ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 เมษายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
บทความต่างประเทศ
ปาระเบิดควันนายกฯ ญี่ปุ่น
สู่ความเข้มประชุมจี 7
กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สร้างความตื่นตระหนก สำหรับการเมืองญี่ปุ่นอีกครั้ง
เมื่อมีชายคนหนึ่งปาระเบิดควันใส่นายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา
ระหว่างที่นายคิชิดะกำลังการกล่าวรณรงค์หาเสียง ก่อนการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้กับพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ที่จังหวัดวากายามา ขณะเดินทางไปเยี่ยมชมท่าเรือประมงไซคาซากิ
แต่โชคดีที่นายคิชิดะสามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย ขณะที่ตัวผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในทันที
หลังเกิดเหตุปาระเบิดควัน นายคิชิดะยังคงเดินหน้าหาเสียงปราศรัยต่อไปในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ท่ามกลางมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่เข้มแข็งมากขึ้น
ขณะที่สื่อญี่ปุ่นได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการสอบสวนผู้ก่อเหตุปาระเบิดควันใส่นายคิชิดะ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายริวจิ คิมูระ ชายวัย 24 ปีที่ถูกจับหลังก่อเหตุ พบดินปืนต้องสงสัย รวมถึงวัตถุคล้ายท่อและเครื่องมือต่างๆ ในบ้านพักของนายคิมูระ ในจังหวัดวากายามา โดยได้อพพยประชาชนที่อยู่ในละแวกดังกล่าวออกไปจากพื้นที่ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย ซึ่งจากการค้นบ้านพักของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า วัตถุระเบิดที่ถูกใช้ในวันก่อเหตุ เป็นระเบิดที่ประกอบขึ้นเอง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจสอบโทรศัพท์ และเครื่องคอมพิวเตอร์ของนายคิมูระ เพื่อสืบสวนหาต้นตอของการก่อเหตุครั้งนี้ ส่วนตัวนายคิมูระ ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของแรงจูงใจในการก่อเหตุ
เหตุการณ์ลอบทำร้ายผู้นำญี่ปุ่นครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความตกตะลึงให้สังคมญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากญี่ปุ่นเพิ่งจะสูญเสียอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2022 ขณะที่นายอาเบะกล่าวปราศรัยหาเสียงให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคเสรีประชาธิปไตย ที่เมืองนารา และถูกยิงในระยะประชิดจนเสียชีวิต
นายเท็ตสึยะ ยามางามิ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุยิงอาเบะ ถูกจับกุมตัวและถูกดำเนินคดี จากการสอบปากคำพบว่า ยามางามิเชื่อว่า อาเบะมีความสัมพันธ์กับพวกโบสถ์แห่งความสามัคคี หรือพวกลัทธิมูนนี ที่เป็นต้นเหตุทำให้แม่ของยามางามิล้มละลาย
หลังเหตุลอบสังหารนายอาเบะ ตำรวจเองได้ประกาศจะทบทวนและปรับปรุงมาตรการการรักษาความปลอดภัยเสียใหม่
แต่เวลาผ่านไปไม่ถึงปี กลับเกือบเกิดเหตุสลดขึ้นอีกครั้ง กับนักการเมืองระดับผู้นำประเทศ
แม้ว่าสถิติการก่ออาชญากรรมจากอาวุธปืนในญี่ปุ่นจะมีน้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องรุนแรงเกิดขึ้นเลย อย่างเหตุลอบสังหารทางการเมืองครั้งใหญ่ ที่กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก คือเหตุการณ์ที่นายอิเนจิโร อาซานูมะ หัวหน้าพรรคฝ่ายสังคมนิยมของญี่ปุ่น ถูกคนร้ายฝ่ายขวาจัด ใช้ดาบซามูไรแทงเข้าที่ท้องขณะการโต้วาที ที่มีการถ่ายทอดสดออกอากาศ ที่ทำให้นายอาซานูมะเสียชีวิตในที่สุด ขณะที่ผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัว และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ก่อนที่เขาจะฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอในห้องขังนั้นเอง
ตอนนี้ นายกฯ คิชิดะได้ประกาศยกระดับการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นอีกขั้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ จี 7 ที่กำลังจะมีขึ้นที่เมืองฮิโรชิมา ระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะมีบรรดาผู้นำประเทศและบุคคลสำคัญเดินทางไปร่วมประชุมจำนวนมาก
นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นได้ประกาศให้คำมั่นว่า จะปกป้องบรรดาผู้ที่มาร่วมประชุมให้ปลอดภัยที่สุด
คิชิดะยังประกาศด้วยว่า การกระทำรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างการเลือกตั้ง ที่ถือว่าเป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และสิ่งสำคัญก็คือ จะต้องทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ ผ่านพ้นอุปสรรคไปให้ได้!!
เครดิตภาพ “รอยเตอร์”
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022