หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๗๙)

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ | ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๗๙)

 

ผลการเลือกตั้ง ก้าวไกลชนะถล่มทลาย เพื่อไทยแพ้ยับ

ก้าวไกลยังคงเดินหน้า แน่นในแง่อุดมการณ์

แต่ในสื่อ ก็ยังอุดมไปด้วยทฤษฎีสมคบคิด

ทฤษฎีสมคบคิดมีมากหลาย หากฉีกโฉมหน้าของมันออกมาว่าไม่จริง สื่อเหล่านั้นก็เพียงพูดถึงอีกทฤษฎีสมคบคิดหนึ่ง ซึ่งตื่นเต้น เร้าใจไม่แพ้กัน พวกเขาจะไม่ยอมรับผิด ปรับตัว หรือแก้ไข และประชาชนก็จะสนุกกับทฤษฎีสมคบคิดอันใหม่ สื่อต้องการทำมาหากิน และผู้คนต้องการความเร้าใจ

ฉันแปลกใจว่า ต่างประเทศเป็นแบบนี้ไหมนะ สังคมที่อบอวลไปด้วยทฤษฎีสมคบคิด คิดดูก็คงไม่ แต่มีอยู่จริงในบางประเทศ สำหรับประเทศไทยจะหนักหน่อย เช่นเดียวกับความหลงงมงายในไสยศาสตร์ บ้าหวย เชื่อในต้นโพธิ์ต้นไทร สิ่งศักดิ์สิทธิ์

โดยรวมคือ สังคมไทยเป็นสังคมไม่ปกติ

 

กูรูและสื่อเหล่านั้น มากมายทำนายผิด แบบผิดไปไกลมาก

บางท่านเคยพูดไว้ว่า พรรคก้าวไกลจะได้อย่างมาก ๕๐ ที่นั่ง ไม่มีทางอื่นใดจะได้มากกว่านี้ เรียกว่า พวกเขาบอกว่าหยุดฝัน นี้คือความจริง

บางท่านอาจยอมให้มากหน่อย คือให้ถึง ๘๐ ที่นั่ง เรียกว่าให้ถึง upper limit แต่ทว่า ผลของการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลได้เกิน ๑๕๐

กูรูและสื่อเหล่านั้น ไม่มีอาการขวยเขินแต่อย่างใด ไม่มีความเอียงอาย

ยังคงก้มหน้าลง ขบคิดทฤษฎีสมคบคิดอันใหม่

ที่แปลกคือ บางคนกร้าวกว่าเดิม ยิ่งผิด ยิ่งเสียงดัง กลายเป็นตะโกน

ทฤษฎีสมคบคิดล่าสุด มีสองอันใหญ่ๆ คือ

พรรคก้าวไกลจะโดนยุบ

พรรคเพื่อไทยจะหักหลังก้าวไกล

ทำไมมันจึงไม่เกิดขึ้น

มันไม่เกิดขึ้น เพราะนึกไม่ออกว่า กลุ่มผู้มีอำนาจจะได้อะไรในการยุบพรรคก้าวไกล

เหตุการณ์ในปี 2566 แตกต่างจากปี 2562 เพราะในปีนั้น การตัดสิทธิ์คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และการยุบพรรคอนาคตใหม่ มีประโยชน์ต่อฝ่ายอนุรักษ์ หรือคล้ายจะเป็นเช่นนั้น เพราะรูปการณ์บอกว่า หากพรรคอนาคตใหม่โดนยุบ มันจะตาย

แต่ปีนี้ การตัดสิทธิ์คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อาจเกิดขึ้นได้ จะเกิดการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯ จากพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มาเป็นคุณเศรษฐา ทวีสิน และเปลี่ยนแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จากก้าวไกลมาเป็นเพื่อไทย นอกนั้นเหมือนเดิม ซึ่งมีผลน้อยมาก

แต่การยุบพรรคก้าวไกล หรือการประกาศให้ ส.ส.ก้าวไกลทั้งหมดเป็นโมฆะ เป็นการสร้างความปั่นป่วน โกลาหล และความเจ็บแค้นรอบใหม่ ในดวงจิตของคนไทย ๑๔ ล้านคน เกิดความเอือมระอาแทบจะทนไม่ได้ ในองค์กรอิสระ

