เผยแพร่ |
---|
เหตุใดแม้แกนนำ 16 คนจะถูกจับกุม แต่”เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน”จึงยังสามารถยืนหยัดต่อสู้อย่างเข้ม แข็ง
คำตอบอันเด่นชัดอย่างยิ่งก็คือ รากฐานของ”เครือข่าย”มาจากกระบวนการจัด”องค์กร”อย่างเป็นระบบ
มี “มวลชน” เข้าร่วมและให้การสนับสนุน
ไม่เพียงแต่มี “ครูบาอาจารย์” อย่าง นายดิเรก เหมนคร หากยังมีผู้นำชุมชนระดับอันมาจาก”การเลือกตั้ง”ของชาวบ้านร่วมอยู่
อย่างเอางานเอางาน
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น การเคลื่อนไหวต่อสู้นี้ยังอยู่บนฐานแห่งการปกป้องชุมชนอันเป็นบ้านเกิด เมืองนอน
ขณะที่”โรงไฟฟ้าถ่านหิน”เป็น”สิ่งแปลกปลอม”เข้ามา
เห็นภาพการเดินเท้าจากเทพาไปยังสงขลาของ”เครือข่าย”แล้วต้อง นึกถึงการผนึกพลังของบรรดากัลยาณมิตรแห่ง”วัดพระธรรมกาย”
ทั้งๆที่เผชิญกับ “มาตรา 44”
ปฏิบัติการของ”ดีเอสไอ”และ”ตำรวจ”ครั้งนั้นอาจส่งผลให้ พระธัมมชโย ต้อง”ล่องหน”และหายตัวไป
แต่ถามว่า”ธรรมกาย”ยังอยู่หรือไม่
เห็นได้จากเมื่อไม่มีพระธัมมชโย ก็มี พระทัตตชีโว เข้ามาแทนที่และสามารถขับเคลื่อนกิจกรรม งานบุญของเครือข่ายวัดพระธรรมกายได้เป็นปกติ
ไม่ว่าการบรรพชาสามเณรแก้ว ไม่ว่าการอุปสมบทนวกะรุ่นแล้วรุ่นเล่า
ทั้งหมดนี้มาจากความสามารถของ “การจัดตั้ง” ภายใน
กรณีของวัดพระธรรมกายอาจมีพุทธศาสนาเป็นเส้นไหมแดงร้อย เชื่อม
กรณีเครือข่ายเทพาอาจมี”บ้านเกิด”
ยิ่งเมื่อมีผู้นำศาสนาเข้ามามีบทบาท ยิ่งทำให้เกิดความหนักแน่น แข็งแกร่ง
หากเห็นคลิปการเดินทางของ 16 แกนนำไปยังศาล
ก็จะรับรู้ว่าโซ่ตรวนที่ล่ามพวกเขาไม่สามารถสยบให้ความคิดในการต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินผ่อนคลายหรือเบาบางลงเลย
เพราะ “การจัดตั้ง” นั้นเองทำให้เกิด “พลานุภาพ”
เพราะ”การจัดตั้ง”นั่นเองทำให้มีความแข็งแกร่ง มั่นคง