Dr. Shamsiah Zuraini Kanchanawati Haji Tajudin ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หญิงเก่งและแกร่ง รอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว
เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยบรูไนดารุสซาราม ปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย Durham สหราชอาณาจักร ปริญญาเอกด้านการศึกษา จาก U of Southern California USA
ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการตั้งแต่ พ.ศ.2538 เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย จนเป็นอธิการบดีของ Sultan Hassanal Bolkiah Institute of Education (SHBIE) ผู้อำนวยการสถาบันด้านความเป็นผู้นำ นวัตกรรมและการพัฒนา (ILIA) ก่อนได้รับแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวง
บรรยากาศแห่งมิตรภาพ ดำเนินไปด้วยความอบอุ่น เจ้าภาพให้เวลาสนทนากับเพื่อนร่วมวิชาชีพจากเมืองไทยเต็มที่
ดร.กฤษณพงศ์ นำเสนอภาพการประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 4 และการประชุมวิชาการนานาชาติเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หนังสือเกี่ยวกับครูผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีรุ่นที่ 1 และ 2 รวม 2 เล่ม และกำลังจัดทำเล่มที่ 3 และ 4 ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อแจกในงานพิธีพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 5 วันที่ 17 ตุลาคม 2566 ที่ประเทศไทย
เล่าถึงครู Lim Soh Ngo ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี รุ่น 2 ปัจจุบันเกษียณอายุแล้วแต่ยังทำวิจัยการศึกษา โดยกระทรวงศึกษาธิการให้การสนับสนุนในการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้โรงเรียน
ล่าสุด Mr.Mohamad Irwan ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี รุ่นที่ 5 ได้รับรางวัลในวันครูบรูไนปี 2564 เคยสอนโรงเรียนในชนบทถึง 6 วิชาในระดับที่แตกต่างกัน แต่ละปีได้นำเสนอผลงานระดับชาติหลายครั้ง เป็นงานที่มาจากการวิจัยเชิงปฏิบัติ สอดคล้องกับเป้าหมายของบรูไนในปี พ.ศ.2573
ปลัดกระทรวงบอกว่า ศูนย์นวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship and Innovation Centre) หน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ สามารถรองรับโครงการความร่วมมือระหว่างครู Wahab และครูประทินของไทย ต่อจากที่ได้ดำเนินการมาแล้ว รวมทั้งสนับสนุนให้โรงเรียนมัธยมศึกษาได้เรียนรู้ถึงการเป็นผู้ประกอบการด้วย
“กระทรวงกำลังดำเนินโครงการด้านการศึกษาพิเศษ จะมุ่งเน้นไปที่การระดมทรัพยากรในศูนย์การเรียนรู้อย่างเฉพาะเจาะจง แนะนำให้ริเริ่มทำโครงการ ‘โรงเรียนพี่โรงเรียนน้อง’ ‘โรงเรียนคู่แฝด’ และโครงการใหม่จะให้ครูการศึกษาพิเศษของบรูไนที่ได้รับรางวัลครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี สำรวจความเป็นไปได้ ทำโครงการร่วมกับครูการศึกษาพิเศษของไทย”
“วันที่ 26 ตุลาคม เป็นวันครูของบรูไน ทุกปีสมเด็จพระราชาธิบดีจะพระราชทานรางวัลครูดีเด่น มีหลายประเภท รางวัลสูงสุดก่อนหน้านี้ตกเป็นของอดีตรัฐมนตรี” เธอกล่าวด้วยความชื่นชม
ก่อนลากลับ คณะไทยแจ้งว่าการพิจารณาครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีครั้งต่อไปจะเพิ่มอีก 3 ประเทศได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน และมองโกเลีย
ท่านทูตบุศราเล่าเพิ่มเติมถึงบันทึกความเข้าใจด้านการศึกษา (MOU) ระหว่างไทยกับบรูไน ลงนามกันไว้ตั้งแต่ 19 มกราคม พ.ศ.2552 ครบกำหนด 5 ปียังไม่ได้ทำใหม่ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการบรูไนเห็นด้วย รับจะติดตามดำเนินการต่อ
“ถึงแม้ยังไม่ได้ต่อ แต่ความร่วมมือปกติคงดำเนินต่อไปได้ เพียงแต่ว่าไม่มีกรอบ ถ้ามีกรอบจะทำได้เต็มที่ เพื่อความชัดเจน สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย” เธอว่า
ฟังจบ คนหิวข่าวยังไม่หิวข้าวเปิดเว็บไซต์สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการไทย รายงานข้อตกลงความร่วมมือทั้งสองฝ่าย ไทย บรูไนไม่ต่ำกว่า 10 เรื่อง
การส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างสถานศึกษา การศึกษาด้านเทคนิคและสายอาชีพ การถ่ายโอนหน่วยกิตและการเคลื่อนย้ายนักเรียน การยอมรับในคุณวุฒิร่วมด้านการศึกษาและอาชีวศึกษา การศึกษาพหุภาษา การฝึกหัดครูและการพัฒนาวิชาชีพ การศึกษาด้านค่านิยม
“สองฝ่ายเห็นด้วยที่จะให้เพิ่มสาระสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริม สร้างทักษะการเป็นผู้ประกอบการ เข้าไปในข้อตกลง ซึ่งเป็นทิศทางใหม่ในการจัดการศึกษาของทั้งสองประเทศ” ดร.ทินสิริ หนึ่งในทีมไทยที่เข้าพูดคุยกับปลัดกระทรวงศึกษาธิการบรูไน เล่าเสริมถึงความสำเร็จการพบปะเจรจาทั้งการศึกษาและการทูต อีกหมวกหนึ่งของเธอคือที่ปรึกษาด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย องค์การยูนิเซฟประเทศไทย
ได้ฟังและชื่นชมผลการพูดคุยจบ ผมคิดถึงเหตุเกิดที่เมืองไทยในบ่ายวันเดียวกัน 22 พฤษภาคม 2566
แกนนำพรรคว่าที่รัฐบาล 8 พรรคร่วมลงนาม MOU 23 ข้อ ข้อ 21 เขียนว่า ปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
MOU การศึกษาระหว่างไทยด้วยกัน กับ MOU ระหว่างไทยกับบรูไน ข้อตกลงไหนจะก้าวรุดหน้ากว่ากัน น่าติดตาม
ใต้ภาพ
Dr. Shamsiah Zuraini Kanchanawati Haji Tajudin ปลัดกระทรวงศึกษาธิการบรูไน ต้อนรับคณะประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และเอกอัครราชทูตไทย ประจำบรูไน
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022