เปิดเผยความเห็นแก่ตัวของฝ่ายอนุรักษ์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ในขณะเดียวกัน ฝ่ายเผด็จการก็กลับมาไม่ได้อยู่ดี เรียกว่า งานนี้มีแต่เสีย ไม่มีได้

และผลของมันคือ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคก้าวไกลจะได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นแน่นอน จาก ๑๔ ล้าน กลายเป็น ๑๘ ล้าน หรือ ๒๐ ล้าน เรียกว่าเกิดแลนด์สไลด์ใหญ่กว่าเดิม

คนที่คิดว่าพรรคก้าวไกลโดนยุบแน่ คิดเช่นนี้คือดูเบาฝ่ายอนุรักษ์เกินไป พวกเขาไม่โง่ พวกเขาอ่านเกมขาด และอ่านลึกซึ้ง การกระทำที่ให้โทษ และไม่มีคุณเช่นนี้ พวกเขาจะทำไปทำไม ปล่อยให้ก้าวไกลพลาดเอง จะไม่ดีกว่าหรือ ยังมีอีกตั้งหลายด่าน

ก้าวไกลจะเก่งกล้าฝ่าด่านได้หมดหรือ

 

เช่นเดียวกัน พรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ดั่งน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า สมมุติเพื่อไทยคือเสือ พวกเขาจะแข็งแรงหากอยู่ในป่า จะไปล่อเสือตัวนี้ออกจากป่า เข้าเมือง แล้วมันจะได้อะไร มิเป็นเสือหน้าโง่หรอกหรือ

นี้คือการดูเบาพรรคเพื่อไทยเป็นอันมาก พรรคนี้มีคนเฉลียวฉลาด มีประสบการณ์มากมาย ไม่มีทางใดที่พวกเขาจะฆ่าตัวตาย อย่างโง่บรมแบบนี้

ทฤษฎีสมคบคิด ควรคิดถึงผลของมันด้วย

อย่าคิดแต่เอามัน เอาสนุก เอาแต่ความตื่นเต้น หวือหวา เหมือนจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหนังผี มันอาจสนุกดี เพลิดเพลินดี หากแต่ทว่า ไม่มีจริง ไม่เกิดขึ้น

แต่กูรูบางท่านล้ำลึกกว่าบางท่าน

เช่น ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ท่านเชื่อว่า หากพรรคก้าวไกลจะจับมือกับพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้านเดิม รวมกันเกิน ๓๐๐ เสียงจัดตั้งรัฐบาล ไม่ว่าใครจะเป็นแกนนำ มีความเป็นไปได้แค่ ๒% เท่านั้นเอง หรือว่า มันเป็นไปไม่ได้เลย

แต่ทว่า พรรคเพื่อไทยจับมือกับฝ่ายรัฐบาลเดิม มีความเป็นไปได้ กลับสูงถึง ๗๐% มิไยว่า นักข่าวจะท้วงว่าทำได้อย่างไร นี่มิใช่การหักหลังประชาชนหรอกหรือ

แต่เขาเชื่อมั่นว่า ทำได้ และเพื่อไทยจะทำแบบนี้ ด้วยเหตุผลใดก็ฟังไม่ชัด ด้วยมันยั้วเยี้ย เป็นดั่งไสยศาสตร์ เป็นการขับเคลื่อนของตัวหนอน

เขาคือบิดาแห่งทฤษฎีสมคบคิดเลย เป็นมนุษย์ที่ติดในทฤษฎีสมคบคิด ระดับหนักหนา เหมือนพ่อมดหมอผี เขาไปไกลถึงขั้นว่า สรุปเสร็จว่า ในตอนจบ เหล่าผู้นำก้าวไกลต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ

นี้เป็นตัวอย่างของนักทฤษฎีสมคบคิดที่ล้ำลึกเหลือเกิน เขายังมีอีกหลายสูตร แต่ละสูตรเขาบอกว่า จะมีความเป็นไปได้ราว ๑๐% เรียกว่าซับซ้อน น่าสะพรึงกลัว ไม่ต่างกับหนังผีเลย

การตรวจสอบถึงความไม่จริงของทฤษฎีสมคบคิด อยู่ที่คิดว่า มันต้องจ่ายราคาอะไร

มนุษย์ต้องคิดซึ้งๆ ก่อนจะเชื่อ เพราะราคาของมันนั้นแพงมาก ไม่ใช่มันทำไม่ได้ หากแต่ทว่า จะไม่มีคนทำ เพราะสู้ราคาไม่ไหว นอกจากคนวิปริต

 

ทฤษฎีสมคบคิด มีมากมาย แต่จะสรุปให้ฟังดังนี้

หากคุณให้น้ำหนักทักษิณ ชินวัตร คุณก็ดูเบาพรรคเพื่อไทย

แต่น้ำหนักของพรรคเพื่อไทย เป็นความจริงที่แน่นหนา ในขณะที่น้ำหนักของคุณทักษิณ เป็นเพียงสิ่งที่คุณคิดไปเอง สองอันนี้ อันไหนสำคัญกว่า

หากคุณให้น้ำหนักปรากฏการณ์รอบกาย แต่ดูเบาอุดมการณ์ของก้าวไกล ก็เช่นกัน ปรากฏการณ์รอบกายมีน้ำหนักน้อย แต่อุดมการณ์ของก้าวไกลมีน้ำหนักเหลือแสน

เป็นต้นกำเนิดของชีวิต ด้วยมันคือแก่นลึกของประชาชน ลืมมันทุกครั้งที่คุณพูดถึงประชาธิปไตย คุณก็กำลังตบปากตัวเอง

กูรูเหล่านั้นจะพูดอะไรก็มีความหมายเดียว คือการดูเบาพรรคเพื่อไทย และดูเบาประชาชน

ทำไมพวกเขาจึงยังเป็นอาจารย์ที่น่านับถืออยู่อีกหรือ

ตัวอย่างคลาสสิคของทฤษฎีสมคบคิด คือ ทฤษฎีที่ว่า อเมริกาไม่เคยเหยียบดวงจันทร์ ที่เราเห็นในข่าวเป็นเพียงข่าวปลอม

ทฤษฎีนี้เป็นไปไม่ได้ เพราะมันทำยากมาก มันต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลในการทำข่าวปลอม และปกปิดไว้ได้ยาวนานหลายสิบปี มันต้องลงทุน มากกว่าการเดินทางจริงไปกลับดวงจันทร์หลายสิบรอบ

 

พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ต่างต้องพึ่งพาอาศัยกันอยู่แล้ว ทั้งสองพรรคยังไม่แข็งแรงพอจะยืนเดี่ยวได้ ชื่อมันเป็นสองพรรค หากแต่ที่จริงมันยังเป็นเซลล์เดียวกันที่กำลังแบ่งตัว หากแต่การแบ่งตัว ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

พรรคเพื่อไทยแม้วันนี้จะเพลี่ยงพล้ำ หากแต่ว่า พวกเขายังมีโอกาส หากเรียนรู้ที่จะปรับตัว

สิ่งแรกที่พวกเขาควรทำ คือตัดเซลล์ตายที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร ทิ้งเสีย

มันเป็นเซลล์ที่เน่ามาหลายปีแล้ว หากแต่ทว่า ตัวเซลล์นี้เอง ที่ไม่ยอมตาย และพรรคเพื่อไทยทำใจไม่ได้

คุณทักษิณมีสติปัญญาแหลมคมจริง แต่ทว่า มีอัตตาสูง

เซลล์ตายตัวนี้บวมฉุด้วยอัตตา และสิ่งที่ถูกครอบงำด้วยอัตตา จะไม่สามารถมองเห็นโลกจากสายตาของคนอื่น

เขามองโลกจากสายตาตัวเองเท่านั้น

คุณจะเห็นได้ชัด เวลาดูเขาคุยกับแฟนคลับ ใน Club House เขามีความคิดสำเร็จรูป แน่นหนา ไม่มีที่ว่างใด ให้ความคิดของคนอื่นเข้าไปเลย

และคุณทักษิณยังมีความหวาดระแวงใหญ่หลวง อันเนื่องมาจากเขาโดนกระทำมาเยอะมาก โดนหักหลังมาหลายครั้ง เขาจึงมีดวงจิตที่บอบช้ำ

ตราบใดที่เพื่อไทยมีทักษิณ ตราบนั้น มันจะมีอาการบวมเป่ง และแก่ชรา ที่มันซึ้งคือ เขาเป็นผู้ให้กำเนิด เฉียบแหลม คมกริบ ในเวลาเดียวกันด้วย มันจึงยิ่งลวงตา แก้ไขได้ยาก ไม่รู้จะให้เขาไปอยู่ตรงไหน นอกเสียจากว่า เขาอยากไปเอง

แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเดินออกไป